"บิ๊กตู่" ยันเลือกตั้งซ่อมเป็นเรื่องการแข่งขันในพื้นที่ พรรคร่วมรัฐบาลยังรักกันเหมือนเดิม เผยให้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีใหม่ภายในสัปดาห์นี้ หนาว! "บิ๊กป้อม" ยังไม่แน่ส่งผู้สมัครชิงเก้าอี้ ส.ส.ภาคใต้อีกหรือไม่ แล้วแต่ความพร้อม “จุรินทร์" ลั่นประชาธิปัตย์มีวุฒิภาวะที่จะเข้าใจได้ว่าอะไรเป็นอะไร

    เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่าไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลเปลี่ยนไป ยังรักกันอยู่เหมือนเดิม ตรงนี้เป็นเรื่องของพื้นที่แข่งขัน เป็นเรื่องของประชาชนว่ากันไป ในส่วนอื่นๆ ก็จะมีการพิจารณาต่อไปอีกครั้ง เพราะการเลือกตั้งคงไม่ได้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ยังมีอีกหลายครั้งด้วยกันในระยะต่อไป ขอให้ได้คนดีๆ มาทำงานแค่นั้น ไม่มีผลต่อการปรับเก้าอี้คณะรัฐมนตรีอะไรทั้งสิ้น มันจบไปแล้ว
 ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับ ครม.เสร็จสิ้นแล้วใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ถ้าเสร็จสิ้นก็คือถวายสัตย์ปฏิญาณ เข้าใจหรือไม่ กระบวนการวันนี้รอพรรคส่งขึ้นมา จากนั้นก็อยู่ที่นายกฯ ที่จะต้องทำขั้นตอนทางธุรการ สอบประวัติ ทำอะไรต่างๆ ให้เรียบร้อยที่สุด และทำเรื่องขอเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ กระบวนการมันเป็นอย่างนี้ไม่ใช่หรือ
    ถามว่าแต่ละพรรคส่งชื่อถึงมือนายกฯ แล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงว่า ยังไม่ได้ส่ง แต่บอกให้ส่งสัปดาห์นี้ ทำไมอยากรู้จริงๆ เลยหรือไง
    "การสร้างความเชื่อมั่น ผมอยู่ตรงนี้ และผมก็ทำทุกอย่างให้หมด อะไรต่างๆ ที่อยู่ในการควบคุมในนโยบายของผม ผมก็ทำที่สุดแล้ว เข้าใจหรือไม่ อย่าไปรังเกียจรังงอนคนเขามากนักเลย อย่าลืมว่าประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งที่ให้ความสำคัญกันมา เลือกตั้งกันมาอย่างไรก็ได้ ส.ส.มา ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ผมคิดว่าแบบนั้น และผมก็จะดูคนที่เหมาะสม พิจารณาลำดับความสำคัญตามกระทรวงที่สำคัญเข้าใจหรือไม่ โอเค อย่าไปตีให้มันเละเทะกันอีกเลย ปรับแล้ววันหน้าก็ปรับอีกได้"
    เมื่อถามว่าในส่วนกระทรวงศึกษาธิการยึดหลักอะไรในการพิจารณาตัวบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี นายกฯ ตอบว่า ต้องเป็นคนที่มีคุณวุฒิทางการศึกษา มีประวัติการศึกษา มีการทำงานในช่วงที่ผ่านมา ก็เลือกแบบนั้น ไม่ใช่เอาคนไม่รู้เรื่องการศึกษามาเลย มันก็ไม่ใช่ เข้าใจหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นกระทรวงสำคัญที่สุด
    มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กว่า 20 นาที ซึ่งคาดว่าเป็นการพูดคุยเรื่องผลการเลือกตั้ง รวมทั้งการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีที่ว่างอยู่ในขณะนี้
    ขณะที่ พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้สมัครของพรรคพปชร.ชนะการเลือกตั้งซ่อมเขต 3? จ.นครศรีธรรมราช ว่าขอบคุณคนใต้ที่ลงคะแนนให้พรรค พปชร. ขอบคุณทุกคน
    ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ทิศทางทางการเมืองในภาคใต้จะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกฯ ตอบว่า เป็นเรื่องของประชาธิปไตย ก็ว่ากันไป ไม่มีการโกรธกัน ไม่มีอะไร ไม่กระทบความสัมพันธ์ เป็นเรื่องของประชาธิปไตย
    เมื่อถามว่า หากมีการเลือกตั้งภาคใต้อีก พรรคพลังประชารัฐจะส่งลงแข่งขันหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่แน่ ก็แล้วแต่ว่าเรามีความพร้อมหรือไม่
    ถามว่าได้ยกหูคุยกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือยัง พล.อ.ประวิตรตอบว่า ก็ไม่มีอะไรกัน เพราะได้พูดคุยกันตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งซ่อมแล้ว และระหว่างหาเสียงก็คุยกัน ยืนยันว่าไม่มีอะไรเพราะเป็นเรื่องประชาธิปไตย สื่อก็พยายามทำให้ทะเลาะกันอยู่เรื่อย
    ซักว่าสถานการณ์เช่นนี้จะทำให้เปลี่ยนใจส่งผู้สมัครลงชิงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามพรรค พปชร.หรือไม่ หัวหน้าพปชร.กล่าวว่า "ไม่ส่ง"
    นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า การเลือกตั้งซ่อมจังหวัดอื่น ต้องว่าเป็นรายเขตเลือกตั้งไป และทุกอย่างต้องนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่าจะส่งหรือไม่ส่งผู้สมัคร
    ด้านนายจุรินทร์กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งเป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขันที่จะมีคนแพ้และคนชนะ ที่ผ่านมาพรรคก็มีทั้งแพ้และชนะ อย่างเช่นการเลือกตั้งนายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัด พรรคได้รับชัยชนะหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตาม สำหรับการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เพราะเราได้เสียงจากชาวนครศรีฯ เพิ่มขึ้นกว่าการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อครั้งที่ผ่านมาถึงกว่า 10,000 เสียง เป็นจุดหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณาและเป็นกำลังใจให้กับพรรคเดินหน้าต่อไป รอบนี้ผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมของพรรคเป็นคนรุ่นใหม่ ถือเป็นการนำการเลือกตั้งครั้งแรกในชีวิตที่ประสบความสำเร็จ เราจึงถือว่ามีคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในอนาคต   
    นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งมีทั้งจุดอ่อนจุดแข็งทั้งนั้น ดังนั้น พรรคการเมืองก็ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เฉพาะประชาธิปัตย์ ทุกพรรคต้องมีพลวัตคือปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราก็คงต้องมีการประเมินเป็นการภายใน พวกเราทุกคนยังเข้มแข็งกำลังใจดี และยังคงสู้เพื่อนำพรรคสู่ความสำเร็จต่อไป
    เมื่อถามถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่จังหวัดชุมพรและจังหวัดสงขลา นายจุรินทร์กล่าวว่า ที่จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์เพิ่งได้รับชัยชนะเหนือคู่แข่งด้วยคะแนนที่สูงกว่าจำนวนมาก แต่ไม่อยากพูดถึงการเลือกตั้งซ่อมไปก่อน เพราะขณะนี้ยังถือว่าทุกคนยังเป็น ส.ส. จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีวินิจฉัยเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ถ้ามีการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่เดิม พรรคก็ต้องลงไปดูว่าจะดำเนินการอย่างไร  
    เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมจะส่งคนลงเลือกตั้งซ่อมในจังหวัดชุมพรและจังหวัดสงขลา จะสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า เคยพูดเรื่องนี้ไปหมดแล้ว ขอยืนยันพรรคยังมีจุดยืนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนพรรคการเมืองใดจะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นเรื่องของพรรคการเมืองนั้น  
    “ผมทำการเมืองมานาน อย่างน้อยที่สุดประชาธิปัตย์มีวุฒิภาวะที่จะเข้าใจได้ว่าอะไรเป็นอะไร พรรคอยู่มา 70 กว่าปี ฉะนั้นเราเข้าใจกระบวนการทางการเมืองดี เพียงแต่วันหนึ่งได้คะแนนน้อยบ้างมากบ้างเป็นเรื่องปกติ เรามั่นใจสิ่งที่เราคิดสิ่งที่ทำ ทำบนสถาบันทางการเมืองที่ต้องการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้สามารถยืนหยัดได้อย่างยั่งยืน ซึ่งพรรคการเมืองเป็นกลไกสำคัญ ฉะนั้นพรรคการเมืองต้องมีวุฒิภาวะทางการเมืองด้วย ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อระบอบประชาธิปไตยและระบบรัฐสภา อันนี้ไม่ได้พูดถึงพรรคการเมืองอื่น แต่เราพูดถึงตัวเราเอง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว  
    นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กว่า ต้องขออภัยต่อทุกท่านที่ไม่สามารถทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ได้ ทีมงานทุกคนได้ทุ่มเทสรรพกำลังอย่างสุดความสามารถ ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องเคารพในฉันทามติของพี่น้องประชาชน และขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของพรรคพลังประชารัฐ ด้วย
    นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ?(พปชร.) ฝ่ายกฎหมาย ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ งดลงคะแนนให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย? กับกรณีนายสมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง งดลงคะแนนให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าคณะกรรมการฯ เสนอให้ ส.ส.ทั้งหมดแสดงสปิริตไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ในพรรค และตำแหน่งทั่วไป เช่น กรรมาธิการ เป็นเวลา 6 เดือน ขณะเดียวกันพรรค พปชร.เตรียมให้ ส.ส.ทั้ง 7 คนมาแถลงข่าวขอโทษสมาชิกพรรคที่ขัดฉันทามติอย่างเป็นทางการ.