ในอดีตเมื่อเอ่ยถึงพื้นที่ในแถบภาคอีสาน หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คนส่วนใหญ่มักวาดภาพถึงแต่จังหวัดที่มีความร้อน แล้ง แห้ง กันดาร แต่ในปัจจุบัน ภูมิภาคอีสานกลายเป็นเป้าหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว เพราะเป็นดินแดนที่เดินทางได้สะดวก ทั้งโดยทางรถยนต์ เครื่องบิน หรือรถไฟ มีสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นเดียวกับภูมิภาคอื่นๆ และที่สำคัญคือ เป็นดินแดนที่มีความมั่งคั่งทางด้านอารยธรรมเกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม งานประเพณี หรืออาหารการกิน
จังหวัดสุรินทร์และจังหวัดบุรีรัมย์เป็นจังหวัดในกลุ่มอีสานใต้ และอยู่ในกลุ่มเมืองรอง หรือ Go Local ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นพื้นที่ที่ได้รับการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างอารยธรรมขอมโบราณและอารยธรรมสมัยใหม่ อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่สะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในดินแดนอีสานใต้ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7-8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เลือกมาประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ พร้อมเยี่ยมชมความพร้อมต่างๆ ทางด้านการท่องเที่ยว ซึ่งทำให้สองจังหวัดนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
นางสาวบุณยานุช วรรณยิ่ง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ (รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ) กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์และจังหวัดบุรีรัมย์ในปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับรอง แต่ได้รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงว่าเป็นเมือง 2 ยุค คือ มีบรรยากาศความเก่าแก่จากอารยธรรมขอมและแหล่งท่องเที่ยวด้านกีฬาที่ทันสมัยของโลกยุคปัจจุบันผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่วนเมืองสุรินทร์ เดิมขึ้นชื่อในเรื่องของปราสาทขอมโบราณ และมีวิถีชีวิตของผู้คนที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว มีแหล่งท่องเที่ยวชุมชน วิถีชีวิตคนกับช้าง และตลาดการค้าขายชายแดนไทยและกัมพูชา เป็นต้น ซึ่งถือเป็นจุดขายที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
“เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลได้เดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรนอกสถานที่ พร้อมแวะไปตรวจเยี่ยมชาวบ้านตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ถือเป็นการตอกย้ำให้ผู้คนทั่วไปได้รู้จักของดีของเด่นในพื้นที่สองจังหวัดนี้มากขึ้น เราจึงถือโอกาสแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งคณะรัฐมนตรีเคยไปเยือนอีกครั้งเพื่อเป็นทางเลือกตามรอยคณะรัฐมนตรี รับรองว่าเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวจะไม่ผิดหวัง และสามารถเดินทางมาได้ตลอดทั้งปี” ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสุรินทร์ กล่าว
สำหรับเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยคณะรัฐมนตรีสัญจรนั้น เริ่มต้นที่จังหวัดสุรินทร์ ตรง “ด่านช่องจอม” เป็นพรมแดนติดกับจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ความยาวตลอดแนวชายแดนประมาณ 110 กิโลเมตร มีจุดผ่านแดนถาวร 1 จุด คือ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอเสม็ด (Chong Chom border/O'Smach) อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ จุดนี้มีสินค้าพื้นเมือง และงานหัตถกรรมให้เลือกซื้อมากมาย เป็นจุดค้าขายชายแดนที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่ง
จากนั้นไปหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทอง จันทร์โสมา ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ รู้จักกันในนาม "หมู่บ้านผ้าไหมเอเปก" เพราะทำผ้าทอยกทองลวดลายชั้นสูงแบบราชสำนักสำหรับตัดเสื้อและทำผ้าคลุมไหล่ให้กับผู้นำและคู่สมรส เมื่อครั้งไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกเมื่อปี พ.ศ.2546
หมู่บ้านทอผ้ายกทอง "จันทร์โสมา" เป็นกลุ่มที่มีการอนุรักษ์และฟื้นฟูการทอผ้ายกทองชั้นสูงแบบราชสำนักไทยโบราณ โดยมีอาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย เป็นแกนนำ และเป็นผู้รวบรวมชาวบ้านท่าสว่าง มารวมกลุ่มกันทำงานทอผ้ายามว่าง ต่อมามีการพัฒนาเทคนิคการทอด้วยการทอสลับซ้อนดิ้นทองแบบราชสำนักกับและนำเทคนิคการทอผ้าแบบพื้นบ้านมาผสมผสานกัน จนกลายเป็นผ้าไหมยกทองโบราณที่มีความอ่อนช้อยวิจิตรงดงาม
นอกจากนี้ กระบวนการทอผ้าที่บ้านท่าสว่าง เป็นเรื่องน่าตื่นตาสำหรับนักท่องเที่ยว ด้วยจำนวนตะกอกว่าพันตะกอ ทำให้ไม่สามารถวางกี่ทอผ้าบนพื้นดินแบบธรรมดาได้ ต้องขุดดินบริเวณที่วางกี่ให้เป็นหลุมลึกลงไป 2-3 เมตร เพื่อรองรับความยาวของตะกอ และให้คนอยู่ในหลุมเพื่อสอดตะกอ ซึ่งเป็นการทอผ้าที่มีความซับซ้อนทางด้านเทคนิค ต้องใช้คนถึง 4-5 คนในการทอ และทอได้เพียงวันละไม่กี่เซนติเมตร หมู่บ้านท่าสว่างจึงมีชื่อเสียงในเรื่องการทอผ้าเป็นอย่างมาก
จากนั้นข้ามไปยังจังหวัดบุรีรัมย์ ชม “สนามฟุตบอลช้างอารีน่า” สนามฟุตบอลขนาดมาตรฐานระดับสากลของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ออกแบบโดยการนำเทคโนโลยีและความทันสมัยของสโมสรฟุตบอลเชลซีกับเลสเตอร์ซิตีจากอังกฤษ มาประยุกต์ให้เข้ากับสภาพอากาศของเมืองไทย สามารถจุผู้ชมได้ 32,600 คน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย ปรับปรุงภูมิทัศน์รอบสนาม เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่เพื่อให้ประชาชนพักผ่อนและออกกำลังกาย ซึ่งเป็นจุดที่ใช้ต้อนรับคณะรัฐมนตรีสัญจรที่มาเยือนด้วย และเป็นแลนด์มาร์คของเมืองที่นักท่องเที่ยวต้องมาถ่ายภาพด้วย
นอกจากสนามฟุตบอลที่ทันสมัยแล้ว ยังมีสนามแข่งรถ "ช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต” ซึ่งเป็นสนามเดียวในประเทศไทย ที่สามารถรองรับการแข่งขันรถยนต์ระดับฟอร์มูล่าวัน หรือการแข่งขันรถจักรยานยนต์ระดับโมโตจีทีได้ และในระหว่าง 5-7 ตุลาคมนี้ ก็จะมีการแข่งขันโมโตจีพี นับเป็นสุดยอดการแข่งขันชิงแชมป์รถจักรยานยนต์ทางเรียบอันดับหนึ่งของโลกที่สนามแห่งนี้ด้วย
นอกจากความทันสมัยของความเป็นเมืองกีฬาแล้ว จังหวัดบุรีรัมย์ยังมีแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่ “บ้านสนวนนอก” เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในอำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ถือเป็นชุมชนโบราณที่ดำรงวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ใช้ภาษาพื้นถิ่นเขมรและสืบสานการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ้าไหมลายดั้งเดิมที่ตกทอดกันมาแต่โบราณคือ ผ้าไหมหางกระรอก ซึ่งถือเป็นลายเอกลักษณ์ของผ้าไหมบ้านสนวนนอก
ในหมู่บ้านนี้ นักท่องเที่ยวจะได้ชมและร่วมกิจกรรมโดยมีมัคคุเทศก์ของหมู่บ้านพาชมกระบวนการต่างๆ ที่กว่าจะมาเป็นผ้าไหมหางกระรอกได้ นับตั้งแต่ปลูกชำต้นหม่อน การเก็บใบหม่อน การเลี้ยงไหม ให้อาหารตัวไหม สาวไหมจากดักแด้ ฟอกกาวไหมออกจากเส้นไหม การเตรียมเส้นไหมเพื่อมัดหมี่ การย้อมสีธรรมชาติ เรียนรู้การมัดหมี่ การทอผ้าไหม กระทั่งถึงการสร้างสรรค์ลวดลายต่างๆ บนผืนผ้าไหม
ที่บ้านสนวนนอก ยังมีเมนูอาหารพื้นบ้านรสแซ่บ เช่น แกงกล้วย บวดบุก ส้มตำดักแด้ ขนมจีนน้ำยา ชาใบหม่อนเครื่องดื่มสูตรรสเลิศเฉพาะของบ้านสนวนนอก หากสนใจพักค้างคืนในหมู่บ้าน ก็มีที่พักให้เลือกทั้งแบบรีสอร์ตทันสมัยและแบบโฮมสเตย์แบบเรียบง่ายได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวสนวนนอก
จังหวัดสุรินทร์และจังหวัดบุรีรัมย์ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “เที่ยวไทยเท่” ให้ไปเที่ยวชมกันได้อีก เช่น "หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง” (อำเภอท่าตูม) จังหวัดสุรินทร์ หมู่บ้านเลี้ยงช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปราสาทหินพนมรุ้ง สถาปัตยกรรมขอมโบราณอายุนับพันปีในจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่นับรวมเทศกาลประเพณี และอาหารถิ่นอร่อยแซ่บนัวต่างๆ ที่รอให้ทุกคนไปลิ้มลองทุกฤดูกาล
ผู้สนใจสอบถามข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานสุรินทร์ (พื้นที่รับผิดชอบ สุรินทร์, บุรีรัมย์) 355/3-6 ถนนเทศบาล 1 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุรินทร์ 32000 โทรศัพท์ : 0-4451-4447-8, โทรสาร : 0- 4451-8530 อีเมล : [email protected]
สรณะ รายงาน
/-/-/-/-
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |