กลายเป็นประเด็นที่มีแฮชแท็กติดเทรนด์ทวิตเตอร์มาหลายวันแล้ว จากกรณีที่ หนุ่ม มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ ปล่อยมิวสิควิดีโอคัฟเวอร์เพลง Afterglow ของ Ed Sheeran แต่โดนจับโป๊ะว่ามีหลายซีนหลายช็อตมีความคลายคลึงกับ มิวสิควิดีโอที่ทาง แจฮยอน ศิลปินจากวงNCT ของประเทศเกาหลีใต้ คัฟเวอร์เพลง I like me better ของ Lauv โดยปล่อยออกมาในเดือนสิงหาคม ปี 2019
วันนี้ มิว ศุภศิษฎ์ พร้อมด้วยทนายนิด้า ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ที่โรงแรม grande point terminal 21 เพื่อชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าว โดยมิวนั้นได้ออกมาขอโทษที่ทำให้ทุกคนเกิดความไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยืนยันไม่ได้มีการก๊อปปี้งานใครแน่นอน ส่วนทางด้านทนายนิด้า ได้ออกตัวว่าเป็นคนขอไม่อยากให้มิวออกมาขอโทษ เพราะมองมันไมได้ผิดกฎหมาย ทางค่ายก็ได้ทำหนังสือชี้แจง และลบมิวสิควีดีโอ ก็น่าจะเป็นการกระทำที่เหมาะสมแล้ว
โดยหนุ่มมิว เผยว่า “สำหรับเรื่องที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่ามิวเสียใจมากจริงๆ เพราะเราไม่คิดว่าจะทำให้หลายๆ คนได้รับผลกระทบในวงกว้างมากขนาดนี้ ทำให้แฟนๆ ทุกคนต้องเสียใจ ทำให้คนรอบตัวของเราต้องได้รับผลกระทบไปด้วย ต้องบอกว่ากับเหตุการณ์นี้มิวเสียใจมากจริงๆ และต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับผม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องบอกเจตนาก่อนในเรื่องตัวมิวสิควีดีโอตัวนี้ ซึ่งตัวคัฟเวอร์ของผม เป็นเพลง Afterglow ซึ่งได้ตัวลิขสิทธิ์จากวอร์นเนอร์โดนตรง เจตนาของเราคือ เนื่องจากเรามีแฟนคลับต่างชาติ ต้องเรียกว่าจำนวนหนึ่งเลยครับ แล้วรู้สึกว่าอยากให้เขาได้มาตามรอยเวลาที่เขามีโอกาสได้มาประเทศไทย อยากให้เห็นว่าประเทศของเรามีมุมที่สวยมาก มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาก เราเลยให้คอนเซ็ทป์เป็น สตรีมวอร์ค แล้วก็เป็นการเดินเล่นภายในกรุงเทพ ใช้เบื้องหลังต่างๆ เป็นมุมกรุงเทพ
พอหลังจากที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ได้เข้าไปดูแล้วครับ ตัวความคล้ายมีตามจุดตามที่แฟน ๆ แคปมาในทริตเตอร์เลยครับ (รู้สึกยังไงที่ถูกมองว่าไปเลียนแบบเขา) ความคิดเห็นสำหรับเรื่องนี้คือต้องบอกตรงๆ ว่าเราไม่ได้มีเจตนาไปก็อปปี้ หรือว่าจะมีเจตนาทำให้มันคล้าย สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้หลายๆ คนไม่สบายใจ อันนี้ต้องขอโทษจริงๆ เพราะเราไม่ได้อยากจะให้มันออกมาคล้ายเลยครับ ซึ่งพอเราทราบเรื่องก็ได้ให้โปรดักชั่นและครีเอทีฟเข้าไปดูเลยครับว่ามันคล้ายกันยังไงบ้าง ต้องบอกว่าตอนที่เราทราบเรื่องตอนแรก ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ ทำให้เราต้องใช้เวลาไตร่ตรอง เรามีแถลงข่าวออกมา 3 ฉบับด้วยกันเลยครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังจากมีกระแสข่าว
สำหรับเรื่องคอนเซทป์เอ็มวี บอกเลยว่าเราคิดไม่ละเอียดเลย มันคือสตีทวอร์ค เราใช้งบน้อยมากครับมีกล้องตัวเดียวแล้วก็เดินถ่ายไปเลยครับ ตัวสตอรี่บอร์ดก็วางไว้ตามไปกินอาหารไทย ทางสตอรี่บอร์ดวางไว้แค่นั้นเลยครับ ไม่ได้นำมาจากของเขาแน่นอน ครั้งแรกที่ได้เห็นเอ็มวีการเดินต่างๆ บนถนน การเดินถ่ายจากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มันคือการที่เราทุกคนทำอยู่แล้ว ท่าโพสต่างๆ ท่าเดินต่างๆ ต้องบอกว่ามันคือมุมกล้องของเราอยู่แล้ว มุมสวยของเรา ตั้งแต่เกิดเรื่องผมก็เสียใจมาโดยตลอด ไม่คิดว่าเราโดนทำร้ายหรือเราโดนโจมตีนะ แต่เราทำให้แฟนๆ ของเรา ทุกๆ คนเกิดความขัดแย้ง เกิดความแตกแยกเลยทำให้เราเสียใจ และออกมาขอโทษในวันนี้ครับ
ต้องบอกว่าวันนี้ตั้งใจออกมาขอโทษทุกๆ คนที่ไดรับผลกระทบเลยครับ เพราะในมุมกว้างเยอะจริงๆ คนไม่รู้เรื่องเยอะมาก มันเกิดความขัดแย้งให้สังคม ในภายภาคหน้าเราจะระวังมากๆ ระวังให้มากๆ อยากจะฝากบอกแฟนๆ ทุกคนเลยครับ ไม่ใช่แค่ของผม ผมเข้าใจว่าทุกคนรักศิลปินของตัวเอง ก็อยากจะขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่คอยสนับสนุนพวกเรามาตอด การสนับสนุนของทุกคนมันทำให้เรามีแรงสร้างผลงานนอกมาได้ มันเป็นแรงของเราจริงๆ ครับ”
ในส่วนของทนายนิด้า ที่มาร่วมแถลงข่าวด้วยในวันนี้ แจงว่า “ทางเราก็ยืนยันมาตลอดว่าเราไม่ได้มีเจตนาในการก็อปปี้ ซึ่งสมมุติว่าตัดมาช็อตต่อช็อตอาจจะมีบางมุมที่มีความคล้ายคลึงกัน แต่ถ้ามองกันถึงภาพรวม มิวสิควีดีโอมีความยาวประมาณ 5 นาที ถ้าถามว่าบนโลกนี้มันมีความคล้ายคลึงมีความบังเอิญมันเกิดขึ้นได้มั้ย มันเกิดขึ้นได้ แต่ถามว่าวันนี้มานั่งพูด คนก็จะไม่ยอมรับอยู่ดี อาจจะมอองว่ามันไม่ควรบังเอิญ ซึ่งใดๆ ก็แล้วแต่มันก็เป็นเหตุให้น้องมิวขอโทษจากสิ่งที่ให้เกิดความไม่สบายใจ
หนังสือชี้แจงก็ออกมาชี้แจง เบื้องต้นก็ได้ทำการขอโทษ เราคงไปห้ามความคิดใครไม่ได้ อันนี้คือความจริงใจหรือไม่จริงๆ แต่เมื่อเรารู้ว่ามีกระแสว่าเราไปก็อปปี้ สิ่งที่เราทำอันดับแรกเลยคือลบมิวสิควีดีโอออก แล้วก็ออกหนังสือชี้แจง และคิดว่ามันน่าจะเพียงพอสำหรับการกระทำที่เกิดขึ้น แต่มาวันนี้มันมีคำตอบแล้วว่ามันยังไม่พอ ทุกคนอยากให้มาพูด มาแถลงให้มันชัดเจนยิ่งขึ้น จนได้มาสู่การแถลงข่าวในวันนี้ แต่ถามว่าในส่วนของจริงใจหรือไม่จริงใจ เราไม่อยากให้ไปนั่งมองกันตรงนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำมันย่อมออกมาจากใจอยู่แล้ว แต่ถ้ามองแบบอคติไม่ว่าเราจะพูดว่ายังไง แต่ถ้ายังอคติมันก็จะถูกมองว่าไม่จริงใจ
การขอโทษเราได้คุยกับน้องมาตลอด นิด้าได้ดูแล้วก็บอกน้องว่าการกระทำแบบนี้ไม่ได้เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์เลย ไม่ได้ผิดกฎหมายข้อไหนเลย แล้ววันนี้ที่ทนายมานั่งด้วย ทนายก็อยากถามเหมือนกันว่า จากนี้ต่อไปเราจะเอากฎหมายหรือจะเอาความพอใจ ถ้าเราเอากฎหมายเป็นที่ตั้ง วันนี้น้องมิวอาจจะไม่ต้องขอโทษเลยก็ได้ เพราะในกฎหมายลิขสิทธิ์ไม่มีข้อไหนที่ผิดเลย แต่ถ้าบอกว่าจะเอาตามความพอใจ แฟนคลับอีกฝ่ายหนึ่งเกิดความไม่พอใจ ไม่ใช่แต่เรื่องนี้ในทุกๆ เรื่อง วันหนึ่งมันมีเหตุการณ์อะไรที่มันไม่ผิดกฏหมายเลย แต่ไม่พอใจ ไม่ชอบใจ แล้วมันมีการกดดันให้คนออกมานั่งขอโทษเราจะอยู่กันแบบนี้จริงๆ หรือเปล่า เราจะให้สังคมเป็นแบบนี้จริงๆ หรือเปล่า
แล้วเราเป็นคนบอกน้องเอง เสนอน้องเองว่าไม่อยากให้น้องขอโทษ จากการกระทำครั้งนี้ เพราะมองว่าหนึ่งมันไมได้ผิดกฎหมาย แล้วการที่ทางค่ายได้ทำการลบมิวสิควีดีโอนั้นออกแล้ว เราคิดว่าจากความไม่พึงพอใจ เราได้ทำหนังสือชี้แจง ลบมิวสิควีดีโอออกแล้ว ถ้านี่คือบทลงโทษ นี่คือการกระทำที่พอเหมาะพอสม ที่ทุกคนน่าจะรับได้แล้ว แต่ถ้าทุกคนยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอ ต้องชี้มาว่าต้องเป็นตัวมิวเท่านั้น ต้องทำอะไรแล้วก็ต้องทำกับใคร นิด้าว่านี่คือการสร้างบทลงโทษมาแล้วทุกคนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ยุติธรรมกับน้องมิวเขาหรือเปล่า อันนี้อยากฝากและอยากถามกลับทุกคนเหมือนกันนะคะ
การขอโทษขอโทษเมื่อไหร่ก็ได้ การออกมาแถลงเมื่อไหร่ก็ได้ ยังไงออกมาก็พูดเหมือนกัน เตรียมบทเตรียมอะไรหรือเปล่า จริงๆ ไม่ว่าถามวันนี้หรือถามวันหน้าก็พูดเหมือนกันถามเหมือนกัน แต่น้องซีเรียสว่าถ้าน้องพูดอะไรออกไป มันจะทำให้เกิดความขัดแย้งความแตกแยกกันอีกหรือเปล่า นี่คือสิ่งที่น้องกังวล และเราก็ทบทวนกันมาโดยตลอด เรามองว่าถ้าเราเงียบมันจะสามารถทำให้เรื่องเงียบไปหรืเปล่า แต่พอถึงเวลาแล้วมันไม่จบน้องก็เลยตัดสินใจออกมาพูดขอโทษ”
ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม mewsuppasit
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |