9 มี.ค.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนจำนวนมากแชร์ภาพอันสุดประทับใจคุณลุงวัย 80 ปี หอบเหรียญบาทจำนวนมากที่เก็บสะสมไว้ตลอดทั้งมาเทกองกับพื้นแล้วหยิบหยอดใส่ตู้บริจาคให้กับโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ นำไปซื้อเตียงให้กับคนไข้ โดยภาพประทับใจดังกล่าวมีการแชร์แพร่กระจายไปตามสื่อออนไลน์ต่างๆอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคำชื่นชมเป็นจำนวนมาก

จากกรณีดังกล่าว นางณัชชา สุขพล เจ้าพนักงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าเมื่อช่วงสายของวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่กำลังทำงานบริการอยู่ในห้องประชาสัมพันธ์ ก็ได้พบคุณตาท่านหนึ่งเปิดประตูเข้ามาในโรงพยาบาล ตนสังเกตเห็นในมือของคุณตากำลังเหมือนอุ้มอะไรมาสักอย่างที่มีน้ำหนักไม่น้อย จึงเดินเข้าไปสอบถามว่ามาหาหมอหรือไม่อย่างไร แต่ทางคุณตาปฏิเสธว่าไม่ได้มาหาหมอแต่จะมาบริจาคเงิน หลังจากนั้นคุณตาก็นั่งลงบนพื้นปูนพื้นหน้าตู้รับบริจาคแล้วเปิดกระเป๋าที่อุ้มมายกคว่ำลงเทเหรียญ 1 บาท จำนวนมากกองลงกับพื้นแล้วหยิบเหรียญค่อยๆทยอยใส่เข้าไปในช่องตู้รับบริจาค ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับตนเองและประชาชนที่มาใช้บริการในโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก

นางณัชชากล่าวว่า ตนเองเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ จึงได้ขออนุญาตคุณตาถ่ายภาพซึ่งคุณตาก็ลุกขึ้นมาพร้อมทั้งควักเงินจากกระเป๋ากางเกงอีก 100 บาท มาโชว์และหย่อนใส่ลงไปในตู้บริจาค ส่วนเหรียญที่ยังเหลือกองอยู่กับตนพร้อมกับคุณตาและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลก็ได้ช่วยกันหยิบไปหยอดใส่ในตู้บริจาคด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าคุณตาวัยขนาดนี้ยังมีน้ำใจเก็บออมวันละ 1-2 บาท เพื่อนำมาบริจาคให้กับโรงพยาบาลเพื่อนำไปซื้อเตียงให้กับคนไข้

นางณัชชา กล่าวต่อว่าหลังจากที่หยิบเงินใส่ตู้บริจาคจนหมดและได้พูดคุยกับคุณตาสักพักแล้วคุณตาก็ขอตัวกลับบ้าน ส่วนตนเองก็ได้นำภาพอันประทับใจไปโฟสต์ลงในเฟซบุ๊คส่วนตัวและเพจของ รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อมีคนเข้ามาแชร์และคอมเม้นเป็นจำนวนมาก

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พยายามสืบหาที่อยู่ของคุณตาคนดังกล่าวจนทราบชื่อคือ นายบุญลาภ เกตุวารี อายุ 81 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 104/1 หมู่ที่ 12 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายสุรินทร์ ทวยนาค กำนันตำบลบ้านนา นายภานุวัฒน์ สวัสดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ตำบลบ้านนา และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

พบว่าเป็นบ้านบ้านสองชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูนปลูกอยู่ในถนนซอยห่างจากถนนสายท่ามะปริง-วิสัยเหนือ เพียง 100 เมตร อาศัยอยู่กับภรรยาคือ นางวรรณี เกตุวารี วัย 76 ปี และลูกชาย อีก 2 คน คือนายกุลมาตย์ อายุ 45 ปี ที่พิการทางสมอง และ นายจีรศักดิ์ อายุ 43 ปี

คุณตาบุญลาภ กล่าวว่าตนเองนั้นมีความมุ่งมั่นที่จะทำบุญให้มากๆและจะทำไปเรื่อยจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ เพราะการทำบุญนั้นเป็นการเสริมบารมี เพิ่มความสุขให้กับตนเอง และที่ผ่านมานั้นตนเองก็ทำบุญให้กับทางวัดมาแล้วเป็นเวลาหลายปี แต่ก็ต้องเปลี่ยนช่องทางการทำบุญบ้าง เพราะไปทำบุญให้กับวัด ก็มักจะนำไปสร้างโน้นสร้างนี้ ไปไม่รู้จักจบจักสิ้น เลยตัดสินใจนำเงินที่เก็บออมทุกวันๆละบาทสองบาท ที่เก็บมาตลอดทั้งปีกว่า 500 บาท ไปบริจาคให้กับทางโรงพยาบาลดีกว่า เพราะต้องการให้นำเงินไปซื้อเตียงให้กับคนไข้ได้นอนพักรักษาตัว และตนเองตั้งใจแล้วที่จะเก็บเงินที่ได้ตลอดทั้งปีนำบริจาคให้กับโรงพยาบาลเป็นประจำในทุกๆปีจนกว่าจะตาย แม้จะเป็นเงินไม่มากแต่ก็ถือว่าได้ทำบุญช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

นายทวีเกียรติ เกตุวารี อายุ 48 ปี ลูกชายที่แยกครอบครัวแต่ยังอยู่ในบริเวณใกล้กัน กล่าวว่าพ่อเป็นคนใจดี ร่าเริงและทุกวันพ่อจะใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบมาก ตอนเช้าๆพ่อจะพาน้องชายที่พิการทางสมองเดินออกกำลังกายเป็นระยะทางไปกลับกว่า 2-3 กม. และตลอดเส้นทางที่เดินออกกำลังกายพ่อก็ยังเก็บขยะกลับมาคัดแยกเพื่อขายและจะนำเงินนั้นสะสมไว้จนครบปีเพื่อนำไปทำบุญ ที่ผ่านมาตนเองรู้เพียงว่าพ่อมักเอาเงินที่เก็บทั้งปีนำไปถวายให้กับทางวัด แต่ไม่คิดว่าครั้งนี้พ่อพาบริจาคให้กับโรงพยาบาลในตัวเมืองชุมพร และเป็นที่ซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากให้กับครอบครัวหลังมีกระแสข่าวของภาพประทับใจที่ทางเจ้าหน้าที่ได้โฟสต์ลงในสื่อออนไลน์ จนมีคนชื่นชมพ่อตนอย่างมาก

นายภานุวัฒน์ สวัสดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 กล่าวว่าเดิมที่คุณตาบุญลาภนั้นเป็นคนจาก อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้ย้ายถิ่นมาสร้างครอบครัวที่ หมู่ที่ 12 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อกว่า 30 ปีที่ผ่านมาเป็นคนดีมีน้ำใจโอบอ้อมอารี จนเป็นที่เคารพนับถือในหมู่บ้าน และครั้งนี้ทราบว่าคุณตาได้นำเงินเก็บซึ่งเป็นเหรียญกว่า 500 บาทที่สะสมหยอดใส่กระป๋องออมสินจนครบปี นำไปบริจาคให้กับทางโรงพยาบาลชุมพร ทำให้คนในหมู่บ้านปลื้มยินดีไปด้วย ที่เห็นคนในหมู่บ้านได้สร้างคุณงามความดีจนเป็นภาพประทับใจออกไปสู่สาธารณชน

ด้านนายสุรินทร์ ทวยนาค กำนันตำบลบ้านนา กล่าวว่าจากที่ได้สัมผัสคุณตาบุญลาภมาทำให้ตนเองได้เรียนรู้และรู้จักการดำรงชีวิตการครองตนมากขึ้น เพราะคุณตาได้สะสมและได้สั่งสอนให้คนทั่วไปได้เห็นว่าการอยู่อย่างไร ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ทำอย่างไรให้อยู่ได้อยากพอเพียงและอยู่อย่างไรที่จะแทนคุณแผ่นดินอาศัย และคุณตาลาภมักจะพูดอยู่เสมอว่าคนไทยเราที่อยู่ได้มาถึงทุกวันนี้นั้นก็ด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ปกป้องกอบกู้เอกราช จนมาเป็นแผ่นดินไทยให้เราได้อาศัยอยู่อย่างเป็นสุขได้ทุกวันนี้ ที่บ้านของคุณตาจึงเต็มไปด้วยรูปภาพของพระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลที่ 10 กระทั้งสร้อยที่แขวนคอคุณตาก็จะนำเหรียญทุกยุคทุกสมัยของทุกรัชกาลมาใส่กรอบขึ้นไว้ที่คออยู่ตลอด โดยคุณตามักจะพูดอยู่ประจำว่าบูชาพ่อหลวงดีกว่าบูชาหลวงพ่ออีกด้วย