อัดอั้นมานาน วันนี้เข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยเป็นครั้งที่ 3 กับ ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล เรื่องการดูแลลูกชายน้องแม็กซ์เวลล์ และได้ข้อสรุปแล้ว โดยคุณแม่คนเก่งอย่าง ซาร่า คาซิงกินี ก็ได้เปิดใจทั้งน้ำตา ยอมรับว่าหลังจากนี้คงเจองานหนัก เพราะสิ่งที่ต้องรับผิดชอบค่อยข้างเยอะ โดยทางไมค์นั้นจะรับผิดชอบค่าเทอมคนละครึ่งกับเธอจนกว่าลูกจะจบ ป.6 ส่วนค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรยกให้ซาร่าดูแลทั้งหมด

          โดยซาร่าเผยว่า “มันเป็นเรื่องของลูก ไม่ได้สรุปว่าใครแพ้หรือใครชนะ มันอยู่ที่ว่าเราทั้งสองคนพร้อมที่จะรับผิดชอบลูก พร้อมที่จะดูแลลูกให้ความรักกับลูกเท่าไหนกันแค่นั้นมากกว่า  เราก็ไม่ได้แฮปปี้ตั้งแต่เรื่องมันเกิดขึ้นแต่แรก ก็ดีที่ว่ามันจบลงด้วยดี ทุกอย่างมันมีลายลักษณ์อักษรแล้ว มันเป็นไปตามนั้นค่ะ ไมค์กับซาร่าไม่มีทางที่จะเป็นเหมือนเดิม เพราะว่าเราก็มีปัญหากันมาตั้งนานแล้ว เราก็หวังว่าทุกอย่างจะกลับมาดีขึ้น

          (หลังจากนี้ถ้าไมค์จะพาลูกไปถ่ายโฆษณาหรืองานบันเทิง) ทางเราไม่เคยติดเรื่องนี้ คือไม่อยากให้ทุกคนไปยึดติดถึงเรื่องเก่าเพราะเป็นเรื่องที่ทนายเขาจะต้องร่างขึ้นมาเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็ก มันไม่ได้เกี่ยวกับเราเพราะฉะนั้น ณ วันนี้ไม่ว่าจะเป็น 6 ข้อเรียกร้อง 4 ข้อเรียกร้อง หรือ 2,500 คือทุกอย่างมันเป็นการเจราจา ไกล่เกลี่ย มันปรับเปลี่ยนกันได้ตลอดเวลา มันไม่ใช่ข้อสรุป มันไม่ได้พูดว่าฉันจะเอาแบบนั้น ฉันจะเอาแบบนี้ แล้วมันจะได้ คือมันจะต้องมาคุยกันให้ลงตัวว่าโอเคไหมกับเรื่องของลูก

           ส่วนเรื่องการกีดกันพ่อลูก มันไม่เคยเกิดขึ้น ซาร่าพูดหลายครั้งแล้ว ซาร่าขอหลักฐานการกีดกัน มันเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลยูทูบของคุณลุง ญาติทางฝั่งคุณพ่อ ไอจี คือคุณก็มีรูป มีการเจอวันเกิด คือมันเจอกันตลอด เพราะฉะนั้นอะไรคือการกีดกัน ทุกวันนี้ซาร่าก็ยังถามเขาอยู่ว่าอะไรคือกีดกันมันไม่เคยเกิดขึ้น เราก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น เพราะว่าแม็กซ์เขารู้อยู่แล้วว่าใครคือพ่อของเขา เขาโตมากับการที่เขารู้ว่านี่คือพ่อของเขา แล้ววันนึงเราเป็นแม่เราจะไปทำร้ายความรู้สึกลูก โดยการที่ลูกไม่ต้องไปเจอพ่อทำไม

          การที่พ่อและแม่ทะเลาะกัน มันไม่ได้เป็นเรื่องที่เราจะต้องไปใส่ลูก พ่อกับแม่ทะเลาะกันก็เรื่องของพ่อแม่ แต่ลูกเราไม่ได้ไปทะเลาะกับพ่อ เราจะไปห้ามไม่ให้เขาเจอกันเพื่ออะไร มันดีอยู่แล้วที่พ่อลูกรักกัน มันเป็นสิ่งที่เป็นลูกของเราทั้งคู่ค่ะ มันไม่ใช่ลูกของใครที่จะต้องมาตั้งแง่ว่ากีดกันห้ามเจอ มันดีด้วยซ้ำที่เขาเจอกันบ่อยๆ ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเรื่อง ลูกปิดเทอมเราก็บอกเขาตลอด พอเขาไม่ว่างก็คือไม่ว่างก็แค่นั้น ทุกอย่างก็อยู่ที่ว่าทั้งสองคนว่างตรงกันไหมแค่นั้นเอง แต่ก็โอเคมันมีลายลักษณ์อักษรที่มันระบุมาชัดเจนเพื่อที่จะกันปัญหานี้เกิดขึ้นว่าอย่างน้อยเดือนนึงสัก 2 ครั้ง เราโอเค เขาจะได้สบายใจด้วย

          ไม่มุมความรักเราไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ในมุมความเป็นแม่ ซาร่าเชื่อว่าล้านเปอร์เซ็นต์ ซาร่าไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ข่าวเขียน ซาร่าไม่ได้เป็นแม่ที่เอาลูกเป็นตัวประกัน รีดไถ ตั้งแง่ กีดกัน ล้านเปอร์เซ็นต์ ซาร่าไม่ใช่แม่แบบนั้น ซาร่าเชื่อว่าแม็กซ์ก็รู้ว่าซาร่ารักเขามาก ซาร่าก็อยากให้เขารักพ่อเขามากเหมือนอย่างที่เขารักซาร่า เพราะฉะนั้นซาร่าเชื่อมั่นตรงนี้ว่าแม็กซ์จะต้องรู้ว่าที่ซ่าร่าทำในวันนี้ทุกอย่างเพื่อเขาจริงๆ

          หลังจากนี้ภาระที่เราจะต้องแบกค่าใช้จ่าย มันก็ค่อนข้างหนักหนาสำหรับเรา ด้วยข่าวที่มันออกไปก็มีผลกระทบกับหน้าที่การงาน ซาร่าก็มองว่าหลังจากนี้ สิ่งที่ซาร่าจะต้องรับผิดชอบมันค่อยข้างเยอะ เราจะต้องขยัน อดทน เหมือนเราต้องมีเวลามากกว่านี้ ทั้งที่เราต้องอุปการะดูแลลูกของเรา ทั้งที่ต้องเลี้ยงดูเขาต่างๆ นานา มันค่อนข้างที่รู้สึกว่าหนักเหมือนกันค่ะ ก็อยากจะขอโอกาสขอให้ทุกคนเปิดใจ เข้าใจซาร่ามากกว่านี้

          แล้วจะบอกว่าคนละครึ่ง มันก็จะไม่ใช่คนละครึ่งขนาดนั้น อุปการะก็เราทั้งหมดเลย แล้วค่าเทอมอย่างที่บอกคนละครึ่ง ซึ่งมันยังหนักสำหรับเราที่อยู่บ้านเลี้ยงลูกด้วย เราไม่ได้มีเวลาทำงานร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนกับทางฝั่งคุณพ่อ เพราะฉะนั้นศักยภาพในการหาเงินก็ต้องน้อยกว่าอยู่แล้ว ซึ่งเราก็รู้สึกว่ามันก็หนักค่ะ

          (หลังจากนี้เหตุการณ์แบบนี้จะไม่กลับมาแล้ว) ซาร่ามองว่าซาร่ามีความอดทนค่อนข้างสูง ถ้าย้อนกลับไปตั้งแต่วันแรก ซาร่าเลือกที่จะเป็นคนฟ้องร้องเขาก่อนก็ได้ แต่ซาร่าไม่เคยทำ อะไรที่ซาร่าอดทนได้ซาร่าก็อดทนก็ยอม เพราะฉะนั้นการที่ซาร่าจะไปหาเรื่องหรือไปทะเลาะกับใครก่อนมันไม่ใช่วิสัยของซาร่าอยู่แล้ว เพราะฉะนั่นถ้าซาร่าไม่ได้ถูกกระทำ หรือไม่ได้เกิดอะไรขึ้น มันก็คงไม่เกิดอะไรขึ้น  ซาร่ามองว่าที่ผ่านมา 6 ปี ถ้าซาร่ากับลูกไปทำให้เขาจมดิน แบบไม่มีที่ยืนในสังคม หลังจากวันนี้ซาร่าขอให้มันเลิกแล้วต่อกัน ขอว่าซาร่าได้ชดใช้เวรกรรมทั้งหมดแล้วกัน หลังจากนี้ก็ขอให้เลิกแล้วแต่กันค่ะ”

ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม sarahcasinghini