ส.ว.ฮึ่มคว่ำรธน.วาระ3 สกัดแตะหมวดกษัตริย์


เพิ่มเพื่อน    

 "วิษณุ" ฟันธง หากรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตั้งส.ส.ร. แก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ ต้องหยุดนับหนึ่งใหม่ วาระ 3 ไม่ต้องพิจารณาต่อ ขณะที่ ส.ว.ดาหน้าค้านเต็มสูบ ขู่โหวตคว่ำร่าง รธน. เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ให้แก้หมวดพระมหากษัตริย์

    เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 นายวิษณุ เครืองาม? รองนายกรัฐมนตรี? ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ กรณีร่างแก้ไขเพิ่มเติม รธน.ของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ในการตั้ง ส.ส.ร. มายกร่าง หรือจัดทำ รธน.ฉบับใหม่นั้นสามารถทำได้หรือไม่ ว่าก็อยู่ที่ว่าผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ประธานสภาฯ ก็รออยู่ ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีก็ได้มีหนังสือสอบถามไปนานแล้วว่าเมื่อรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 2 จะเข้าวาระ 3 ซึ่งต้องทิ้งไว้อย่างน้อย 15 วัน ทางสภาคิดว่าจะเปิดสภาสมัยประชุมวิสามัญได้เมื่อไหร่ จะได้มาขอออกพระราชกฤษฎีกา เพราะรัฐบาลจะต้องเป็นผู้ดำเนินการเพื่อทูลเกล้าฯ ถวาย และคิดว่าจะเปิดกี่วัน เพราะเราไม่รู้ว่าเปิดแล้วจะมีภารกิจทำอะไรบ้าง
    เท่าที่รู้คือเปิดเพื่อโหวตรัฐธรรมนูญวาระ 3 แต่ได้ยินพูดๆ กันว่าไม่พอ จำเป็นต้องให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ และมีบางคนบอกว่าไหนๆ ก็เปิดแล้ว ประมวลกฎหมายยาเสพติดก็เสร็จแล้ว และต้องเข้าที่ประชุมร่วมด้วย
    ดังนั้น ?การเปิดครั้งนี้เป็นการเปิดเพื่อประชุมร่วมอยู่แล้ว ควรจะนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาด้วยเลย โดยอาจจะพิจารณาทั้ง 3 เรื่อง 3 วาระไปเลย ซึ่งได้ถามไปแล้วว่ามีหรือไม่ จริงหรือไม่ จะได้รู้ว่าเปิดแล้วจะต้องปิดเร็วหรือไม่ เพราะเวลาทูลเกล้าฯ ถวายจะต้องมีทั้งฉบับเปิดหนึ่งฉบับและฉบับปิดอีกหนึ่งฉบับ แต่ทางสภายังไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าวมา คงอยากจะรอฟังคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญก่อน
    ซักว่าผลการพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญจะมีผลเกี่ยวข้องกับการพิจารณาวาระ 3 หรือไม่ นายวิษณุแจงว่า ปกติจะไม่เกี่ยวกัน แต่อาจจะเกี่ยวกันได้ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งอะไรที่เกี่ยวข้องกัน เช่น ถ้าศาลสั่งว่าทำได้ก็ไม่มีปัญหา หรือถ้าศาลสั่งว่าทำไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องประชุมในวาระ 3 แล้ว
    เมื่อถามว่า? ดังนั้นที่ประชุมแก้ไขรัฐธรรมนูญกันมาทั้งหมดจะเป็นศูนย์ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า "ใช่ สิ่งที่ทำไปแล้วก็ถือว่าใช้ไม่ได้ แต่ความจริงมันก็ใช้ได้ เพียงแต่ว่ามันจะทำต่อไปไม่ได้"
    ถามว่า ยืนยันว่าหมวด 1 หมวด 2 ไม่แตะต้องใช่หรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่า วันนี้ยังจะต้องยืนยันอีกหรือ
     นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ช่วงกลางเดือน มี.ค.ว่า ส่วนตัวจะเป็นหนึ่งเสียงที่ลงมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 3 เพราะเชื่อว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้มีเจตนาจะแตะหมวด 1 และ 2 ที่ ส.ว.ห้ามแก้ไข และมั่นใจว่า จะมี ส.ว.เกิน 84 เสียง ลงมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญวาระ 3 เช่นเดียวกับตน เห็นได้จากการลงมติแก้รัฐธรรมนูญวาระ 2 เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2564 ในมาตรา 256/13 เรื่องการห้าม ส.ส.ร.แก้ไขหมวด 1และ 2 ที่ ส.ว.พยายามให้เพิ่มเติมข้อความว่า ให้รวมถึงการห้ามส.ส.ร.แก้ไขเนื้อหาอีก 38 มาตราที่เกี่ยวกับสถาบันเข้าไปในร่างรัฐธรรมนูญวาระ 2 ด้วย แต่ปรากฏว่าที่ประชุมลงมติด้วยคะแนน 349 ต่อ 200 ไม่ให้เพิ่มเติมถ้อยคำตามที่ ส.ว.ต้องการลงไป แสดงให้เห็นว่า ส.ส.ยังมีเจตนาให้แตะการแก้หมวด 1 และ 2 ได้ เพราะ 349 เสียง ไม่ใช่มีแค่เสียงฝ่ายค้าน แต่ยังมีเสียงพรรคร่วมรัฐบาลร่วมอยู่ด้วย  
    “ส.ว.หลายคนเห็นตรงกันว่า ควรโหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญวาระ 3 เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ส่วนจะเป็นชนวนเหตุให้เกิดชุมนุมใหญ่ของม็อบราษฎรตามมาหรือไม่นั้น อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด บ้านเมืองจะขึ้นอยู่กับม็อบไม่ได้ ถ้าไปยอมตามม็อบกดดัน แล้วถ้าตนขนม็อบมาบ้าง ต้องทำตามตนหรือไม่ ถ้า ส.ว.ปล่อยร่างรัฐ ธรรมนูญผ่านวาระ 3 ได้ การประท้วงจะไม่สิ้นสุด อีกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญและปกป้องสถาบันต้องออกมา กลายเป็นความขัดแย้งไม่สิ้นสุด ยิ่งปล่อยไปความขัดแย้งยิ่งรุนแรง ส.ว.จึงปล่อยผ่านไม่ได้ ยืนยันอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” นายกิตติศักดิ์กล่าว
    ขณะที่ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว. กล่าวว่า ดูแนวโน้มการโหวตรัฐธรรมนูญวาระ 3 แล้ว น่าจะมีเสียง ส.ว.เห็นชอบไม่ถึง 84 เสียงค่อนข้างแน่ โดยเห็นสัญญาณชัดเจนมาตั้งแต่การแก้รัฐธรรมนูญวาระ 2 ทั้งเรื่องจำนวนเสียงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ส.ว.เสนอไปให้ใช้เสียงที่ประชุมรัฐสภา 2 ใน 3 และกรณีการขอให้เพิ่มข้อความ ห้าม ส.ส.ร.แก้ไข 38 มาตราที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจ ปรากฏว่าสิ่งที่ ส.ว.เสนอไปแพ้โหวตทั้งหมด ทำให้ ส.ว.เห็นตรงกันว่าจะไม่โหวตผ่านวาระ 3 แต่ทั้งนี้คงต้องรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 4 มี.ค. ก่อนว่าจะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้หรือไม่ หากศาลระบุว่าแก้ไม่ได้ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตกไปทันที
    นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ, นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชน, นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และนายธงชาติ รัตนวิชา พรรคประชาชาติ เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอส่งบันทึกถ้อยคำและความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญประกอบการพิจารณาวินิจฉัยในคดีที่ประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ  
    นายประเสริฐเผยว่า พรรคฝ่ายค้านเห็นว่าศาลได้มีการขอความเห็นจากนักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้จำนวน 4 คน ดังนั้น เพื่อเป็นการเปิดรับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย จึงได้ขอส่งบันทึกถ้อยคำเป็นข้อมูลต่อศาลรวม 7 หน้า เพื่อยืนยันว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 156 (15) บัญญัติไว้ชัดเจนว่ารัฐสภามีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม คิดว่าการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญจะทันต่อการที่สภาจะพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค.
    เขายังกล่าวด้วยว่า ฝ่ายค้านยังไม่ได้มีการพูดคุยกันว่าหากการตั้งสมาชิกสภาร่างไม่สามารถเป็นไปได้จะทำอย่างไร เพราะเราคาดหวังไว้ว่ารัฐสภาน่าจะผ่านวาระ 3 ได้ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ ประชาชนเรียกร้อง รัฐสภาที่เป็นตัวแทนของประชาชนจะเห็นด้วยกับการผ่านวาระ 3
    ด้านนายชัยธวัชกล่าวว่า เราเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ควรมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ใช่ปัญหาเรื่องอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดชัดเจนว่าสภามีอำนาจในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญรายมาตราได้ โดยมีข้อจำกัดเพียงห้ามแก้ไขแล้วไปกระทบต่อระบอบการปกครองและรูปแบบของรัฐมิได้ ดังนั้นการแก้ไขโดยให้มี ส.ส.ร. จึงอยู่ในกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ กระบวนการก็ยังอยู่ในกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนด จึงได้ให้ความเห็นในบันทึกที่ส่งศาลในวันนี้ การเสนอแก้ไขในลักษณะที่กระทำอยู่สามารถทำได้ และเป็นอำนาจของรัฐสภา และในอดีตตอนแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2534 ก็มีการทำในลักษณะนี้ จนนำไปสู่การตั้ง ส.ส.ร. และมีรัฐธรรมนูญ 2540 จึงยืนยันในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านว่ารัฐสภามีอำนาจ ไม่เห็นว่าสิ่งที่ดำเนินการอยู่ขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"