‘บิ๊กตู่’สัญญาจะทำให้ดีที่สุดลั่นไม่มีศึกใดเอาชนะไม่ได้


เพิ่มเพื่อน    

3 มี.ค.2564 - ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน ระหว่าง 12 กระทรวง 1 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม. กล่าวรายงานถึงการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมงาน

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีฯ ว่า รัฐบาลตระหนักการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม การพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มคนยากจนและกลุ่มเปราะบาง เพื่อที่จะลดความเหลื่อมล้ำและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งจากสถานการณ์โควิด-19  รัฐบาลก็มีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบต่าง ๆ ออกมา วันนี้เราคือทีมประเทศไทย ไม่มีศึกใดที่เราเอาชนะไม่ได้ ถ้าเราร่วมมือกัน ร่วมพลังความรัก ความสามัคคีทุกอย่างแก้ได้ทั้งหมด ฝากให้ทุกกระทรวงหน่วยงานดูแลช่วยเหลือเพื่อให้กลุ่มเปราะบางได้เข้าถึงสวัสดิการของภาครัฐได้อย่างเสมอภาค เท่าเทียมกัน ทุกอย่างค่อยๆเดินหน้าไป อาจจะช้าบ้าง อาจจะเร็วบ้าง มีปัญหาอยู่บ้าง ทุกอย่างต้องมีปัญหาในสิ่งที่ไม่เคยทำ  

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้เราต้องหาอาชีพให้กลุ่มเปราะบาง รวมถึงการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุที่วันนี้เพิ่ม ซึ่งรัฐบาลพร้อมเต็มที่ในการดูแลเรื่องสุขภาพ โดยได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาชนบทตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ซึ่งจะบูรณาการการช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนให้มีประสิทธิภาพ วันนี้ตนพูดข้อเท็จจริงทุกเรื่องเป็นอย่างไร ทำไมรัฐบาลทำอย่างนี้ ทำไมถึงทำอย่างนั้น ไม่ทำอย่างโน้น ถ้าทำแบบนี้ทั้งหมดก็ไม่สำเร็จซักเรื่อง ซึ่งสิ่งสำคัญคือ ทำให้ประชาชนเข้าถึงช่องทางมาตรการของรัฐบาล และสิทธิ์เขามีอะไรบ้าง ซึ่งรัฐบาลพูดไปหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับความสนใจจากสังคม ทำให้เกิดปัญหามาโดยตลอด หลายคนไม่ทราบจนมีปัญหาออกสื่อ หาว่ารัฐบาลไม่ดูแล เรื่องนี้ขอเน้นย้ำทุกหน่วยงานขอให้ชี้แจงประชาชนให้เข้าใจว่า สิ่งที่เราให้เขาไปแล้วนั่นคือสิทธิ์ของท่านตามรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลต้องดูแล แต่เขาต้องรักษาสิทธิ์ของเขาด้วยตัวเอง หรือให้ญาติพี่น้องทำแทนให้ ไม่อย่างนั้นก็วุ่นไปหมดรัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังไปลดเงินตรงนี้เลย ถ้าท่านยังมีสิทธิ์อยู่ ทุกคนมีสิทธิ์ตราบใดที่ยังเป็นคนไทยอยู่

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้โลกเปลี่ยนทุกวัน ก็เห็นปัญหาในต่างประเทศ ซึ่งปัญหาสำคัญที่สุดคือความมั่นคง มีเสถียรภาพของบ้านเมือง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนเรื่องการต่อต้านการทุจริตก็ต้องดำเนินการอย่างเข้มแข็งเฉียบขาด ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนย้ำเสมอ วันนี้ทุกคนคือทีมประเทศไทย 66 ล้านคน เราคือครอบครัวเดียวกัน ตนคิดว่าใช่ ตนรู้สึกอย่างนั้นเพราะต้องดูแลทุกคน เราต้องไปด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน ดีกว่าที่จะไปหาเรื่องเล็กๆน้อย ๆ ตำหนิ ติติง จนภาพใหญ่เสียหาย นั่นคือสิ่งที่ตนขอร้องเสมอมา ตนรับทุกอย่าง จะดีหรือไม่ดี ตนก็ต้องรับมาแก้ไข ถ้าดีอยู่แล้ว ตนก็ขอบคุณถ้าไม่ดีก็รับมาแก้ไข ย้ำเตือน ช่วยเหลือ นี่คือคำว่าทีมประเทศไทยสำหรับคนไทยเรียกว่าครอบครัวประเทศไทย

“ผมยินดีที่จะทำทุกอย่างให้กับท่าน นี่คือคำสัญญา เป็นคำสัญญาของผม ว่าผมจะทำให้ดีที่สุดในขีดความสามารถที่ผมมีอยู่ และผมมีกำลังใจที่จะทำอยู่ด้วยความศรัทธาของผมเอง เพราะผมทำเพื่อคนอื่นเพื่อประเทศไทยมันต้องสำเร็จ ถ้ามันไม่สำเร็จผมก็ต้องรับผิดชอบ แต่ก็ดูสิว่าเป็นธรรมกับผมหรือไม่ แล้วผมทำอะไรมากน้อยเพียงใด ขอบคุณทุกคนและขอให้ทุกคนเฝ้ามองสิ่งดีๆ ที่เรากำลังทำให้ประชาชนให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง เพื่อให้ประชาชนมีความพึงพอใจ มีความสุขและความเจริญไปด้วยกัน” นายกฯ กล่าว
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"