"บิ๊กตู่" สั่งกลาโหมเคลียร์ให้ชัด กรณีเฟซบุ๊กปิดบัญชีเพจเชื่อมโยงไอโอกองทัพ ขณะที่ กอ.รมน.ปฏิเสธไม่มีนโยบายให้หน่วยงานทำ ก้าวไกลไปไกล สอนรัฐบาล การปฏิบัติการไอโอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ควรจัดทำเนื้อหาในการเทิดพระเกียรติอย่างเป็นทางการ ไม่เช่นนั้นจะระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีเฟซบุ๊กปิดบัญชีเพจที่เชื่อมโยงปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (ไอโอ) ที่เป็นของกองทัพในประเทศไทยว่า ตอนนี้ให้กระทรวงกลาโหมไปดู ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพูดในการอภิปรายในสภา ให้ไปดูว่าเป็นอย่างไร หลายอย่างตอนนี้ก็เป็นประเด็นทางการเมืองไปด้วย
"ผมถามว่าวันนี้เฟซบุ๊กทำเช่นนี้ มันมีหลายทาง ทุกคนทราบดี ต้องไปทำให้ความชัดเจนเกิดขึ้น เคลียร์ชัดเจนให้ได้ ผมสั่งทางกลาโหมให้ไปดูแล้ว" นายกฯ กล่าว
พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. เปิดเผยว่า กอ.รมน.ไม่ทราบถึงการถูกถอดบัญชี Facebook ตามที่เป็นข่าว เนื่องจากการใช้งานของเฟซบุ๊ก (Facebook) เป็นบัญชีส่วนบุคคล ไม่มีความเกี่ยวข้องกับองค์กร การลบบัญชีจากเฟซบุ๊กถือเป็นการลบบัญชีส่วนบุคคล ปัจจุบันเฟซบุ๊กของ กอ.รมน.ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
"กอ.รมน.ไม่มีนโยบายให้หน่วยดำเนินงานตามที่เป็นข่าว จากนโยบายของ กอ.รมน. มีหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานกลางขับเคลื่อนประสานงาน ในการช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความเดือดร้อน ซึ่ง กอ.รมน.ได้ยึดถือเป็นแนวทางการปฏิบัติงานมาโดยตลอด"
โฆษก กอ.รมน.กล่าวว่า การใช้งานของโซเชียลมีเดียของ กอ.รมน. มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม ผลงานของ กอ.รมน. สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรับทราบความต้องการของประชาชน เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้กับประชาชนได้ตรงตามความต้องการ และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ปัจจุบัน กอ.รมน.ได้มี Call Center 1374 รับแจ้งเหตุความมั่นคง เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้การดำเนินชีวิตของประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ที่สำนักงานศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ พร้อมด้วยนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมาย หรือไอลอว์ (iLaw), นายวิญญู วงศ์สุรวัฒน์ พิธีกรผู้จัดรายการ พร้อมด้วยนายสัญญา เอียดจงดี ทนายความ ได้เดินทางเข้ายื่นฟ้องกองทัพบก (ทบ.) และ พล.อ.ณรงค์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการกองทัพบก (ผบ.ทบ.) ต่อศาลปกครอง กรณีกองทัพบกปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (IO) เพื่อขอให้ศาลปกครองสั่งยุติปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้องทั้งหมดนี้ทันที รวมทั้งขอให้ลบข้อมูลแบล็กลิสต์ต่างๆ ออกจากสารบบกองทัพบก และให้กองทัพขอโทษออกสื่อสาธารณะ
โดยนายยิ่งชีพกล่าวว่า เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีความขัดแย้งทางการเมือง ขณะเดียวกันก็มีหลักฐานจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมา และการตรวจสอบของทวิตเตอร์ รวมทั้งล่าสุดการสอบสวนของเฟซบุ๊กที่พบว่ากองทัพไทยมีการใช้ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารเพื่อโจมตีประชาชนที่แสดงความคิดเห็นแตกต่างกัน
"เราไม่ได้เป็นศัตรูกับชาติ ไม่ได้เป็นศัตรูกับรัฐ การที่กองทัพเอางบประมาณของรัฐ เอาภาษีประชาชน เอาบุคลากรทหารและทรัพยากรของรัฐมาโจมตีประชาชนนั้น ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีความชอบธรรม วันนี้จึงมายื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้ศาลสั่งว่าการปฏิบัติการของกองทัพเช่นนี้เป็นสิ่งที่ผิด และให้กองทัพหยุดปฏิบัติการแบบนี้ทั้งหมด"
นายยิ่งชีพกล่าวว่า นอกจากนั้นยังได้ยื่นจดหมายต่อผู้รายงานพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เพราะบทสนทนาของประชาชนในโลกออนไลน์ควรจะเป็นบทสนทนาที่เป็นข้อเท็จจริงที่มาจากประชาชนจริงๆ รัฐมีหน้าที่ที่จะต้องรับรองและคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ไม่ใช่รัฐเป็นผู้ผลิตข้อมูลโฆษณาชวนเชื่อและโจมตีคนเห็นต่าง นอกจากนั้นเรายังได้ยื่นหนังสือต่อเฟซบุ๊ก เพื่อขอให้สืบสวนเกี่ยวกับการกระทำนี้ของกองทัพด้วย ซึ่งเป็นคนละส่วนกับที่เฟซบุ๊กเปิดเผยมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะเกี่ยวกับคดีของนางอังคณา นีละไพจิตร อดีต กสม. ที่ยื่นฟ้องไปเมื่อเดือน พ.ย.
“เราทราบว่าจริงๆ แล้วมีคนที่เห็นด้วยกับรัฐบาล และเห็นต่างกับเราอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจและยอมรับได้ แต่การปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของรัฐที่ใช้งบประมาณรัฐและคนของรัฐเป็นสิ่งผิดปกติที่ยอมรับไม่ได้ เพราะทำให้เราแยกแยะไม่ได้ว่าคอมเมนต์ในการสนทนาในโลกออนไลน์เสียไป เพราะตกลงไม่รู้ว่ากำลังคุยกับใครหรือใครเป็นใคร ทั้งนี้ หากหยุดปฏิบัติการไอโอได้ ก็จะทำให้การสนทนาในโลกออนไลน์เป็นธรรมชาติ ทุกคนไว้ใจกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเห็นต่างหรือเห็นด้วยกับรัฐบาล ก็อยากให้สนับสนุนยุติปฏิบัติการไอโอแบบนี้” นายยิ่งชีพกล่าว
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า การถูกปิดบัญชีไอโอในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าละอายอย่างยิ่ง และเป็นความน่าละอายที่ถูกแพร่กระจายไปทั่วโลก และเป็นการทำให้เชื่อได้ว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิบัติการไอโอกับประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนเกิดความแตกแยก เกลียดชังกันเอง
นายวิโรจน์กล่าวต่อไปว่า ที่สำคัญที่สุดก็คือการปฏิบัติการไอโอ ในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ วิธีการที่ถูกต้อง คือรัฐบาลควรจัดทำเนื้อหาในการเทิดพระเกียรติอย่างเป็นทางการ ต้องตั้งคำถามกับ พล.อ.ประยุทธ์ว่าการใช้วิธีปฏิบัติการไอโอที่ใช้บัญชีปลอมแอบอ้างเป็นบุคคลอื่นแบบนี้ เป็นวิธีการที่สมพระเกียรติหรือไม่ และการถูกเฟซบุ๊กปิดบัญชีในครั้งนี้ รวมทั้งการถูกทวิตเตอร์ปิดบัญชีในครั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ไม่คิดที่จะเรียนรู้อะไรเลยใช่หรือไม่ และจะยังคงกระทำการบังอาจที่มิบังควรแบบนี้ต่อไปให้เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ออกมาประกาศปิดบัญชีผู้ใช้งานแบบนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจว่าจะระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทเลยใช่หรือไม่
“ผมขอย้ำว่าการประชาสัมพันธ์เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ รัฐบาลต้องทำทุกอย่างอย่างประณีต รอบคอบ เป็นทางการ ให้สมกับพระเกียรติยศ ผมขอเตือนให้ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มักจะอ้างตนเองว่าจงรักภักดี มีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จงเลิกพฤติกรรมที่ด้อยสติปัญญาของตน นำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาปฏิบัติการไอโอ จนถูกทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กเปิดเผย จนระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทซ้ำแล้วซ้ำเล่าเสียที การกระทำอย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นความจงรักภักดี” นายวิโรจน์กล่าวทิ้งท้าย
ด้านนายณัฐชา? บุญไชยอินสวัสดิ์? ส.ส.กทม. ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ถือเป็นความเลวทรามต่ำช้าและมืดบอดทางปัญญา มองเห็นประชาชนที่เห็นต่างหรือมีวิถีความเชื่อและวัฒนธรรมที่แตกต่างเป็นศัตรู ถึงเวลาแล้วที่กองทัพจะต้องกลับตัวกลับใจ หยุดทำเรื่องชั่วร้ายเลวทรามเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพราะไม่ว่ากองทัพของชาติไหน ก็ล้วนมีสำนึกว่าห้ามทำ IO กับประชาชนในชาติตัวเอง การที่ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์รัฐถือเป็นเรื่องปกติของการตรวจสอบ แต่ประชาชนจะไม่มีวันเป็นศัตรูหรือภัยต่อความมั่นคงได้ คงมีแต่คนที่ทำให้คนในชาติเกลียดกันเองเท่านั้น จึงจะถือเป็นภัยคุกคามประเทศชาติอย่างแท้จริง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |