3 มี.ค.2564 – น.ส.ศุภมาส เสนะเวส  ศิษย์เก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และแกนนำกลุ่ม ฬ รักชาติ  โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ทำไมจึงออกหมายจับได้ทันที” ระบุว่า การออกหมายจับ เป็นอำนาจของศาล ที่ออกมาเพื่อให้จับตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย โดยพนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอที่จะเชื่อได้ว่า ผู้นั้นน่าจะกระทำความผิดจริง ซึ่งกรณีที่เป็นความผิดอุกฉกรรจ์ เป็นต้นว่า ปล้น ฆ่า หรือวางเพลิง แล้วหลบหนีไปหรือหลบซ่อนอยู่ คงไม่มีใครบ้าออกหมายเรียกให้มาแสดงตัว ทำให้รู้ตัวแล้วเปิดแน่บไปสุดหล้าฟ้าเขียว

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อาญา) มาตรา 66 จึงบัญญัติว่า สามารถออกหมายจับได้เลย "เมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลใดน่าจะได้ทำผิดอาญา" สำหรับความผิดที่มีโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี
หากโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกินสามปี ต้องออกหมายเรียกก่อน หากออกหมายเรียกแล้ว ไม่มาตามนัด หรือไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะหลบหนี จึงจะออกหมายจับ รวมทั้งกรณีที่มีหลักฐานว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือข่มขู่พยาน ก็สามารถออกหมายจับได้

สำหรับความผิดฐานวางเพลิง นั้นตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อาญา) มาตรา 217 กำหนดโทษของการวางเพลิงทรัพย์ของผู้อื่นไว้ มีโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปีและปรับหนึ่งหมื่นถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
ส่วนมาตรา 218 บัญญัติเหตุต่าง ๆ ที่จะได้รับโทษสูงกว่าวางเพลิงทั่วไป คือมีโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบไป ซึ่งใน (4) คือ โรงเรือนอันเป็นสมบัติสาธารณะของแผ่นดิน

นอกจากนั้น ในคดีนายแอมมี่นั้น การวางเพลิง นอกจากจะเผาสิ่งปลูกสร้างแล้ว ยังจงใจเผาพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันน่าจะเข้าข่าย "การอาฆาตมาดร้าย" ตามป.อาญา มาตรา 112 ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี ดังนั้น เป็นที่มาของการออกหมายจับทันที 

พวกกีบคี่จึงมิพักต้องมาใส่ไคล้ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ทำไมไม่ออกหมายเรียกก่อน เพราะเป็นไปตามหลักกฎหมายทุกประการ  เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้