"แอมมี่" เหงาไร้เงาคนเยี่ยม มีแค่แม่มาฝากเงินไว้ให้ลูก เผยศาลยกคำร้องหมายจับ "สาวคนสนิท-เพื่อน" เหตุหลักฐานไม่ชัด "บิ๊กปั๊ด" เตือนใช้สติร่วมม็อบ ไม่อยากเห็นความรุนแรง "นครบาล" ระดมกำลังรับมือการชุมนุม 4 กลุ่มทั่วกรุง 6 มี.ค.นี้ "จตุพร" ห่วงรุนแรงหลังม็อบไร้ผู้นำ ผงะ! ตร.รวบชายวัย 43 ขนไปป์บอมบ์ 18 แท่งใส่รถขับผ่านแยกปทุมวัน "กองปราบฯ" นำตัวขยายผลเชิงลึก "ปิยบุตร" เปิดคลับเฮาส์ยกสเปนใช้ ม.112 เปรียบเทียบไทย

    ที่หน้าเรือนจำพิเศษธนบุรี วันที่ 5 มี.ค. ตั้งแต่ช่วงเช้า พ.ต.อ.นรินทร์โชติ พงศ์พิธานนท์ ผกก.สน.บางบอน เดินทางมาตรวจสอบความเรียบร้อยบริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษธนบุรี ภายหลังจากมีรายงานข่าวว่ากลุ่มราษฎรจะเดินทางมาให้กำลังใจนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ นักร้องและแกนนำกลุ่มราษฎร ผู้ต้องหาคดีวางเพลิงพระบรมฉายาลักษณ์หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งถูกควบคุมตัวมาไว้ที่เรือนจำพิเศษธนบุรีตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา โดย ผกก.สน.บางบอนสั่งให้สายตรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสลับสับเปลี่ยนมาช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทางเรือนจำ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำลวดหนามหีบเพลงมาติดตั้งเพิ่มเติมบริเวณประตูทางเข้า-ออก และบนแนวรั้วรอบเรือนจำมีความสูงจากพื้นดินประมาณ 3 เมตร
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันไม่มีมวลชนกลุ่มราษฎรเดินทางมา มีเพียงนางอรวรรณ แก้ววิบูลย์พันธุ์ มารดาแอมมี่ พร้อมทนายความ ขับรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปพื้นที่ด้านใน ก่อนขออนุญาตผ่านเข้าประตูไปเพื่อติดต่อทำบัตรเยี่ยมบุตรชาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เยี่ยมได้ เนื่องจากแอมมี่อยู่ในความควบคุมตามมาตรการกักตัวป้องกันโควิด-19 เป็นระยะเวลา 14 วัน ตามระเบียบแรกรับผู้ต้องขัง ทำให้นางอรวรรณยื่นเรื่องฝากเงินไว้ให้บุตรชายใช้จ่าย
    ทั้งนี้ ตามระเบียบเรือนจำนั้น ผู้ต้องขังแต่ละคนจะทำเรื่องเบิกเงินที่ญาติๆ มาฝากไว้ให้ใช้ได้ไม่เกินวันละ 200 บาท จากนั้นนางอรวรรณพร้อมทนายความก็พากันขับรถยนต์ส่วนตัวออกจากเรือนจำไปทันที
    มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่นเดินทางมาศาลอาญา เพื่อยื่นคำร้องขอออกหมายจับ น.ส.ญาณิศา (สงวนนามสกุล) นิสิตชั้นปีที่ 1 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ เพื่อนหญิงคนสนิทของแอมมี่ กรณีวางเพลิงพระบรมฉายาลักษณ์ รวมทั้งยื่นคำร้องขอออกหมายจับนายธนภัทร ไม่ทราบนามสกุลอีกหนึ่งคน
    อย่างไรก็ดี ศาลอาญามีคำสั่งว่า ไม่มีประจักษ์พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุว่าผู้ต้องสงสัยทั้งสองได้ร่วมกับนายไชยอมรกระทำการดังกล่าว มีแต่คำให้การของบุคคลที่พนักงานสอบสวนกันไว้เป็นพยานให้การซัดทอดเพียงเท่านั้น พยานหลักฐานที่ยื่นมาจึงยังไม่สามารถออกหมายจับได้ ยกคำร้อง
ระดมตร.รับ 4 ม็อบทั่วกรุง
    ขณะที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกลุ่มม็อบนัดชุมนุมหลายสถานที่วันเสาร์ที่ 6 มี.ค. ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามสถานการณ์ตลอด เท่าที่ทราบคือที่หน้าศาลอาญา, ศูนย์ราชการฯ, กรมทหารราบที่ 11 ตรงนั้นเป็นเขตพระราชฐาน ต้องทำความเข้าใจ ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามที่จะมีการยกระดับการใช้ความรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งเรายังยึดหลักไม่ทำอะไรเกินกรอบ แต่ต้องเตรียมการให้มากกว่าเดิม ความสูญเสีย บาดเจ็บพยายามจำกัดให้น้อยลงให้ได้ ส่วนที่มีการจับกุมกลุ่มชุมนุมครั้งที่ผ่านมาเพราะมีการกระทำความผิดซึ่งหน้า
    “อยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้สติคิดให้ดี คนบางคนมาชักชวนท่านให้เตรียมอุปกรณ์ เตรียมโล่ เตรียมแป๊บเหล็ก ต้องคิดให้ดี ทำอย่างนั้นไม่ได้อะไรกับประเทศชาติ ถ้าคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม แน่ใจเหรอว่าทำอย่างนั้นจะเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะการชุมนุมของกลุ่มรีเดมที่หน้าศาลอาญา ทางตำรวจนครบาลได้มีการพูดคุยประสานกับทางสำนักงานศาลยุติธรรมอยู่ตลอด การชุมนุมผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่แล้ว ถ้ามีการชุมนุมแบบนั้น ไม่อยากเห็นภาพรุนแรงหรือปะทะกันโดยไม่จำเป็น" ผบ.ตร.กล่าว
    พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวว่า การชุมนุมในวันที่ 6 มี.ค.มี 3 จุด ได้แก่ กลุ่มรีเดมนัดรวมตัวที่ห้าแยกลาดพร้าว เดินขบวนไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ, กลุ่มอาชีวศึกษาปกป้องสถาบัน ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ และอีกกลุ่มไปยังกรมทหารราบที่ 11 ย่านบางเขน ซึ่งเบื้องต้นจัดกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.)ไว้ 32 กองร้อย เพื่อไปดูแลรักษาความปลอดภัยตามจุดที่มีการชุมนุมในแต่ละจุด โดยจะเลือกวางกำลังตามสถานการณ์และกลุ่มผู้ชุมนุมในแต่ละพื้นที่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะจัดกำลังลงไปแต่ละจุดเท่าใด ต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลัง 3 ผลัด
    "สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดได้แก่กลุ่มที่ห้าแยกลาดพร้าว ที่เคลื่อนไปที่ศาลอาญา เนื่องจากจุดดังกล่าวตามข้อมูลผู้ชุมนุมจะไม่มีแกนนำ ที่ผ่านมาในการชุมนุมที่บริเวณกรมทหารราบที่ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กทม. มีการใช้ความรุนแรง รวมถึงมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่เกิดขึ้น จึงต้องจับตาดูสถานการณ์ในจุดดังกล่าวเป็นพิเศษ" ผบช.น.กล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การนัดชุมนุมในวันที่ 6 มี.ค. มีทั้งสิ้น 4 จุด คือ 1.เพจ “เยาวชนปลดแอก - Free Youth” นัดมวลชน REDEM รวมตัวที่ห้าแยกลาดพร้าว เวลา 17.00 น. เดินขบวนไปทิ้งขยะหน้าศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก 2.กลุ่มราษฎร, People GO Network และ UNME of Anarchy ทำกิจกรรม “เดินทะลุฟ้า” ที่นำโดยนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน กำหนดการเดินถึงแยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เวลา 16.30 น. 3.เพจเฟซบุ๊ก "อาชีวะไม่เอาเผด็จการ" โดยกลุ่ม? "อาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" นัดรวมตัวเวลา 17.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีข้อเรียกร้องเพียง 2 ข้อคือ 1.รัฐบาลและองคาพยพต้องลาออก 2.แก้รัฐธรรมนูญคืนอำนาจให้ประชาชน  และ 4.เพจเฟซบุ๊ก "ปล่อยเพื่อนเรา" โดยกลุ่มคนเสื้อแดง นัดเดินขบวนแรลลี่ขับไล่เผด็จการ เวลา 13.00 น. รวมพลที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส รังสิต ไปกรมทหารราบ 11
จับไปป์บอมบ์กลางกรุง
    มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 08.45 น. เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ปทุมวัน จับกุมนายพิเชฐ ขุนกำแหง อายุ 43 ปี พร้อมตรวจยึดของกลางระเบิดไปป์บอมบ์จำนวน 18 แท่ง และรถยนต์กระบะ 1 คัน โดยก่อนการจับกุมบริเวณแยกปทุมวัน เจ้าหน้าที่พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บร 7818 พิษณุโลก ขับรถส่ายไปมาลักษณะต้องสงสัย จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ จากนั้นจึงได้เข้าไปสอบถามผู้ขับขี่พบเป็นชายไทย อายุประมาณ 40 ปี พูดจาวกไปวนมาไม่ได้ใจความ จึงได้เชิญตัวมาที่ สน.ปทุมวัน เพื่อตรวจสอบโดยละเอียด
    จากการตรวจค้นรถคันดังกล่าวพบ 1.เเท่งท่อพีวีซีสีฟ้า พันเทป ลักษณะคล้ายระเบิด จากการสอบถามนายพิเชษฐ์ให้การว่าตนเองได้ประกอบระเบิดขึ้นเองจำนวนหลายเเท่ง 18 แท่ง 2.กระเป๋าย่ามสีเหลือง ภายในมีปืนเเก๊ปประดิษฐ์เอง เเละผงดำลักษณะคล้ายดินปืน บรรจุในขวดพลาสติกกลมเล็ก 2 ขวด โดยเจ้าหน้าที่ประสานหน่วยตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ ยืนยันเป็นระเบิดประเภทไปป์บอมบ์จำนวน 18 แท่ง ต่อวงจรครบ มีดินระเบิด พร้อมใช้งานมีรัศมีทำลายล้าง 3-5 เมตร ถึงแก่ชีวิตได้ แต่ไม่พบบรรจุสะเก็ดระเบิดอื่นๆ
    มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้นำตัวนายพิเชษฐ์ไปสอบสวนว่ามีความเชื่อมโยงในการเตรียมมาก่อเหตุในการชุมนุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 มี.ค. ซึ่งม็อบนัดชุมนุมหลายจุดทั่วกทม.หรือไม่
    นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ peace talk ถึงการเคลื่อนไหวในวันที่ 6 มี.ค.ว่า น่าห่วงใย เพราะการชุมนุมไม่มีแกนนำจัดการ จะมีเรื่องได้ง่าย ปัญหาคือเราไม่ควรเดินไปหาความตาย แต่ควรเดินไปหาความยุติธรรม ความเป็นจริงที่สังคมรับได้ การชุมนุม 6  มี.ค.ไม่ควรมีใครต้องบาดเจ็บล้มตาย ขอให้รัฐในฐานะผู้ปกครอง ต้องระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการปะทะ ถ้าไม่มีการขัดขวางก็ไม่มีการปะทะ และไม่เกิดเรื่องรุนแรงขึ้น
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงคืนวันที่ 4 มี.ค. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เปิดห้องสนทนาในแอปพลิเคชันคลับเฮาส์ ให้ประชาชนร่วมสอบถามแลกเปลี่ยนความเห็นในหัวข้อ “จากสเปนถึงไทย : เผารูป แต่งเพลง วาดการ์ตูนล้อกษัตริย์” สืบเนื่องจากกรณีเผาพระบรมฉายาลักษณ์โดยศิลปินและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง แอมมี่ The Bottom Blues จนเกิดกระแส #StandwithAmmy
    นายปิยบุตรบรรยายตอนหนึ่งระบุว่า การดำเนินคดีเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ทั้งในประเทศไทยและประเทศสเปน มีลักษณะคล้ายกันตรงที่ในระยะหลังมีการนำกฎหมายมาใช้โดยมุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง กรณีของสเปนนั้น กลุ่มต้องการแบ่งแยกดินแดนจากแคว้นบาสก์และคาตาลันได้วิพากษ์วิจารณ์และแสดงออกทางสัญลักษณ์โจมตีสถาบันกษัตริย์หลายกรณี ศาลสเปนตัดสินว่ามีความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ แต่เมื่อมีการต่อสู้คดีไปถึงศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป ก็ได้รับพิพากษาว่ารัฐสเปนละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน และต้องชดเชยค่าสินไหมทดแทนให้ อย่างไรก็ตาม สเปนยังไม่ยอมยกเลิกกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ จนกระทั่งปัจจุบันรัฐบาลฝ่ายซ้ายซึ่งเกิดจากการผนึกกำลังระหว่างพรรคสังคมนิยมกับพรรคโปเดมอสก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงกฎหมายนี้" นายปิยบุตรกล่าว
    ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง หยุดขี้ขลาด ระบุว่า กรณีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ นายปิยบุตรพยายามที่จะโยงพระมหากษัตริย์ต่างชาติมายังไทย ด้วยข้อความการทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะนายปิยบุตรคิดแบบนี้ พรรคอนาคตใหม่จึงโดนยุบ คุณอย่ามัวเอาหลักฝรั่งมาหลอก ถ้าคุณคิดว่าคุณตีความต่างๆ ถูกต้อง ทำแบบนี้ไม่ผิด คุณต้องออกมาทำเองซิ อย่ามัวหลอกเด็กให้ติดคุก สงสารพ่อแม่เขา หยุดขี้ขลาดได้แล้ว.