"บิ๊กตู่" ย้ำไม่มีวีไอพีได้รับวัคซีนก่อน แจงทุกคนที่ฉีดตามเกณฑ์ทีมแพทย์ มีรายชื่อให้ฉีดตามนัด ขอทุกคนสบายใจ ทุ่มอีก 6.3 พันล้าน เพิ่มวัคซีน 35 ล้านโดส เผยวางคิวออกเยี่ยมประชาชนถี่ หลังสถานการณ์โควิดดีขึ้น หวังดูแลได้ตรงจุด ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 64 ราย
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในรายการ PM PODCAST นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่อง ถึงวัคซีนโควิด-19 ว่า เราถือเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ได้รับวัคซีนจากจีนคือซิโนแวค ซึ่งเป็นในเชิงพาณิชย์ ไม่ใช่การบริจาค ส่วนอีก 8 แสนโดสและ 1 ล้านโดสจะทยอยเข้ามาในเดือนต่อๆ ไป ทั้งนี้ เราได้ฉีดเข็มแรกแล้ว และได้กระจายวัคซีนไปยังเป้าหมาย 13 จังหวัด ประมาณ 116,000 โดส โดยทยอยฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์มากกว่า 3,000 คน ในกลุ่มนี้พบมีอาการข้างเคียงหลังฉีดเล็กน้อย แก้ไขได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
ส่วนแผนการจัดหาวัคซีนระยะต่อไปได้ จองกับแอสตราเซเนกา 26 ล้านโดส และล่าสุด ครม.อนุมัติงบประมาณกว่า 6,300 ล้านบาท เพื่อจัดหาเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส เป็น 61 ล้านโดส ให้ครอบคลุมคนไทยครึ่งหนึ่ง อย่างน้อยภายในปี 2564
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ภาคเอกชนที่ต้องการนำเข้าวัคซีน กระทรวงสาธารณสุข รัฐบาลไม่ปิดกั้น แต่ต้องขออนุญาตนำเข้าและขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา (อย.) เพราะอนุญาตให้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้นเวลานี้ ทั้งนี้ มีผู้ยื่นขอขึ้นทะเบียนแล้ว 4 รายคือ 1.บริษัท แอสตร้า เซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด 2.องค์การเภสัชกรรม นำเข้าวัคซีนของซิโนแวค 3.บริษัท แจนเซ่น-ซีแลก วัคซีน และ 4.บริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด โดยวัคซีนของซิโนแวคและแอสตราเซเนกาได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว
นายกฯ กล่าวว่า ประเด็นข้อวิจารณ์ว่ามีการฉีดให้วีไอพีที่ไม่อยู่ในเงื่อนไขการได้รับวัคซีนกลุ่มแรกที่ จ.เชียงใหม่นั้น ขอยืนยันว่าไม่มีใครเป็นวีไอพี หน่วยงานได้แจ้งออกมาแล้ว ทุกคนที่ฉีดเป็นไปตามเกณฑ์ของทีมแพทย์ และเป็นรายชื่อที่ระบุให้มาฉีดตามนัด โดยเป็นกลุ่มเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีโอกาสจะสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เช่น ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ประธานสื่อมวลชน นายกสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว สมาคมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ขอให้ทุกคนสบายใจได้ เดี๋ยววัคซีนล็อตต่อไปจะเข้ามาอีก จะขยายไปให้ถึงประชาชนกลุ่มต่างๆ และพื้นที่การท่องเที่ยวด้วย
“โดยสรุปวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามานั้นจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ ควบคู่กับการควบคุมโรคของทีมแพทย์ ที่ตัวเลขน้อยลงถือว่าคลี่คลายไปตามลำดับ รวมถึงเรื่องการดูแลเศรษฐกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้กลับมาทำมาหากินโดยเร็ว และผมมีแผนจะออกไปเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนบ่อยๆ หลังจากสถานการณ์ดีขึ้น เพื่อดูแลช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด ซึ่งวันนี้ก็รับฟังความคิดเห็นมาจากส่วนราชการในหลายช่องทางด้วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เปิดเผยสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 64 ราย จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 29 ราย แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 2 ราย, นนทบุรี 1 ราย, ตาก 2 ราย, สมุทรสาคร 24 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 25 ราย แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 4 ราย, ปทุมธานี 4 ราย, สมุทรสาคร 17 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ เข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 10 ราย
ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 26,305 ราย มีผู้ป่วยหายเพิ่มขึ้นถึง 45 ราย รวมหายป่วยสะสม 25,686 ราย อยู่ระหว่างรักษา 534 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดเสียชีวิตสะสม 85 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 116,216,580 ราย เสียชีวิตสะสม 2,581,649 ราย
นายไมค์ ไรอัน ผู้เชี่ยวชาญด้านฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก เตือนว่า การมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วนั้น ไม่ใช่จะทำให้การแพร่ระบาดหมดไป หากประชาชนไม่ระมัดระวัง ซึ่งการแพร่ระบาดระลอก 3 หรือ 4 อาจเกิดขึ้นได้ ขณะที่นายทีโดรส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า การแพร่ระบาดในบราซิลนั้น น่าเป็นเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะมีโอกาสลุกลามไปทั่วภูมิภาค.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |