ฮื่ออ์อ์อ์....สรุปว่า แพ้ แต่ก็ยังไม่ถึงกับ แพ้ขาด สำหรับการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดหน่ะคอนซี้ถ่ำมะหราด ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่อาจต้องกระอักกระอ่วนใจอยู่มั่งเล็กน้อย คือการแพ้ในลักษณะที่แทบไม่ต่างไปจากถูกยกตีนลูบหน้าคราวนี้ กลับเป็นส้นตีนของคนภายในรัฐบาล หรือพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง อันนี้นี่แหละ...ที่อาจทั้งเหม็น ทั้งฉุน ทั้งอับอายขายขี้หน้า ชนิดอาจทำใจไม่ได้เอาง่ายๆ!!!
-----------------------------------------------------
คือสำหรับพรรคการเมืองที่สุดแสนจะเก่าๆ แก่ๆ เนื้อแตกลายงาซะยิ่งกว่ากระเบื้องราชวงศ์ถัง อย่างพรรค ประชาธิกัด นั้น ถ้าเทียบอายุ-อานามกับบุคคลธรรมดาโดยทั่วไปแล้ว คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า ได้ย่างเข้าสู่วัยแก่ วัยชรา แบบชนิดหง่อมแสนหง่อมเต็มที เรียกว่า...เก่าที่สุด แก่ที่สุด ชนิดหาใครแก่กว่านี้ เก่ากว่านี้ ไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ ด้วยเหตุนี้...ก็คงต้องถือเป็นเรื่องปกติ ธรรมดา ที่เรี่ยวแรงและกำลังวังชาในแต่ละด้าน อาจต้องมีอันลดๆ ลงไปมั่ง ไม่ว่าการสู้ศึกเลือกตั้งในแต่ละครั้ง แต่ละครา หรือสู้กับนักการเมืองด้วยกันเองภายในเวทีรัฐสภา หลังๆ นี้...โดยอากัปกิริยาจึงแทบไม่ต่างอะไรไปจากลุงแก่ๆ ที่ส่งเสียงโหยหวน ครวญคราง วานใครต่อใครให้ช่วย หามลุง...ไปตีกะมันที อะไรทำนองนั้น...
---------------------------------------------------
ดังนั้น...แม้ว่าในจังหวัดหน่ะคอนซี้ถ่ำมะหราด หรืออาจเรียกได้ว่าภาคใต้ทั้งแถบนั่นแหละ ความเป็น ประชาธิกัด เมื่อครั้งอดีต แทบไม่ต่างอะไรไปจาก ลัทธิศาสนา ชนิดใด ชนิดหนึ่ง นิกายใด นิกายหนึ่ง เอาเลยก็ไม่แน่ ถึงขั้นแม้จะเอาเสาไฟฟ้า เสาโทรเลข ถังขยะ ถังผ้าขี้ริ้ว ฯลฯ ใดๆ ก็แล้วแต่ มัดใส่ห่อ หรือหุ้มด้วยแพ็กเกจประทับตรายี่ห้อ ประชาธิกัด แล้วล่ะก็ ล้วนแล้วแต่ นอนมา โดยไม่จำเป็นต้องมี พระสวดนำหน้า เอาเลยแม้แต่องค์เดียว แต่มาถึง ณ ขณะนี้...แม้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแต่ละเขต แต่ละพื้นที่ นับวันมีแต่จะถูก เจาะไข่แดง ชนิดแทบเหลือแต่ไข่ขาวล้วนๆ และผู้ที่แสดงออกถึงขีดความสามารถในการเจาะ การดูดกลืน ได้อย่างน่าทึ่ง น่าประทับใจเอามากๆ กลับได้แก่บรรดานักการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลนั่นแหละเป็นหลัก โดยเฉพาะพรรคแกนนำรัฐบาลอย่าง พลังประชารัฐ ด้วยแล้ว เจาะซะจน ประชาธิกัด ไข่หายไปแล้วถึง 4 เขตจาก 8 เขต ที่เคยเป็นฐานที่มั่น ฐานบัญชาการ ของพรรคการเมืองพรรคนี้มาโดยตลอด...
--------------------------------------------------------
อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องเก็บๆ มาคิดๆ เป็น การบ้าน อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ ว่ามันเพราะอะไรกันแน่!!! ถึงได้ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลอย่าง ประชาธิกัด ดันต้องแพ้...กับ...แพ้ พรรคแกนนำรัฐบาลอย่าง พลังประชารัฐ แบบชนิดเที่ยวแล้ว เที่ยวเล่า ต้องเหม็นสาบ เหม็นส้นตีน ต้องอับอายขายหน้า ไม่ว่าชั่วขณะหรือนิรันดร์กาล ก็ยังมิอาจสรุปได้ชัดเจน ทั้งๆ ที่ต่างก็เป็น รัฐบาล ไปด้วยกันทั้งคู่ จะเป็นเพราะความเป็นรัฐบาลของ พลังประชารัฐ อาจเป็นอะไรที่เก๋กว่า เท่กว่า คือถือเป็นสายตรง โดยตรง ของ บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก ต่างไปจาก ประชาธิกัด ที่อ้อมไป-อ้อมมา เลี้ยวไป-เลี้ยวมา กว่าจะตกลงปลงใจเข้าร่วมรัฐบาล ก็ต้องอาศัยเงื่อนไข และเงื่อนไข่ ต้องผูกอะไรต่อมิอะไรที่สุดแสนหะรอมหะแรม จนอีนุงตุงนัง พะรุงพะรังกันไปพอสมควร...
-----------------------------------------------------
ยิ่งถ้าหากอะไรที่อีนุงตุงนัง พะรุงพะรัง แต่สุดแสนจะหะรอมหะแรมที่ว่านี้ มันเกิดไม่เป็นไปตามเงื่อนไข และเงื่อนไข่ เช่นถ้าหากพรรคแกนนำรัฐบาลอย่าง พลังประชารัฐ หรือโดย บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก ไปจนถึง 250 บิ๊กในหมู่วุฒิสมาชิก ดันปล่อยให้สิ่งที่ถือเป็นเหตุผล ข้ออ้าง ของ ประชาธิกัด ในการเข้าร่วมรัฐบาล นั่นก็คือการ แก้ไขรัฐธรรมนูญ มีอันต้องแท้ง หรือไปไม่เป็นซะดื้อๆ!!! ไม่ว่าจะภายใต้การผ่านมติวาระ 3 หรือภายใต้การวินิจฉัยชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญก็แล้วแต่ อันนี้นี่แหละ...ที่น่าคิด น่าสนใจ เอามากๆ ว่าพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง ประชาธิกัด จะทำการบ้าน หรือตอบคำถาม ซ.ต.พ. ออกไปในแนวไหน อย่างไร???
--------------------------------------------------------
เพราะถ้าหากยังทนอยู่ ทู่ซี้อยู่ พร้อมจะสูดกลิ่นส้นเท้า ส้นตีน แล้วทำท่าปานประหนึ่งกำลังสูดกลิ่นมาดามหอมชื่นใจ โอกาสที่จะตายด้วย โรคชรา ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ชนิดคุณพี่ องอาจ ของ ท่านขุนน้อย แทบไม่ต้องเสียเวลาไปสนใจควานหาตัวผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ให้ต้องเหนื่อยอก เหนื่อยแรง เพราะยังไงๆ...ย่อมมีแต่แพ้...กับ...แพ้ ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้นกางมุ้งเอาเลยก็ว่าได้ แต่ก็นั่นแหละ...สิ่งที่น่าสนใจเอามากๆ ก็คงหนีไม่พ้นไปจากเรื่องของ จังหวะ และ เวลา นั่นแล ที่ต่างฝ่ายต่างต้องหยิบเครื่องคิดเลขออกมาคำนวณเอาไว้ให้ถ้วนถี่ เพราะถือเป็นรายละเอียดที่ประณีตและซับซ้อนเอามากๆ สำหรับ สิ่งซึ่งต้องพิสูจน์ หรือ ซ.ต.พ. ว่าจะเป็นไปในรูปใด แบบใด...
-----------------------------------------------------
คือสำหรับ บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม-และบิ๊กป๊อก ที่ อยู่ยาวว์ว์ว์ ระดับอีเหลนเป๋น ประมาณ 6 ปี 7 ปี เกือบจะ 8 ปีเท่า ป๋าเปรม เข้าไปแล้ว การชิงจังหวะ ยุบสภา แล้วลากต่อออกไปอีก 5 เดือน 6 เดือน ย่อมต้องถือเป็น แต้มต่อ ที่สามารถกำเอาไว้ในมือได้อย่างมั่นคง แข็งแรง ไม่น้อยกว่า 250 วุฒิสมาชิกที่มีอยู่ภายในมือ หรือภายในกระเป๋ากุงเกง กันมาตั้งแต่แรก ขณะที่ ประชาธิกัด หรือพรรคร่วมรัฐบาลรายอื่นๆ นั้น ล้วนแต่ กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง ไปด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้น...การกำหนดช่วงจังหวะ เวลา ว่าเมื่อไหร่ ตอนไหน แบบไหน และอย่างไร??? จึงถือเป็นความสำคัญระดับฉกาจฉกรรจ์ระดับชี้เป็นชี้ตายเอาเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าหากเอาแต่พันพัว นัวเนีย แบบพะรุงพะรัง อีนุงตุงนัง ทั้งที่ทุกสิ่งทุกอย่างชักหะรอมหะแรมลงไปทุกที โอกาสที่จะตาย...กับ...ตาย ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี-หนีไม่พ้น กันไปเป็นแผงๆ ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย...
-----------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก “Los Angeles Times Syndicate” (อีกครั้ง)... “An optimist thinks the glass is half full; a pessimist thinks the glass is half empty. A realist thinks that if he sticks around, he’s eventually going to have to wash the glass. – ผู้มองโลกในแง่ดี คิดว่าแก้วน้ำเต็มอยู่ครึ่งหนึ่ง ผู้มองโลกในแง่ร้าย คิดว่าแก้วน้ำพร่องไปแล้วครึ่งหนึ่ง ส่วนผู้มองโลกตามความจริง คิดว่าหากไม่คิดจะไปไหน เอาแต่วนไป-วนมาอยู่ใกล้ๆ ท้ายที่สุดหนีไม่พ้นต้องกลายเป็นผู้ล้างแก้วใบนั้น...”.
--------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |