‘วัฒนา’เย้ยกูไม่กลัวมึง


เพิ่มเพื่อน    

  "วัฒนา" เย้ย คสช. "กลัวจัง" ยัน 21 พ.ค.ไปรับทราบข้อกล่าวหา ย้ำไม่ร่วมสังฆกรรมทางการเมืองกับเผด็จการ ยืมคำพูด "คึกฤทธิ์" กูไม่กลัวมึง แกนนำแดงลั่นจะขนอดีต ส.ส.พรรคไปให้กำลังใจ "วินธัย" เผยเป็นสิทธิ 8 แกนนำฟ้องกลับ ไปเจอกันที่ศาล ขณะที่แดงรำลึกเผาเมือง ร้านรวงราชประสงค์แห่ปิดให้บริการ หวั่นมือที่สามแทรก "ณัฐวุฒิ" ยันไม่มีแดงฮาร์ดคอร์ มีแต่แดงสันติวิธี

    นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย หนึ่งในแปดผู้ต้องหาตามที่ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืนประกาศ คสช.  และทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โพสต์เฟซบุ๊กเยาะเย้ย คสช. ตั้งหัวข้อว่า “กลัวจัง” มีเนื้อหาระบุว่า 
    ทุกท่านคงทราบข่าวที่ คสช.ได้แจ้งความดำเนินคดีกับพวกผมรวม 8 คน ในข้อหามั่วสุมทางการเมืองจากการแถลงข่าวที่พรรค โดย 3 คนที่ขึ้นไปแถลงบนเวทีคือผม คุณจาตุรนต์ และอาจารย์ชูศักดิ์ ถูกกล่าวหาว่าทำความผิดต่อความมั่นคงเพิ่ม ส่วนแอดมินเพจของพรรคถูกกล่าวหาจากการถ่ายทอดสดการแถลงข่าวผ่านเฟซบุ๊ก
       พวกผมจะไปรับทราบข้อกล่าวหาที่กองปราบฯ ในวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม เวลา 10.30 น. ซึ่งตามขั้นตอนปกติ เมื่อพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาและสอบคำให้การซึ่งทุกคนจะปฏิเสธแล้ว จะอนุญาตให้กลับ เพราะไม่มีเหตุที่จะต้องควบคุมตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นบุคคลสาธารณะ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่มีเจตนาหลบหนี แต่คดีนี้ผมได้ข่าวว่าอาจจะมีการนำตัวพวกผมไปฝากขังต่อศาลเหมือนที่ทำกับประชาชนกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง
         ก่อนการแถลงข่าวได้มีตำรวจมาที่พรรคเพื่อยับยั้งการแถลงข่าว แต่พวกผมเห็นว่าการแถลงข่าวเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ เพื่อสื่อสารให้ประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจได้ทราบว่า ภาษีและอำนาจของพวกเขาที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งยึดมาจนครบ 4 ปีแล้วนั้นได้ถูกใช้ไปอย่างไร จึงเป็นการทำหน้าที่ของนักการเมืองเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน หากกลัวเผด็จการจนไม่กล้าทำหน้าที่ ก็ไม่สมควรเป็นนักการเมือง พวกผมจึงตัดสินใจเดินหน้า
         นายวัฒนาระบุว่า พฤติกรรมที่ คสช.ปฏิบัติกับพรรคเพื่อไทยคือการยืนยันว่า คสช.กับพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง คำถามที่เคยเกิดขึ้นว่าหลังเลือกตั้งจะเกี้ยเซี้ยกับเผด็จการหรือไม่ ก็คงไม่ต้องตอบอีก ขอยืนยันอีกครั้งว่าพวกผมจะไม่ร่วมสังฆกรรมทางการเมืองกับเผด็จการ รวมทั้งจะไม่ร่วมทำกิจกรรมใดที่ผิดไปจากครรลองประชาธิปไตยทั้งสิ้น ทั้งยังจะตรวจสอบการใช้อำนาจของเผด็จการด้วย หากมิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน จะเอาตัวมาขึ้นศาลเพื่อรับโทษ อยากยืมคำอาจารย์คึกฤทธิ์มาบอกเผด็จการอีกครั้ง ใครจำได้ช่วยบอกให้ที
กูไม่กลัวมึง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปี 2530  มีทหารพรานจู่โจม ค่ายปักธงชัย หลายร้อยคนบุกพังรั้วบ้านสวนพลู ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกฯ เป็นเหตุให้ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์เขียนบทความ "กูไม่กลัวมึง" ตีพิมพ์ใน นสพ.สยามรัฐ     
    ทั้งนี้ บทความ "กูไม่กลัวมึง" ได้วิพากษ์แนวคิดสภาเปรซิเดียม หรือรัฐไทยใหม่ ของเครือข่าย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รักษาการ ผบ.สส.ในขณะนั้น ขณะที่ปัจจุบัน พล.อ.ชวลิตเป็นที่นับถือของพรรคเพื่อไทย 
    ด้านนายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย อีกหนึ่งในแกนนำพรรคเพื่อไทยที่ถูกฝ่ายกฎหมาย คสช.แจ้งความดำเนินคดี กล่าวว่า วันที่ 21 พ.ค. ตนจะเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กองบังคับการปราบปรามตามที่มีการนัดหมาย คิดว่าคนที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 8 คนจะเดินทางไปครบทั้งหมด โดยตนจะให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา เพราะที่มีการกล่าวหาว่าชุมนุมทางการเมืองนั้น 
    "ขอเรียนว่าเราไม่ได้ชุมนุมทางการเมืองที่ขัดกับคำสั่ง คสช. หวังว่าพนักงานสอบสวนจะรับฟังการอธิบายและคำให้การของคนที่ถูกกล่าวหา วันนี้สถานการณ์การเมืองกำลังคลี่คลายก้าวไปสู่การเลือกตั้ง อยากเห็นการนำประเทศไปสู่สภาพบ้านเมืองปกติ เปิดพื้นที่เสรีภาพ ปลดล็อกทางการเมือง คนไทยจะได้มีความปรารถนาดีต่อกัน ช่วยให้ทุกฝ่ายนำบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าร่วมกัน เมื่อถามว่าได้เตรียมหลักทรัพย์ไปประกันตัวหรือไม่ นายนพดลตอบว่า ตนมีการเตรียมความพร้อมหลักทรัพย์ไว้ประกันตัวไว้ หากต้องประกันตัว" นายนพดลกล่าว
    นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม เพราะการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลที่ใช้เงินภาษีของประชาชนเป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง และรัฐธรรมนูญให้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นไว้ แต่กลับถูกแจ้งข้อกล่าวหารุนแรงเกี่ยวกับความมั่นคงในมาตรา 116 ทั้งที่ความจริงแล้วการบริหารประเทศล้มเหลว คนยากจน ยาเสพติดล้นเมือง กระทบความมั่นคงมากกว่าการแถลงข่าว อย่างไรก็ตาม วันที่ 21 พ.ค. ที่แกนนำพรรคเพื่อไทยจะไปรับทราบข้อกล่าวหานั้น ตนและอดีตส.ส.ของพรรคจะเดินทางไปให้กำลังใจแกนนำพรรค เพราะทุกคนเป็นสมาชิกพรรค มีภารกิจในการปกป้องพรรค
เจอกันที่ศาล
    ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวถึงแกนนำพรรคเพื่อไทยจะแจ้ง คสช. พนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับทางพรรคเพื่อไทยและสมาชิกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าววิพากษ์วิจารณ์ผลงาน 4 ปีรัฐบาล คสช. เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ก็เป็นสิทธิของแกนนำพรรคเพื่อไทยที่จะแจ้งความ คสช. สุดแล้วแต่เลย ถ้าจะดำเนินการแบบนั้น หากแกนนำพรรคเพื่อไทยแจ้งความจริง ก็ต้องไปสู้คดีกันในกระบวนการ 
    เขายืนยันว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องทุกข์กล่าวโทษการแถลงข่าววิพากษ์วิจารณ์ผลงานรัฐบาล 4 ปีของพรรคเพื่อไทยนั้น ดำเนินการไปตามกรอบกฎหมาย อำนาจหน้าที่ เพื่อที่จะรักษากฎกติกาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองให้ได้มากที่สุด
    โฆษก คสช.ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 8 ปี การสลายการชุมนุม 19 พฤษภาคม2553 ว่า การแสดงออกและการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ไม่จำเป็นต้องทำวันนี้ จะทำวันไหนก็ได้ ซึ่งตนคิดว่าการเคลื่อนไหวอะไรต่างๆ ต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมาย จะละเมิดกรอบกฎหมายไม่ได้ เพราะจะส่งผลกระทบด้านจราจร และจะทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เกิดความเดือดร้อน ทั้งนี้ การแสดงออกและการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์นั้น ก็เป็นกลุ่มคนเดิมๆ ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องพยายามอธิบายทำความเข้าใจให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะทำให้เกิดความเรียบร้อยของบ้านเมือง
    แหล่งข่าวใน คสช.เปิดเผยว่า การดำเนินคดีกับการแถลงข่าวของแกนนำพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวข้องกับการรับมือก่อนการชุมนุมวันที่ 22 พ.ค.นี้ ซึ่งการแถลงข่าว 17 พ.ค.ที่ผ่านมา แตกต่างจากการให้สัมภาษณ์ครั้งก่อนๆ เพราะไม่ใช่แค่การให้สัมภาษณ์จ่อไมค์เท่านั้น แต่เป็นการจัดแถลงเพื่อโจมตีโดยตรง ดังนั้นฝ่ายกฎหมายคสช.จำเป็นจะต้องปรามและดำเนินคดี ไม่เช่นนั้นอาจกระทำเช่นนี้อีกในอนาคต แล้วนำไปเปรียบเทียบว่าทำไมในอดีตสามารถทำได้
    แหล่งข่าว คสช.ยังเปิดเผยถึงการชุมนุมทางการเมืองเพื่อรำลึกเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง 19 พ.ค.2553 ที่แยกราชประสงค์ นำโดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ว่าไม่มีความเป็นห่วง แต่สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง 22 พ.ค.นี้ ครบรอบ 4 ปี คสช. ยอมรับว่าหากมีการเคลื่อนการชุมนุมจากบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มายังทำเนียบรัฐบาล ทาง คสช.ก็ขอผู้ชุมนุมอย่าเคลื่อนขบวนออกมา เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ปะทะได้ หรือส่งผลต่อการจราจร โดยขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมยึดตามกรอบกฎหมายในการชุมนุม โดยหน้าที่หลักในการดูแลการชุมนุมจะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ในการเตรียมการต่างๆ เจ้าหน้าที่จะต้องประคับประคองสถานการณ์    
ครบ 4 ปี คสช.ม็อบชุก
    นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) กล่าวถึงการเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนต่างๆ ในขณะนี้  โดยเฉพาะกลุ่มฮาร์ดคอร์ ที่อาจผสมโรงก่อความวุ่นวายว่า ในประเด็นแรกคือ ด้วยครบรอบ 4 ปี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำให้กลุ่มการเมืองหรือกลุ่มมวลชนต่างๆ สนใจที่จะแสดงสัญลักษณ์ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักในช่วงหลังของการเมืองไทย กลุ่มการเมืองจึงพยายามทำกิจกรรม โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับ คสช. แต่เผอิญว่าเรายังอยู่ในช่วงที่ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง ตำรวจจึงต้องบังคับใช้กฎหมาย
    และประเด็นที่สอง ในช่วงนี้พรรคการเมืองซึ่งกำลังทำกิจกรรมทางการเมือง สนใจใช้โอกาสนี้ในการแสดงจุดยืนทางการเมือง จากสองประเด็นข้างต้นนี้ ทำให้ตำรวจห่วงเรื่องกลุ่มคนที่นิยมความรุนแรง หรือที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เรียกว่าฮาร์ดคอร์ อาจจะใช้ประโยชน์ตรงนี้ ตำรวจจึงต้องเพิ่มมาตรการดูแลเป็นพิเศษ ตั้งด่านความมั่นคงทั่วประเทศ เพื่อคัดกรองคนที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ หรือในพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ และเพ่งเล็งที่กลุ่มเหล่านี้ ซึ่งตนคิดว่าทางตำรวจเขาดูแลทุกกลุ่ม ไม่ใช่เฉพาะสีใดสีหนึ่ง 
    เขาบอกว่า ฝ่ายความมั่นคงเองไม่ได้ประเมินว่าจะมีแนวโน้มการเกิดความรุนแรงอะไร เพียงแต่ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเท่านั้นเอง เพราะเป็นช่วงของเดือนที่มีกิจกรรมทางการเมือง จึงต้องไม่ประมาท อย่างบางเรื่องที่พรรคการเมืองทำผิดคำสั่ง คสช. ก็ต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย ฟ้องร้องดำเนินการรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมฝ่ายความมั่นคงดูทุกกลุ่ม แต่ในทางปฏิบัติของหน่วยงาน ก็อาจะมีบางพื้นที่ที่เขาเฝ้าระวังเป็นพิเศษ 
     ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า มาตรการในการดูแลความปลอดภัย ได้มีหนังสือสั่งการไปยังทุกกองบัญชาการ ให้ระดมกวาดล้างตรวจค้นอาวุธปืน พร้อมทั้งตั้งจุดตรวจสกัดตรวจค้นอาวุธหรือสิ่งต้องห้ามที่อาจจะลักลอบเข้ามาก่อเหตุ
    รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ส่วนที่แกนนำประกาศจะเคลื่อนผู้ชุมนุมมาที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น ขอบอกว่าเมื่อคุณเคลื่อนออกมา เจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมายทันทีโดยเฉพาะ พ.ร.บ.การจราจร กีดขวางการจราจร แต่ถ้าผู้ชุมนุมชุมนุมอยู่ที่ธรรมศาสตร์ ไม่ได้เคลื่อนออกมา ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน เป็นสิทธิ์ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญสามารถชุมนุมได้ ทางเจ้าหน้าที่จะดูแลความปลอดภัยให้ แต่ห้ามเคลื่อนออกมาด้านนอก อย่างไรก็ตาม ในวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนประมาณ 3 กองร้อย เพื่อรับมือในกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนออกมาด้านนอก
    ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำการชุมนุมส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ที่มีหมายจับหรือหมายเรียกคดี พ.ร.บ.ชุมนุมอยู่แล้ว เมื่อเจอตัวจะทำการจับกุมเลยหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่า การชุมนุมเป็นสิทธิตามกฎหมายที่สามารถกระทำได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายโดยเฉพาะบริเวณ 150 เมตร จากเขตพระราชวัง ห้ามชุมนุมอย่างเด็ดขาด
แดงรำลึกเผาเมือง
    อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท ได้สั่งการให้ทางตำรวจเฝ้าระวังปัญหามือที่ 3 ที่อาจใช้สถานการณ์นี้ก่อความวุ่นวาย โดยให้ตำรวจทั่วประเทศตั้งด่านความมั่นคง ระดมตรวจค้นอาวุธทุกประเภทตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมาถึงสิ้นเดือนนี้ 
    ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. เมื่อปี 2553 ได้จัดกิจกรรมครบรอบเหตุการณ์สลายการชุมนุม โดยมีนายณัฐวุติ ไสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. พร้อมด้วยนางธิดา ถาวรเศรษฐ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายเหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่ม นปช. เข้าร่วมกิจกรรม 
    นายณัฐวุฒิกล่าวว่า การจัดกิจกรรมนั้น เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในรูปแบบการทำบุญ มีญาติเข้าร่วมและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน โดยเราสัญญาว่าจะเดินหน้าเพื่อทวงถามความยุติธรรม เรียนผู้มีอำนาจว่า ไม่มีวาระซ่อนเร้น เผชิญหน้า หรือสร้างสถานการณ์ทางการเมืองแต่อย่างใด ตนต้องทำเพราะเป็นแกนนำ และไม่ได้ทำผิดกับเจ้าหน้าที่ในบ้านเมือง
    นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ในคดี 99 ศพของ นปช. อาการหนักกว่าเรื่องของการสร้างความปรองดองที่รัฐบาลทำไว้ ซึ่งไม่เห็นอะไรเลย แม้แต่เสียงอธิบายจากป.ป.ช. คดีนี้หลังจากยุติการชุมุนมแล้ว ทุกอย่างไปเริ่มต้นที่ ป.ป.ช. ผ่านมา 8 ปี วันนี้ทุกอย่างก็กลับไปรวมที่ศูนย์ ปกติยิ่งนานก็ยิ่งใกล้ แต่คดีนี้ยิ่งเดินยิ่งไกลเท่าเดิม และได้รับการเพิกเฉยไม่ได้มีการเหลียวแลจากองค์กรผู้มีอำนาจรับผิดชอบอย่าชัดเจน อย่างไรก็ตาม เรายังศรัทธาว่าวันนี้วันหนึ่งความยุติธรรมจะต้องกลับมาคืนสู่สังคมอีกครั้ง เพราะไม่มีสังคมไหนที่จะอยู่ใต้ความอยุติธรรมไปตลอดกาล
    "ความสูญของประชาชนเมื่อปี 2553 ยังไม่สร้างบทเรียนให้กับสังคมไทย ว่าบ้านเมืองนี้ต้องแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองด้วยวิธีทางประชาธิปไตย จนสุดท้ายก็เกิดการรัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค.2557 ขึ้นจนได้ ทั้งที่แท้จริงแล้วการรำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตทุกครั้งของสังคม ต้องหมายถึงการสรุปบทเรียนเพื่อให้เดินไปข้างหน้า แต่วันนี้กลายเป็นว่าเป็นการรำลึกอดีตเพื่อตอกย้ำความเจ็บปวดของผู้ถูกกระทำ แล้วยังไม่รู้ว่าจะหาความยุติธรรมจากที่ไหนสำหรับคนเจ็บคนตาย"  
    นายณัฐวุฒิกล่าวถึงการประเมินการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งว่า เชื่อว่าในการรวมตัวกันเป็นกลุ่มหนุ่มสาวปัญญาชนที่นิยมสันติวิธี ซึ่งถือว่าไม่ใช่ข้อเรียกร้องที่เกินเลย แต่ตรงกับความรู้สึกของคนไทยส่วนใหญ่ที่อยากให้มีการเลือกตั้ง ส่วนสถานการณ์จะบานปลายหรือไม่ เชื่อว่าขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ว่าจะแสดงออกต่อประชาชนอย่างไร และอยู่ที่การเปิดใจให้กัน แทนที่สกัดขัดขวางกลุ่มผู้ชุมนุม วันนี้เปิดหน้าเปิดตากันหมดแล้ว ประชาชนก็ได้มองเห็น 
มีแต่แดงสันติวิธี
    ขณะเดียวกัน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระบุว่ากลุ่มเสื้อแดงฮาร์ดคอร์อย่าแหลมออกมา ส่วนตัวไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่หมายความว่าเป็นกลุ่มใด เพราะกลุ่มเสื้อแดงใช้วิธีสันติมาโดยตลอด จึงอยากให้เคารพการแสดงออก รวมถึงเชื่อว่ากลุ่มคนอยากเลือกตั้งไม่มีกลุ่มคนฮาร์ดคอร์อยู่ ดังนั้นฮาร์ดคอร์ที่ไหนจะแหลมหรือไม่แหลม ตนไม่ทราบ  แต่บอกว่าเจ้าหน้าที่อย่าแหลมออกมาก็แล้วกัน เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย
    ส่วนบรรยากาศการรวมตัวของกลุ่มแดงอิสระ, กลุ่ม 24 มิ.ย., กลุ่มพลังมด, กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง, กลุ่มพลเมืองโต้กลับ ฯลฯ ที่นัดรวมตัวเพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์รำลึก 8 ปี ของการสลายการชุมนุม ที่แยกราชประสงค์ มีการวางดอกไม้ จุดเทียน การแสดงเชิงสัญลักษณ์ 
    ทั้งนี้ ร้านแมคโดนัลด์ ราชประสงค์ ได้ปิดให้บริการเมื่อเวลา 15.00 น. ตามคำแนะนำของศูนย์การค้า โดยเจ้าหน้าที่อีโอดีจำนวนหนึ่งเข้ามาสังเกตการณ์เพื่อดูแลความเรียบร้อย ป้องกันมือที่ 3 เข้ามาก่อเหตุวุ่นวายบริเวณโดยรอบราชประสงค์
    ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการเคลื่อนการชุมนุมไปยังทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ว่าคงเป็นไปตามกำหนดการเดิม แม้ว่าทาง คสช.จะห้ามก็ตาม โดยข้อเรียกร้องยังคงเป็น 3 ข้อเหมือนเดิม และยังมีข้อเรียกร้องย่อยอีก ที่ผ่านมาได้มีการเจรจากับฝ่ายความมั่นคงอยู่ตลอด เพราะเราเชื่อว่าเราไม่ได้สร้างความวุ่นวายที่กระทบกับความมั่นคงใดๆ ดูได้จากการชุมนุมที่ผ่านมา ที่เคลื่อนไปยังหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ที่เราใช้ถนนช่องทางเดียว แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับดิสเครดิตว่าเราสร้างความวุ่นวาย
        นายรังสิมันต์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในการเคลื่อนการชุมนุมไปยังทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ จะมีผู้ชุมนุมมากน้อยแค่ไหน ก็อยากให้มีประชาชนมาร่วมเป็นจำนวนมาก โดยพยายามที่จะเดินไปให้ถึงทำเนียบรัฐบาลให้ได้ ส่วนจะมีการค้างคืนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่เบื้องต้นไม่ค้างคืน
        ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะถูกจับดำเนินคดีอีกครั้ง นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนชินแล้ว เพราะตลอด 4 ปีโดนจับเข้าคุกมาแล้ว 4 ครั้งแล้ว แต่ไม่มีใครอยากจะเข้าคุก
         เมื่อถามว่า หากเกิดการประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่จะแก้ปัญหาอย่างไร นายรังสิมันต์กล่าวว่า ทางกลุ่มได้ตั้งทีมสันติวิธีไว้หากเกิดปัญหาขึ้น โดยเป็นทีมด้านหน้าที่คอยเจรจาและประสานงานเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับผู้ร่วมชุมนุม ทั้งนี้ การดำเนินการจะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชนตัดสิน เพราะเห็นว่าการเลือกตั้งหากผิดไปจากเดือน พ.ย.61 ก็ถือว่าเป็นการผิดสัญญาแล้ว ซึ่งไม่มีเหตุผลรองรับที่จะไปเลือกตั้งในเดือน ก.พ.62.


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"