โรงพยาบาลไฟจากฟ้า


เพิ่มเพื่อน    

    ปัจจุบันที่สถานการณ์โควิดนั้นแพร่ระบาด ประเทศไทยถือว่าได้รับการยกย่องระดับโลกถึงเรื่องของระบบสาธารณสุข ที่มีการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัสนั้น แต่ความสำเร็จทั้งหมดนั้นจะต้องประกอบได้ด้วยหลายด้านไม่ใช่เพียงความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์เท่านั้น แต่ต้องรวมไปถึงความร่วมมือกันของประชากรในประเทศ และความพร้อมของอุปกรณ์ต่างๆ แม้กระทั่งปัจจัยเล็กๆ แต่สำคัญอย่างไฟฟ้าที่จะต้องเพียงพอต่อการใช้งานที่สถานพยาบาล

                ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาในพื้นที่ห่างไกลของประเทศ ความพร้อมเพียงพอของไฟฟ้าที่แม้จะมีสำรองอยู่มาก แต่ความทั่วถึงอาจจะยังไม่ครบถ้วนทั้งหมด ผลกระทบจึงไปเกิดกับพื้นที่ที่ต้องใช้ไฟอย่างโรงพยาบาล ด้วยเหตุนี้จึงเป็นประเด็นหลักที่ลดศักยภาพของการทำงานของการแพทย์ไป แต่ด้วยปัจจุบันคนเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น ความพร้อมของโรงพยาบาลจึงต้องมาเป็นอันดับต้นๆ

                ด้วยความต้องการนี้จึงเกิดหลายโครงการขึ้นมาเพื่อพัฒนาศักยภาพของโรงพยาบาล หนึ่งในนั้นคือกิจกรรม “101 วัน จากแสงแรกสู่โรงพยาบาลไฟจากฟ้า” ในแคมเปญ “Clean Energy for Life : ใช้พลังงานสะอาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน” โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ร่วมกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงสาธารณสุข มูลนิธิแพทย์ชนบท และภาคีเครือข่าย

                โดยนำร่องส่งมอบการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิตโรงพยาบาลละ 100 กิโลวัตต์ ให้กับ 8 โรงพยาบาลชุมชน ในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ โรงพยาบาลไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี, โรงพยาบาลบางบ่อ จ.สมุทรปราการ, โรงพยาบาลอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี, โรงพยาบาลขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ, โรงพยาบาลย่านตาขาว จ.ตรัง โรงพยาบาลหลังสวน จ.ชุมพร, โรงพยาบาลบ้านบึง จ.ชลบุรี และโรงพยาบาลปลวกแดง จ.ระยอง โดยระบบผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ที่มีกำลังผลิต 100 กิโลวัตต์ จะสามารถช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของโรงพยาบาลได้ถึงเดือนละประมาณ 60,000 บาท ดังนั้นในระยะเวลา 1 ปี โรงพยาบาลจะสามารถลดภาระค่าไฟฟ้าได้ราว 720,000 บาท

                โดยแผงโซลาร์เซลล์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 25 ปี จึงสามารถช่วยโรงพยาบาลลดภาระค่าไฟฟ้าได้ถึงประมาณ 18 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายจะดำเนินการทั้งหมด 77 โรงพยาบาล 77 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการขยายไปพื้นที่อื่นๆ เช่น ชุมชน และโรงเรียน ในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงการใช้พลังงานสะอาดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกันตามวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป

                ซึ่งแคมเปญดังกล่าว เกิดขึ้นจากการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 ตามมาตรา 97 (5) เพื่อต้องการสร้างความตระหนักรู้เรื่องพลังงานสะอาดให้กับประชาชน และสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนหันมาตระหนักเรื่องประโยชน์ของการใช้พลังงานสะอาดในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น ซึ่ง กกพ.โดยกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562 และได้ต่อยอดมาสู่การสร้างโอกาสให้ทุกคนได้เข้าถึง

                โดยในแต่ละปีโรงพยาบาลจะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานโดยเฉพาะค่าไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งโครงการความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์อย่างมากในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาล และสามารถนำงบประมาณรายจ่ายค่าไฟฟ้าที่เหลือจ่ายจากการจ่ายค่าไฟฟ้าน้อยลงไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ เช่น การซื้ออุปกรณ์การแพทย์ จัดหาเวชภัณฑ์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์

                และสนับสนุนระบบสาธารณสุขของประเทศให้มีความพร้อมทั้งต่อสถานการณ์โควิด-19 และการบริการทั่วไปให้กับประชาชน ให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น โรงพยาบาลไทรน้อยซึ่งเป็นหนึ่งใน 8 โรงพยาบาลนำร่องที่ได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้ ได้มีเป้าหมายจะนำเงินส่วนต่างของค่าไฟฟ้าไปดำเนินการจัดหาเตียงไฟฟ้ารองรับผู้ป่วยติดเตียง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้น

                ขณะเดียวกัน การดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นการตอบสนองการให้ความสำคัญต่อพลังงานสะอาดของประเทศ ที่เคยมีเป้าหมายที่จะร่วมมือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามความตกลงปารีส สำหรับของประเทศไทย ตามที่เสนอไปนั้น กำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 20-25% หรือจำนวน 111-139 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในปี 2573

                ซึ่งโครงการแบบนี้กิจกรรมที่เห็นผลเป็นรูปธรรม ถือว่าเป็นการใช้งบประมาณในส่วนกองทุนที่ไม่ใช่เพียงเกิดประโยชน์ต่อองค์กร แต่ยังเกิดประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไปอีกด้วย.

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"