6 มี.ค.64 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊กไลฟ์ peace talk วานนี้ ว่า แม้ผู้ที่ต้องการคว่ำแก้ รธน. ซึ่งโดยเชิงได้เปรียบทางการเมือง ทุกคนรับรู้ว่า รธน. 2560 ไม่ใช่ฉบับปราบโกง แต่เป็นฉบับสืบทอดอำนาจแยบยล แบบด้านได้ อายอด โดยเฉพาะคำถามพ่วงให้ สว.โหวตตั้งนายกรัฐมนตรีได้ ส่วนเนื้อหาการแก้ รธน.ตามมาตรา 256 จะผ่านหรือไม่ หลักสำคัญอยู่ที่ต้องได้เสียงจาก สว. 84 คน รวมถึง ศาลรธน. ล้วนมาจากการคัดเลือกสรรหาของ สนช.ที่พล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งเช่นเดียวกัน ดังนั้น การให้พยาน 4 ปากประกอบด้วย นายมีชัย ฤชุพันธุ์, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ,นายอุดม รัฐอมฤต และนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ ยื่นแสดงความเห็นนั้น เท่ากับสะท้อนว่า การแก้ รธน.โดยมี สสร.แทบเป็นไปไม่ได้ จึงเชื่อได้ว่า ศาลรธน. คงไม่ยอมให้ตั้ง สสร.มาแก้ รธน. เพื่อปล่อยให้ รธน.ได้สืบทอดอำนาจไปบรรลุคำตอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในวันที่ 11 มี.ค. จึงเชื่อว่า แก้รธน.โดยตั้ง สสร.คงไม่ได้ เพราะคาดว่าจะถูกตีความไปตามคำร้องเป็นการแก้รธน.ทั้งฉบับ ทั้งที่เจตนารมณ์ของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านให้ตั้ง สสร. ไม่ได้มีความหมายให้แก้ไขทั้งฉบับ แต่เว้นหมวด 1 และ 2 ถึงที่สุดแล้วเมื่อตั้ง สสร.ไม่ได้ จึงเสนอทางออก โดยแนะนำให้ไปแก้เป็นรายมาตราเช่นดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

นายจตุพรกล่าวว่า มติรัฐสภาให้ยื่นศาล รธน.ตีความมาจากเสียงสนับสนุนของพรรคพลังประชารัฐ กับ ส.ว. ดังนั้น ความเป็นไปได้ในการคว่ำแก้ รธน.ย่อมเกิดขึ้นทั้งที่ศาล รธน. หรือเสียง ส.ว.โหวตวาระ 3 ไม่ถึง 84 เสียง หรือหรือเป็นทั้งสองทางในคราวเดียวกัน ล้วนเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น

ส่งสัญญาณเรื่องนี้ เพื่อต้องการสื่อว่า การคว่ำแก้ รธน.มาตรา 256 นั้น คว่ำได้อยู่แล้ว แต่จะทำให้รัฐบาลพัง เพราะท้ายที่สุดบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังมีอนาคตทางการเมืองอีกยาวไกล ถามว่าเขาจะมาตายกับพฤติกรรมของ ส.ว.และอดีต คสช. พร้อมทั้ง พปชร.ด้วยหรือ ดังนั้น เรือจะล้มจากคนในเรือ ซึ่งไม่มีทางเป็นอย่างอื่นเลย

"ถ้าแก้ รธน.ถูกคว่ำแล้ว ถามว่าประชาธิปัตย์ จะหน้าด้านอยู่ต่อไปหรือไม่ เพราะการเล่นละครแก้ รธน. เพื่อร่วมรัฐบาล คือการหลอกลวง คือการโกหกระดับโลก เดินมาใกล้ถึงที่สุดแล้ว และผมไม่เชื่อว่าการแก้ รธน.จะทำให้เกิดพลิกเปลี่ยนแบบฉับพลันได้ แต่ท่ามกลางประเทศอยู่แบบสิ้นหวัง ผมจึงเห็นว่า การแก้ รธน.จะเอื้อต่อการแก้ปัญหาวิกฤตชาติอย่างเป็นจริง อีกทั้งผมเคยพูดในสิ่งที่เชื่อว่า รธน. 2560 เขียนไว้เพื่อถูกฉีก เพราะแก้ไขไม่ได้ ดังนั้น รธน.ฉบับนี้ลงท้ายจะถูกฉีกเช่นกัน"

นายจตุพร ย้ำว่าในเดือนมีนาคมจะมีเกิดเรื่องราวมากมาย จะเป็นเดือนการเปลี่ยนแปลง การแข่งขันเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราชระหว่าง ปชป.กับ พปชร.รุนแรงมาก แทบมองหน้ากันยากลำบาก ต่อเนื่องถึงการแก้ รธน.ไม่ได้ จะทำให้ ปชป.อยู่ร่วมรัฐบาลได้ยาก แม้จะอ้างศาล รธน.ไม่ให้แก้ไขก็ตาม แต่คนจะไม่ยอม หากจะอยู่ต้องหน้าด้านกันจริงๆ สิ่งนี้จึงเป็นจุดเปลี่ยน และสะท้อนถึงอาการเรือจะรั่วจากภายใน เพราะ ปชป.ยังมีอนาคตอยู่

"จึงชวนไว้ล่วงหน้าว่า ขอวางเรื่องตัวเองในสิ่งที่เราไม่เห็นด้วย เราได้วิพากษ์วิจารณ์ ด่าทออย่างรุนแรงมาตลอดไม่เคยเปลี่ยน ถ้าบ้านเมืองมาถึงจุดอับและไม่มีการปราบโกงกันจริง มีแต่สืบทอดอำนาจ หลอกประชาชนจะแก้ รธน. แล้วเราจะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้หรือ ชวนให้เห็นกับประเทศชาติกันสักครั้ง มาร่วมสามัคคีต้องสู้ แน่นอนแม้ความขุ่นข้องหมองใจกันเปลี่ยนไม่ได้ ความเชื่อเปลี่ยนไม่ได้ แต่สถานการณ์เฉพาะคือชาติบ้านเมืองนั้น แต่ละฝ่ายควรคิดอ่านกันว่า ท้ายที่สุดเราจะเดินกันต่อไปอย่างไร หรือปล่อยให้บ้านเมืองอยู่ในสภาพแบบนี้ เพราะเราขัดแย้งกัน เมื่อเหตุการณ์เฉพาะหน้าของบ้านเมืองเดินมาถึงจุดนี้แล้ว เราต้องการความขัดแย้งโดยผู้ปกครองยังอยู่ลอยนวล เราไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยอย่างนั้นหรือ ถ้าเห็นแก่บ้านเมืองอีกครั้งเพราะเราคือคนไทย ผมจึงชวนมาเดินหาอนาคตโดยการปฏิบัติตามกฎหมายแล้วส่งเสียงดังๆถึงทุกฝ่ายในเหตุการณ์เฉพาะหน้านี้ว่า ถ้ามีการคว่ำแก้ รธน.เราก็จะคว่ำรัฐบาล ซึ่งประเทศเดินมาถึงจุึดที่จะต้องตัดสินใจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด"