เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของ "บีทาเก้น" หรือเป็นแนวคิดของบรรดาร้านค้าโชห่วยก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ที่จ้างวานให้บรรดานักเรียน นักศึกษาใส่เครื่องแบบไปเร่ขายนมเปรี้ยวตามสี่แยกไฟแดง โดยขายทีเดียวเป็นถุงๆ 100 บาท ไม่มีการแยกขายเป็นขวดหรือ 2 ขวด ตามอำเภอใจคนซื้อ
คงทำเอาแบรนด์เก่าที่มาก่อนอย่าง "ยาคูลท์" รู้สึกกระเทือนไม่มากก็น้อย เพราะบอกตามตรงว่า คนที่ตัดสินใจซื้อบีทาเก้นตามสี่แยกไฟแดงนั้น ส่วนมากมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจเด็กๆ ที่อุตส่าห์มายืนกลางแดดขายของเพื่อหารายได้พิเศษ
มนุษย์ป้าเป็นคนหนึ่งล่ะ ที่เจอทีไรต้องซื้อทุกครั้ง ทั้งๆ ที่ไม่กินเจ้านมเปรี้ยวนี้เลย ไม่ว่าจะยี่ห้ออะไรก็ตาม แต่เห็นว่านี่เป็นการสร้างกำลังใจให้กับเยาวชนอนาคตของชาติในทางหนึ่ง โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่เราต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจอันมีเหตุจากไวรัสโควิด-19
อะไรที่พอจะช่วยเหลือเจือจาน เกื้อหนุนจุนเจือได้ ก็ทำกันไปตามกำลัง
เคยนึกว่า ภาพเด็กในชุดนักเรียนหรือบางทีก็นักศึกษารวมกลุ่มกันตามสี่แยกไฟแดงนี้ จะมีแต่เฉพาะในกรุงเทพมหานคร แต่เปล่าเลย..เมื่อเดือนที่แล้วขับรถผ่านไปทางเหนือ ก็พบว่ามีกลุ่มนักขายนมเปรี้ยวอยู่ตามสี่แยกเหมือนกับในเมืองกรุงที่รถติดเป็นประจำด้วยเหมือนกัน
สืบเสาะกับเพื่อนฝูงและรุ่นน้องๆ ที่บ้านอยู่ในภาคอีสาน หรือภาคอื่นๆ ก็ปรากฏว่าได้คำตอบเดียวกันว่ามีขายกันแบบนี้ทั่วทุกภาคเลยนะ
มองมุมบวก มันก็ดีนะจ๊ะ เด็กได้มีรายได้พิเศษ อีกทั้งบริษัทผู้ผลิตก็สามารถระบายสินค้าได้โดยเร็วไม่ต้องผ่านคนกลาง แต่มองต่างมุม เอาแบบที่บางคนประสบมาแบบลบสุดๆ คือ ความใจดีของคนในสังคมกำลังถูกนำไปใช้อย่างไม่น่ารัก เพราะบางคนบอกว่า ซื้อมาแล้วหมดอายุบ้าง กินไม่ได้บ้าง เพราะนมเปรี้ยวนั้นต้องอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม
เฮ้อ...ประสบการณ์ทั้งในทางตรงและทางอ้อม มนุษย์ป้าก็ขอสรุปว่า ต่างจิตต่างใจ ต่างกรรม ต่างเวลา ต่างสถานที่ ต่างคนต่างก็เลือกที่จะประพฤติปฏิบัติเอาตัวให้รอดนะคะ แต่ถ้าไม่จริงใจในการทำมาค้าขาย ต่อไปก็คงไม่มีใครคิดจะเจือจานแน่นอน ..เอวังด้วยประการฉะนี้.
"ป้าเอง"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |