"จิ๋วหวานเจี๊ยบ" แถลงข่าวให้งงเล่น! ชู รัฐบาลเฉพาะกาล แก้นักการเมืองขัดแย้ง ทหารยึดอำนาจ บอกอย่าไปโทษ คสช. ชี้เป็นวัฏจักร แก้ไขไม่ได้ก็ต้องหาทางลงเหมือนเดิม เพ้อระวังให้ดีกองกำลังที่สามอยู่ในมือ เผยคุย "ทักษิณ" ฟังน้ำเสียงก็รู้อยากกลับบ้าน ยันเป็นคนจงรักภักดี ฝ่ายกฎหมายประชาธิปัตย์ด่าเลอะเทอะ เอากฎหมายอะไรมาสถาปนารัฐบาลเฉพาะกาล

    พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถึงการบริหารประเทศครบรอบ 4 ปี ของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) ว่าอย่ามองเฉพาะแค่ 4 ปีของ คสช. แต่หลัง คสช.ไปแล้ว ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างหรือสภาพแวดล้อมยังเป็นเช่นนี้ ก็จะเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น คสช.หรือไม่ก็ตาม 
    "อย่าไปต่อว่า คสช. ขอให้หันกลับไปดูอดีตตั้งแต่ปี 2475 จนถึงวันนี้ 86 ปีแล้ว บ้านเมืองก็เป็นเช่นนี้ใช่หรือไม่ ทหารปฏิวัติและก็ร่างรัฐธรรมนูญ เกิดการเลือกตั้ง และทหารก็ปฏิวัติใหม่ ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่มีรัฐธรรมนูญ 20 ฉบับ ส่วนต่างประเทศมีเพียง 1-2 ฉบับเท่านั้น ประเทศใช้หลักการไม่ใช้รัฐธรรมนูญในการบริหารประเทศ อย่าบอกว่า คสช.จึงทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งความจริงไม่ใช่ ต้องไปถามตัวท่านเอง ให้ไปศึกษาสถานการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปี 2475 ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุด"
    เขากล่าวว่า วิธีการแก้ไขปัญหาที่สำคัญที่สุด ทุกคนต้องเข้าใจ อย่าไปโทษคนโน้นคนนี้ ยืนยันว่าตนไม่ได้มีอะไรกับ คสช. เพราะไม่เคยพูดคุยกับ คสช.เลย แต่สิ่งที่พูด เนื่องจากความเป็นจริงก็คือความจริง  เพราะว่าคนไทยไม่รู้ว่าการปกครองทุกรูปแบบ ทั้งระบอบประชาธิปไตย คอมมิวนิสต์ สังคมนิยม ซึ่งความมุ่งหมายทุกการปกครองมุ่งสู่ประชาชนที่สำคัญที่สุด
     "การเลือกตั้งจะเป็นไปตามโรดแมปของ คสช. คือปี 2562 หรือไม่นั้น ผมไม่ใช่หมอดู แต่ดูแล้วก็เป็นไปตามวัฏจักร ทุกคำตอบต้องไปดูในอดีต อดีตคือคำตอบในปัจจุบัน และเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ในอดีตเกิดความรุนแรงหลายรูปแบบ การรัฐประหารก็เกิดหลายรูปแบบ จากประชาชน นักศึกษา ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ โดยเฉพาะเหตุการณ์ 14 ตุลาคม ซึ่งถือเป็นวงจร" 
    พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า การตั้งพรรค คสช.สืบทอดอำนาจจะเป็นปัญหาในอนาคตหรือไม่นั้น สมมุติถ้าเขาไปไม่ได้ ไม่มีทางแก้ ก็ต้องลงแบบสุดท้าย อดีตจะเป็นตัวชี้ปัจจุบัน ชัดเจนว่าจะลงอย่างไร ไม่ต้องไปถามใครเลย ให้มาจากเทวดาอย่างไรก็ทำไม่ได้ วันนี้ก็ไม่ได้ต่างจากในอดีต แต่มีส่วนที่แตกต่างกัน ก็คือจะเกิดความรุนแรงกว่า เนื่องจากคนมีความรู้มากขึ้น เงินมากขึ้น ซึ่งความรุนแรงจะมากขึ้น ถือเป็นเรื่องธรรมดา
ดูดเป็นเรื่องธรรมดา
    ผู้สื่อข่าวถามว่า มองปรากฏการณ์ดูด ส.ส.อย่างไร อดีตนายกฯ ตอบว่า การดูดเป็นเรื่องความพยายาม เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้น ไปห้ามเขาไม่ได้ อย่าไปตำหนิ แต่การดูดไม่ใช่วิธีแก้ไขปัญหา 
    ถามว่ามีคนมาดูดให้ไปร่วมพรรคการเมืองหรือไม่ พล.อ.ชวลิตปฏิเสธว่า ไม่มี เพราะเขารู้ว่ามาดูดอย่างไรก็ไม่สำเร็จ สิ่งที่ตนพูดก็ควรไปศึกษาที่คำพูดทุกคำเสียก่อนให้เข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็มาถาม  
    "ถ้าไม่เข้าใจและต้องการให้ผมไปร่วม ก็มาบอกผมอีกที และลุงตู่ไม่ดูดพ่อใหญ่หรอก”
    ซักว่ามีคนมาทาบทามให้ไปร่วมงานการเมือง หรือเป็นที่ปรึกษาหรือไม่ พล.อ.ชวลิตแจงว่า มีเกือบทุกพรรค แต่ก็ไม่ไป ได้บอกกับเขาไปว่าอย่าเอาพ่อใหญ่ไปเลย 
    "เดินก็ไม่ได้ หูก็หนวก ตาก็ไม่เห็น ความจำก็เลว เอาไปทำอะไรได้ แต่ก็จะย้ำว่า โซ่ข้อกลาง หรือ The third force กองกำลังที่ 3 คือ หัวใจ ผมสงสารคุณมีชัย ร่างแล้วร่างอีก ไม่พอเสียที"
    อดีตนายกฯ ยอมรับว่า ห่วงประเทศชาติและประชาชน นอนไม่หลับ ซึ่งก่อนหน้านั้นตนเคยใช้หลักโซ่ข้อกลาง พยายามดึงซ้าย ดึงขวา มารวมกันเพื่อสร้างสันติ ซึ่งคนอาจไม่เข้าใจ เลยเปลี่ยนเป็น The third force หรือกองกำลังที่ 3 ซึ่งตนมีกองกำลังอยู่ระวังให้ดี และกองกำลังของที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับแดงเหลือง ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่ยุ่งเกี่ยวอย่างเดียวคือประชาชน เพราะเป็นหัวใจสำคัญ  
    ส่วนการตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ การที่นำคนจากพรรคการเมืองเข้ามาร่วมรัฐบาล ก็เป็นเหมือนเดิมที่ทำกันมา เพราะนักการเมืองทะเลาะกัน ทหารก็เลยยึดอำนาจ ก็เกิดปัญหาอีก คิดว่าสิ่งที่จะต้องมีคือรัฐบาลเฉพาะกาล หรือ provisional government เป็นรัฐบาลที่มีหน้าที่แก้ไขปัญหาเฉพาะเรื่องช่วงเวลา 5 หรือ 8 เดือนเท่านั้นเอง และก็เลือกตั้งกลับมาสู่การเลือกตั้งปกติ เดินหน้าต่อไป ซึ่งจะเป็นอย่างไรก็ต้องว่ากันต่อไป
    เมื่อถามว่า มองว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นการทำเพื่อประชาชนหรือไม่ พล.อ.ชวลิตตอบว่า ท่านก็พยายามทำเพื่อประชาชน แต่ไม่ตรงหัวใจ   
ทักษิณอยากกลับบ้าน
    พล.อ.ชวลิตยังให้สัมภาษณ์ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศว่า ตั้งแต่นายทักษิณอาศัยอยู่ต่างประเทศ เพิ่งได้มีโอกาสคุยกันเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา 
    "ทักษิณทำอย่างไรดีถึงจะกลับบ้านได้ใช่ไหม ซึ่งมันก็มีวิธีที่สามารถทำให้กลับบ้านได้ มีอย่างเดียว ทักษิณก็ทำงานเพื่อประชาชน ทุกวันนี้ทักษิณเดินทางไปกี่ประเทศ มีเครื่องบินส่วนตัว ทั้งบรูไน ดูไบ เวเนซุเอลา อียิปต์ โดยเฉพาะประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งมีคนจำนวนมากต้องการข้าว ไปบอกเขาว่าทักษิณจะหาให้ จะเอาเท่าไหร่ ข้าวของผมชั้น 1 วิตามินชั้น 1น้ำตาลไม่มี กินข้าวผมแล้วเบาหวานไม่มี โรคเกาต์หาย ทำไมจะขายไม่ได้ หรือกล้วยไร่หนึ่งได้ 1 หมื่น  ปลูกได้ 100 ต้น ไม่กี่เดือน ทั้งนี้ กล้วยต้นหนึ่งตัดหวี มา 1 หวี มาตากแห้ง บดเป็นผง บรรจุขวดขายเมืองจีน เท่าไหร่ก็หมด" 
    ซักว่านายทักษิณได้บอกใช่หรือไม่ว่าอยากกลับประเทศไทยแล้ว อดีตนายกฯ ตอบว่า ใครๆ ก็อยากกลับบ้าน ผมฟังเสียงท่านก็รู้ว่าอยากกลับบ้าน แม้ท่านไม่ได้พูด แต่จิตก็ถึงจิต ใจถึงใจ ใครๆ ก็อยากกลับบ้าน 
    "ท่านทักษิณจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ไม่เปลี่ยนแปลง จงรักภักดีต่อแผ่นดินไทยไม่เปลี่ยนแปลง ใครๆ ก็อยากกลับบ้าน คิดถึงแผ่นดิน คิดถึงพระเจ้าอยู่หัวของเรา สถิตสถาพร ให้มั่นคง ให้เหมือนเสด็จพ่อที่สร้างบ้านสร้างเมือง ส่วนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ต้องเป็นองค์ที่จะสร้างบ้านสร้างเมืองให้เจริญก้าวหน้า“
    เขายังกล่าวว่า นายทักษิณทำอะไรไว้ให้กับคนส่วนใหญ่ 65 ล้านคน ถ้าคน 65 ล้านคนอยากให้นายทักษิณกลับ ถามว่าจะกลับได้หรือไม่ แต่นายทักษิณ ต้องทำเพื่อประชาชน
    ทั้งนี้ พล.อ.ชวลิตปฏิเสธที่จะระบุว่าการติดต่อกับ นายทักษิณ ใครเป็นฝ่ายโทรศัพท์หาใครก่อน บอกเพียงว่าจำไม่ได้ เพราะมีคนโทรศัพท์ให้
    เมื่อถามอีกว่า หากนายทักษิณทำเช่นที่เสนอมาจะได้กลับมาประเทศไทยใช่หรือไม่ พล.อ.ชวลิตตอบว่า ใครทำเพื่อประชาชน ซึ่งถือเป็นหัวใจของการปกครอง ได้เข้าไปนั่งในหัวใจของประชาชน แล้ว     ส่วนจะได้กลับหรือไม่นั้น ไม่มีใครทำนายได้ ตนไม่ใช่หมอดู 
นายกฯ ปูคือใคร
    ซักว่าได้ยินเสียงนายกฯ ปู (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) น้ำเสียงอยากกลับประเทศหรือไม่ พล.อ.ชวลิตปล่อยมุกว่า นายกฯ ปูคือใคร
    ด้านนายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อย่างแรกเลย เมื่อไม่เอารัฐบาลทหาร ไม่เอารัฐบาลจากพรรคการเมือง ถามว่าจะเอารัฐบาลมาจากไหน ต่อมาพูดไม่ชัดว่าแล้วจะเอาอย่างไรกับ สนช. คือ สนช.จะยังทำหน้าที่ต่อหรือไม่ เพราะมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่ต้องบังคับใช้ เช่นการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน แล้วรัฐบาลเฉพาะกาลที่ว่ามานี้เอาอำนาจจากตรงไหน เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้เปิดช่องให้ แล้วจะเอาอำนาจมาจากกฎหมายอะไร หรือจะใช้อำนาจตามกฎหมายใดที่จะมาบริหารราชการแผ่นดิน แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่ารัฐบาลเฉพาะกาลนี้จะสามารถเข้ามาแก้ปัญหาต่างๆ เช่นสีเสื้อได้
        "ผมไม่ได้มองว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่มันเป็นไม่ได้เลย เลอะเทอะ เอาอำนาจอะไรมาจากไหน พล.อ.ประยุทธ์เขามีอำนาจมาจากการรัฐประหาร แล้วก็อยู่ต่อตามรัฐธรรมนูญ 60 มีบทเฉพาะกาลไว้ แต่รัฐบาลเฉพาะกาลของ พล.อ.ชวลิต ไม่มีที่มาทางกฎหมาย มันไม่รู้จะใช้กฎหมายใดมาสถาปนารัฐบาลที่ว่านี้ขึ้นมาได้" นายวิรัตน์กล่าว
    นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข้อเสนอให้มีรัฐบาลเฉพาะกาลว่า มาได้อย่างไรอีก เป็นไปไม่ได้ การเสนออย่างนี้ก็คงเป็นความหวังดี ด้วยความห่วงใยของท่าน แต่เป็นไปไม่ได้ เพราะด้วยเหตุผลเรามีรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว รัฐบาลปัจจุบันมีหน้าที่ต้องทำตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น จะทำอย่างอื่นไม่ได้ ยกเว้นว่าจะกล้าใช้มาตรา 44 เข้ามาจัดการทุกอย่างตามอำเภอใจ แต่ตนคิดว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ไม่กล้าทำอย่างนั้น.