เผยผลสอบสวนฉีดวัคซีนเชียงใหม่ ไม่มี "VIP"ลัดคิว 


เพิ่มเพื่อน    

 

8 มี.ค.64 -  ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)จ.นนทบุรี นพ. สมฤกษ์ จึงสมาน ผู้ตรวจราชการ สธ. เขตสุขภาพที่ 7 ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่ จ.เชียงใหม่ แถลงข่าวถึงผลการสอบข้อเท็จจริงกรณีจังหวัดเชียงใหม่มีการฉีดวัคซีนให้ VIP ก่อนบุคลากรทางการแพทย์ ว่า คณะกรรมการฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากผู้แสดงความคิดเห็นในเพจดังกล่าว สอบถามความคิดเห็นเจ้าหน้าที่ รพ. นครพิงค์ รวม 20 คน อาทิ แพทย์ พยาบาล นักเทคนิคการแพทย์ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ คำชี้แจงของนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และผู้อำนวยการ รพ.นครพิงค์ ข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น สรุปการดำเนินงานให้บริการฉีดวัคซีน วันที่ 1 – 2 มีนาคม 2564 รายชื่อผู้ประสงค์ฉีดในวันที่ 1 มีนาคม 2564 ตารางรายชื่อบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในกลุ่มเป้าหมาย รายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารรพ. นครพิงค์ ซึ่งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารวัคซีนและคณะทำงาน เกณฑ์การแบ่งกลุ่มบุคคลเพื่อเรียงลำดับการรับวัคซีน รายชื่อเจ้าหน้าที่ผู้ประสงค์รับการฉีดวัคซีนของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและ รพ.นครพิงค์ แผนการฉีดวัคซีนของจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 3,500 โดส

          ผลการสอบข้อเท็จจริงไม่พบผู้ใดที่ได้รับการฉีดวัคซีนโดยไม่อยู่ในรายชื่อในแผนการฉีดในวันที่ 1 มีนาคม 2564 ทุกรายมีรายชื่อตรงตามบัญชีรายชื่อที่มีอยู่ในแผนของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ คำว่า VIP ที่ถูกนำไปกล่าวถึง หมายถึง ผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานฉีดวัคซีนวันแรก ของจังหวัดเชียงใหม่ เช่น ผู้ว่า/รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 5 ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 1 นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้แทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีรายชื่ออยู่ในแผนการได้รับวัคซีน อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ประชาสัมพันธ์ผู้เกี่ยวข้องให้รับรู้และเข้าใจอย่างทั่วถึง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด รวมทั้งกำชับผู้บริหารให้ดำเนินการตามนโยบายโดยเคร่งครัด เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขจะทยอยส่งวัคซีนเป็นระยะ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

ทั้งนี้ สำหรับแผนการฉีดวัคซีนโควิด 19 ของจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 3,500 โดส คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้พิจารณากระจายวัคซีนตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ใน 4 กลุ่ม ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย ผู้มีโรคประจำตัว ประชาชนทั่วไปและแรงงาน ในช่วงแรกได้กระจายวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์ ทั้งภาครัฐบาลและเอกชน จำนวน 1,450 คน และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีความเสี่ยงจากการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งโดยตรงและการออกติดตามควบคุมกำกับในพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ด่านตามช่องทางต่าง ๆ ทั้งตำรวจ/ทหาร พลเรือน เจ้าหน้าที่ผู้ร่วมสอบสวนโรค ทีมโควิด หมู่บ้าน เป็นต้น และประชาชนทั่วไปที่ประกอบอาชีพที่มีความเสี่ยง จำนวน 300 คน เช่น ที่ทำการปกครองจังหวัดฯ ตำรวจภูธรจังหวัด ท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ กองร้อยอาสารักษาดินแดนกองพลทหารราบที่ 7 กองบิน 41 สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว อสม. ฯลฯ  โดยมอบหมายให้แต่ละส่วนส่งรายชื่อผู้เกี่ยวข้องมีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่เพื่อวางแผนนัดหมายการฉีด
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"