“มะเร็ง” นับเป็นโรคร้ายที่ไม่มีใครอยากเผชิญ ยิ่งเป็น “มะเร็งในเด็ก” ยิ่งชวนให้พ่อแม่ ญาติ พี่น้องและเพื่อนๆ ต่างทุกข์ใจที่ต้องเห็นเด็กตัวน้อยมาทนทรมานกับอาการของโรค และยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของเด็กและวัยรุ่น
แพทย์หญิงขวัญนุช ศรีกาลา กุมารแพทย์ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี ในเครือ “พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์” ระบุว่า สาเหตุของโรคมะเร็งในเด็กเป็นโรคที่เกิดกับเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดา จนถึงเด็กที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี มักเกิดจากการกลายพันธุ์ของเซลล์ที่กำลังเจริญเติบโต แต่มีปัจจัยร่วมหรือปัจจัยเสริม เช่น อาจเป็นสิ่งแวดล้อม การติดเชื้อ ยาฆ่าแมลง สารพิษที่ปนเปื้อนในน้ำดื่ม การบริโภคของมารดาขณะตั้งครรภ์ และการที่เด็กได้รับรังสีบางชนิดในปริมาณสูง มักจะพบได้ 1 ใน 10 ของโรคมะเร็งในผู้ใหญ่ โดยมีมะเร็งเม็ดเลือดขาวมากกว่าร้อยละ 50 รองลงมาคือ มะเร็งสมอง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งต่อมหมวกไต ซึ่งมะเร็งในเด็กนั้นนับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของเด็กและวัยรุ่น
ทั้งนี้ โรคมะเร็งในเด็กแบ่งเป็น 4 ระยะ สำหรับอาการแสดงของมะเร็งแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน เช่น มีไข้ ซีด เลือดออกผิดปกติ มีก้อน ซึมลงชัด อ่อนแรง ซึ่งอาการก็มักจะเหมือนความเจ็บป่วยทั่วๆ ไป แต่มักจะมีลักษณะเฉพาะบางอย่าง ต้องอาศัยการตรวจร่างกาย การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อช่วยในการวินิจฉัย ซึ่งระยะของโรคมะเร็งในเด็กแต่ละชนิดมีรายละเอียดแตกต่างกันไป โดยทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็น 4 ระยะเช่นเดียวกับผู้ใหญ่
สำหรับอาการเบื้องต้นที่พบบ่อยคือ คลำได้ก้อนที่ไม่เจ็บที่บริเวณคอ รักแร้ หรือขาหนีบ อ่อนเพลีย วิงเวียน เหงื่อออกช่วงกลางคืน กระสับกระส่าย ปวดหลัง ปวดขา ปวดข้อ ปวดศีรษะ มึนงง ฟกช้ำง่าย หรือมีเลือดออกง่าย ต่อมน้ำเหลืองโต ท้องอืดโต มีไข้โดยไม่มีสาเหตุอื่น ตับหรือม้ามโต เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เลือดออกตามไรฟัน หรือมีจุดแดงตามผิวหนัง ร่างกายอ่อนแอ มีภาวะติดเชื้อบ่อย
ทั้งนี้ โรคมะเร็งในเด็กที่พบได้บ่อย มีทั้งมะเร็งชนิดเดียวกับผู้ใหญ่และชนิดที่ต่างจากผู้ใหญ่ แต่ส่วนมากชนิดของมะเร็งเกือบทั้งหมดจะเป็นชนิดที่แตกต่างจากในผู้ใหญ่ ได้แก่ มะเร็งเม็ดเลือดขาว ซึ่งพบมากกว่าร้อยละ 50 ของมะเร็งทั้งหมด โรคมะเร็งสมอง โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคมะเร็งต่อมหมวกไต อย่างไรก็ตาม หลายปีที่ผ่านมาการรักษามะเร็งในเด็กในประเทศไทยดีขึ้นมาก ผลการรักษาค่อนข้างดีใกล้เคียงกับต่างประเทศ และเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกันนั้น ประเทศไทยก็มีประสิทธิภาพดีกว่า โรคมีความรุนแรงสูง แต่สามารถรักษาหายได้
โรคมะเร็งในเด็กสามารถรักษาด้วยวิธีเดียวกับการรักษาโรคมะเร็งในผู้ใหญ่คือ การผ่าตัด ให้ยาเคมีบำบัด การเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก และการฉายแสง แต่การที่แพทย์จะเลือกวิธีการใดนั้น ขึ้นอยู่กับระยะของโรคมะเร็ง การตอบสนองต่อเคมีบำบัด ชนิดของโรคมะเร็ง อวัยวะที่เป็นมะเร็ง อายุของเด็ก และสุขภาพร่างกายของเด็ก ซึ่งโรคมะเร็งในเด็กมักจะมีความรุนแรงสูง แต่ก็สามารถรักษาหายได้ ส่วนการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงก่อมะเร็ง ทางการแพทย์ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดมะเร็ง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ หรือสารก่อมะเร็งจากอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว โดยเฉพาะคุณแม่ที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงสารก่อมะเร็งชนิดต่างๆ เช่น อาหารสำเร็จรูป บุหรี่ และแอลกอฮอล์ และคอยหมั่นสังเกตเด็ก หากพบความผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์โดยทันที.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |