ประชาธิปัตย์สะเทือน แพ้เลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราชให้กับพลังประชารัฐ "บิ๊กป้อม-ธรรมนัส" ยึดเก้าอี้ส.ส.เมืองคอนเพิ่มอีก 1 คน "อาญาสิทธิ์" แก้มือสำเร็จ ชนะน้องเทพไทแบบสูสี ห่างประมาณ 3,295 คะแนน

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 แทนนายเทพไท เสนพงศ์ โดยผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ จนถึงช่วงค่ำเวลาประมาณ 20.30 น. มีรายงานว่า นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ คะแนนมาอันดับหนึ่งได้ 35,230 คะแนน ตามด้วยนายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นน้องชายของนายเทพไท ได้ 31,935 คะแนน และตามด้วยผู้สมัครจากพรรคกล้าและพรรคเสรีรวมไทย แต่สองพรรคได้คะแนนแค่หลักพัน
     ทำให้นายอาญาสิทธิ์ ที่เป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช รอบที่แล้ว ที่แพ้นายเทพไท รอบนี้แก้มือสำเร็จ โดยเอาชนะประชาธิปัตย์ไปประมาณ 3,295 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ส่งผลให้พรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส.เขตในภาคใต้เพิ่มจาก 13 คน เป็น 14 คน แต่พบว่าจากที่สื่อรายงานข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีรอบล่าสุดเวลานี้ กลุ่มภาคใต้ของพลังประชารัฐยังไม่ได้โควตารัฐมนตรีแต่อย่างใด
    โดยภาพรวมก่อนหน้าการรู้ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ มีความเคลื่อนไหวโดยสรุปพบว่า ตั้งแต่หลังปิดหีบบัตรเลือกซ่อม คือตั้งแต่เวลา 17.00 น. บรรดาผู้สังเกตการณ์ของแต่ละพรรคการเมืองต่างจับตาลุ้นการนับคะแนนอย่างคึกคัก
    ซึ่งพบว่าหลังปิดหีบเลือกตั้ง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่าน Facebook ขอบคุณทุกคะแนนเสียงและทุกกำลังใจที่คนคอนมอบให้กับพรรคประชาธิปัตย์
    แต่ปรากฏว่าในช่วงเย็น หลังปิดหีบเลือกตั้งได้ไม่นาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ บอกว่า ขอแสดงความยินดีกับนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ พร้อมขอบคุณทุกคะแนนเสียงของประชาชนในพื้นที่ ที่ได้มอบความไว้วางใจให้กับผู้สมัครของพรรค
    ร.อ.ธรรมนัสเปิดเผยว่า การเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ ที่พี่น้องประชาชนได้มอบคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ตัวแทนของพรรคเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ฝากขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่มอบความไว้วางใจให้ตัวแทนของพรรคทำงานพัฒนาประเทศ และแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
     ด้านนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะผู้ประสานงานการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขต 4 อำเภอ อ.ชะอวด อ.พระพรหม อ.จุฬาภรณ์ และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ที่มอบความไว้วางใจให้กับผู้สมัครของพรรค โดยยุทธศาสตร์ “คนละครึ่ง” ที่ใช้ในการหาเสียงครั้งนี้ทำให้พรรคมีตัวแทนทั้ง 4 เขต จาก 8 เขตของ จ.นครศรีฯ ซึ่งจะทำหน้าที่ประสานทำงานร่วมกันเพื่อนำนโยบายจากรัฐบาลมาช่วยเหลือและพัฒนาพื้นที่ จ.นครศรีฯ เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าการที่พี่น้องประชาชนไว้วางใจเลือกตัวแทนของพรรคในครั้งนี้ เนื่องจากผลงานของรัฐบาลในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาสามารถจับต้องได้ และจากนี้ต่อไป ส.ส. จ.นครศรีฯ ของพรรคทั้ง 4 คน จะทำหน้าที่ผู้แทนของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนชาวนครศรีธรรมราชมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าอดีตที่ผ่านมา
    จนกระทั่งช่วง 19.40 น. มีรายงานว่าการนับคะแนนเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ นายอาญาสิทธิ์จากพลังประชารัฐ ได้ 35,230 คะแนน,  นายพงศ์สินธุ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 31,935 ทำให้นายอาญาสิทธิ์ ที่เป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช รอบที่แล้วที่แพ้นายเทพไท รอบนี้แก้มือสำเร็จ โดยเอาชนะประชาธิปัตย์ไปประมาณ  3,295 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเรียบร้อยถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง เพื่อประกาศเป็นทางการต่อไป
    สำหรับจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต3 นครศรีธรรมราชครั้งนี้ มีจำนวน 152,427 คน จำนวน 262 หน่วยเลือกตั้ง โดยการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 75.04 เปอร์เซ็นต์
    โดยพบว่า ในวันเลือกตั้ง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมด้วยนายอนุชา จันทร์สุริยะ ที่ปรึกษาประธานกรรมการการเลือกตั้ง และคณะ ตรวจเยี่ยมการจัดหน่วยเลือกตั้งที่เขตเลือกตั้งซ่อมตามจุดต่างๆ ด้วย เช่น โรงจอดรถขุนอินทร์คาร์ปาร์ค หมู่ที่ 7 หน่วยเลือกตั้งที่ 14 เทศบาลตำบลนาสาร อ.พระพรหม และสังเกตการณ์การเปิดหน่วยลงคะแนนเลือกตั้งที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้ หมู่ที่ 6 หน่วยเลือกตั้งที่ 10 องค์การบริหารส่วนตำบลนาพรุ อ.พระพรหม
    จากนั้น นายอิทธิพรให้สัมภาษณ์ว่า เชื่อว่าการเลือกตั้งซ่อมในวันนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ ในคืนหมาหอนที่ผ่านมา ซึ่งตามกฎหมายไม่อนุญาตให้หาเสียงหลัง 18.00 น. ผู้สมัครและผู้ที่เกี่ยวข้องต่างก็ตระหนักดีถึงข้อห้ามอันนี้ และให้ความร่วมมือ จนถึงเวลานี้จึงยังไม่ได้รับรายงานว่ามีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น
    เมื่อถามถึงเหตุไฟดับหลายชั่วโมงที่ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช นายอิทธิพรกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง กกต.ได้เน้นย้ำไปถึงผู้ดำเนินงานและผู้จัดสถานที่ รวมทั้งกรรมการประจำหน่วยให้ระมัดระวังเรื่องระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะช่วงการนับคะแนน ซึ่งเป็นช่วงเย็น จะต้องมีการจัดเตรียมไฟสำรอง
    ประธาน กกต.ยังกล่าวถึงการนับคะแนนว่า คาดว่าแต่ละหน่วยเลือกตั้งจะนับคะแนนเสร็จภายใน 1 ชั่วโมง หลังปิดการลงคะแนน เพราะแต่ละหน่วยรองรับผู้มาใช้สิทธิ์ไม่เกิน 600 คน แม้จะมีผู้มาใช้สิทธิ์มาก ก็ไม่น่าจะเกิน 19.00 น. และเมื่อไปรวมทั้งหมดที่ศูนย์ปฏิบัติการฯ จากจำนวนหน่วยทั้งหมด 262 หน่วย ก็ไม่น่าจะเกินเวลา 22.00-23.00 น.
    “ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ในเขตเลือกตั้งนี้ ซึ่งมี 4 อำเภอ มีผู้มาใช้สิทธิ์ 75% ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยทั่วประเทศ ที่นี่จึงถือได้ว่าประชาชนมีความตื่นตัวในการมาใช้สิทธิ์ ถ้าได้เท่าเดิมก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่ถ้ามากกว่าเดิมก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีใหญ่ แต่ก็มีปัจจัยในเรื่องการระบาดของโรคโควิด-19 จึงขอให้ผู้มาใช้สิทธิ์มั่นใจกระบวนการมาใช้สิทธิ์ ไม่ต้องกังวลเรื่องโควิด-16 เรามี อสม.และมาตรการต่างๆ รองรับเต็มที่ ในภาพรวมเราจึงหวังว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์เท่าเดิม” นายอิทธิพรกล่าว.