4 มี.ค.64- นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า รังสิมันต์ โรม ส.ส.ผู้มีความจริงเพียงครึ่งเดียว
............................................................................
โรม ก็เหมือนพรรคพวกเดียวกันคือ มักพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว โดยโรมพูดว่า ประชาชนมีสิทธิในเสรีภาพการพูด
ความจริงทั้งหมดคือ คนที่อยากใช้สิทธิตามที่โรมว่านั้น มักใช้สิทธิที่ตนเองมี เพื่อละเมิดสิทธิผู้อื่น
ซึ่งมีผิดทั้งกฏกติกาสากล และผิดทั้งกฎหมายไทย กล่าวคือ
***กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ระบุข้อยกเว้นของสิทธิในเสรีภาพการพูดเอาไว้ว่า
***สิทธิในเสรีภาพการพูดเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชน #HumanRights ที่ว่าด้วยมนุษย์เราล้วนเท่าเทียมกันและ”มีเสรีภาพที่จะทำอะไรก็ได้ตราบที่ไม่ไปรบกวนเสรีภาพของผู้อื่น”
***สิทธิในเสรีภาพการพูดนั้นต้องถูกจำกัดบ้าง" เมื่อจำเป็น "เพื่อความเคารพถึงสิทธิหรือชื่อเสียงของคนอื่น" หรือ "เพื่อคุ้มครองความมั่นคงของชาติ”
............................................................................
สิทธิในเสรีภาพการพูดได้รับการยอมรับเป็นสิทธิมนุษยชนภายใต้ข้อ 19 แห่งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
และได้รับการยอมรับในกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ข้อ 19 แห่งกติกาฯ บัญญัติว่า
"ทุกคนจักมีสิทธิออกความเห็นโดยไม่ถูกแทรกแซง" และ "ทุกคนจักมีสิทธิในเสรีภาพการพูด สิทธินี้จักรวมไปถึงเสรีภาพในการแสวงหา ได้รับและส่งต่อข้อสนเทศและความคิดในทุกรูปแบบ
โดยไม่คำนึงถึงขอบเขต ไม่ว่าจะโดยการพูด การเขียนหรือการพิมพ์ ในรูปของศิลปะ หรือผ่านสื่ออื่นใดที่เป็นทางเลือกของเขา"
หากข้อ 19 ยังบัญญัติต่อไปว่าการใช้สิทธิเหล่านี้มี "หน้าที่และความรับผิดชอบพิเศษ"
และอาจ "ดังนั้น ต้องถูกจำกัดบ้าง" เมื่อจำเป็น "เพื่อความเคารพถึงสิทธิหรือชื่อเสียงของคนอื่น"
หรือ "เพื่อคุ้มครองความมั่นคงของชาติหรือความสงบเรียบร้อย หรือการสาธารณสุข หรือศีลธรรม"
Article 19 of the International Covenant on Civil and Political Rights, Office of the United Nations High Commissioner for Human Rights.
............................................................................
โรม พูดความจริงครึ่งเดียวว่า พรรคตนเองเสนอให้ลดโทษของ ม.112 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ป้องกันคนหมิ่นประมาทประมุขของประเทศ ให้เหลือจำคุก 1 ปี ปรับ 3 แสน
แต่ความจริงทั้งหมดคือ พรรคของโรมฟ้องหมอรงค์ว่า หมิ่นประมาท โทษ 2 ปี ปรับ 24 ล้าน
ทำไมให้ลดโทษของคนที่หมิ่นประมาทองค์พระประมุขของชาติ ในขณะที่เพิ่มโทษคนที่หมิ่นประมาทตนเองละครับ
ฮ่วย! มันคืออะไรวะครับ
............................................................................
โรม พูดความจริงเพียงครึ่งเดียวด้วยการอ้างพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่า ทรงตรัสว่า ประชาชนสามารถวิจารณ์พระมหากษัตริย์ได้
ความจริงทั้งหมดคือ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตรัสว่า วิจารณ์ได้ แต่ต้องบอกด้วยว่าผิดตรงไหน
แต่สิ่งที่ม็อบและฝ่ายต่อต้านสถาบันฯ ทำคือ ไม่ใช่การวิพากษ์วิจารณ์ว่าพระมหากษัตริย์ผิดตรงไหน
แต่เป็นการกระทำที่ จาบจ้วง ล่วงละเมิด ให้ร้ายป้ายสี และอาฆาตมาดร้าย
ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
............................................................................
อย่าว่าแต่เอาพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งสวรรคตไปแล้วมาอ้างแบบมั่วๆ ครึ่งเดียวเลย ขนาด ดร.อานนท์ที่นั่งอยู่บนเวทีเดียวกันยังถูก โรม เอามาอ้างแบบมั่วๆ พูดความจริงครึ่งเดียวว่า ดร.อานนท์ยังเห็นด้วยว่าให้แก้ 112
ทั้งที่ความจริงทั้งหมดคือ ดร.อานนท์ เห็นด้วยว่าควรแก้ ม.112 แต่แก้ให้โทษสูงขึ้น
............................................................................
ฮ่วย! อะไรกันวะครับ เล้าโลม
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |