ศบค.พบผู้ป่วยใหม่ 42 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย   นายกฯ ยันไม่ได้สั่งกักตุนวัคซีนให้วีไอพี ขอให้เชื่อมั่นจัดหา-กระจายอย่างเป็นธรรม-โปร่งใส ตามกลุ่มที่กำหนด คาดตรวจเอกสารแอสตราฯ อีกไม่นานคงเรียบร้อย สธ.เผย 2 วันฉีดวัคซีนแล้ว 3,021 คน มีอาการไม่พึงประสงค์ 5 คน กก.โรคติดต่อฯ ถกวัคซีนพาสปอร์ต 8 มี.ค.นี้ ครม.อนุมติ 6,387 ล้านบาทจัดหาวัคซีนเพิ่ม 35 ล้านโดส ครอบคลุมประชากรไม่น้อยกว่าร้อยละ 50

    เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 42 ราย โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 35 ราย ได้แก่ จังหวัดตาก 4 ราย, นครปฐม 1 ราย, นนทบุรี 1 ราย,  ปทุมธานี 5 ราย, สมุทรสาคร 24 ราย จากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 4 ราย ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี 3 ราย, กทม. 1 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ เข้าในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 3 ราย ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย, สาธารณรัฐเซอร์เบีย 1 ราย และเยอรมนี 1 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 26,073 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 569 ราย ยอดหายป่วยรวม 25,420 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมรวม 84 ราย
     สำหรับผู้เสียชีวิตรายใหม่ เป็นเพศชาย อายุ 92 ปี ภูมิลำเนา จ.ปทุมธานี มีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ มีประวัติไปซื้อของกับแม่ค้าที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 ที่ตลาดพรพัฒน์ เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ต่อมาเริ่มมีอาการไข้ ไอ เหนื่อย ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลในปทุมธานี และผลตรวจพบติดเชื้อโควิด ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ต่อมาวันที่ 23 ก.พ.มีอาการเหนื่อยมากขึ้น จนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ อาการแย่ลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตในวันที่ 28 ก.พ.
    ส่วนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก ยอดติดเชื้อสะสม 114,987,953 ราย รักษาหาย 90,696,596 ราย เสียชีวิตสะสม 2,549,743 ราย ประเทศไทย
     พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตอบคำถามกรณีมีสื่อออนไลน์เผยแพร่การกระจายจัดส่งวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีการกักตุนให้สำหรับบุคคลวีไอพีของแต่ละจังหวัดว่า ต้องไปดูในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง และตนไม่ได้สั่งอย่างนั้น และทางกระทรวงสาธารณสุขก็ยืนยันว่าไม่ได้สั่ง เป็นเรื่องของคณะกรรมการประจำจังหวัดที่ต้องดำเนินการให้เป็นธรรมตามที่กำหนดไว้แล้ว ซึ่งเราต้องดูแลประชาชนกลุ่มเสี่ยง บุคลากรทางการแพทย์ และในพื้นที่ท่องเที่ยว ทั้งนี้ ช่วงแรกอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง เนื่องจากวัคซีนเข้ามาจำนวนจำกัด ก็ขอให้รอระยะต่อไป แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง ซึ่งวันนี้ได้อนุมัติงบประมาณจัดหาวัคซีนล็อตที่ 2 แล้ว และคาดว่าจะสามารถฉีดให้ครบ 60 เปอร์เซ็นต์ของคนทั้งประเทศ ซึ่ง 60 เปอร์เซ็นต์คือคนที่จะต้องฉีด
     “ขอให้มีความเชื่อมั่นการจัดหาและฉีดวัคซีน การดำเนินการใดๆ ก็ตามเป็นเรื่องของแต่ละจังหวัดที่จะต้องทำให้เกิดความโปร่งใสเป็นธรรมให้มากที่สุด ยืนยันไม่มีนโยบายว่าจะต้องกักตุนไว้ให้ใคร แต่เราก็ต้องมีความจำเป็นต้องวางแผนการแจกจ่ายฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามกฎหมายและตามวัคซีนที่มีอยู่ การฉีดวัคซีนก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    นายกรัฐมนตรีโพสต์เฟซบุ๊กด้วยว่า ตอนนี้ประเทศไทยเริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้ว มีการกระจายวัคซีนไปใน 13 จังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงก่อน เพื่อฉีดให้กับหมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานแนวหน้า ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตามแผนฉีดวัคซีนของเราครับ เดือนนี้ และเดือนต่อๆ ไปเราจะได้วัคซีนเข้ามาทุกเดือน จนถึงสิ้นปีรวม 63 ล้านโดสกระจายไปได้ทั่วประเทศ และฉีดได้ครอบคลุมมากขึ้น ผมได้รับรายงานว่าทุกคนที่ฉีดไปแล้วสบายดีครับ ยังไม่มีใครแพ้หรือมีผลข้างเคียง
    นอกจาก 63 ล้านโดสที่จองซื้อไปแล้วและกำลังทยอยมา เรากำลังหาวัคซีนมาเพิ่มเพื่อฉีดให้ได้ทุกคน หรือครอบคลุมให้ได้มากที่สุด อาจจะเป็นวัคซีนตัวเดียวกันหรือวัคซีนใหม่ที่ผ่านการรับรองแล้ว เราดูทุกตัวโดยพิจารณาความเหมาะสมทุกๆ ด้าน
    วัคซีนที่เราฉีดกันอยู่ตอนนี้คือซิโนแวคจากจีน ซึ่งหลายๆ ประเทศก็ได้ฉีดไปแล้วเช่นกัน วัคซีนตัวนี้เป็นวัคซีนที่ยังไม่มีผลการทดลองที่มากพอในกลุ่มคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เราจึงได้รับคำแนะนำว่าอย่าเพิ่งฉีดให้คนที่มีอายุเกิน 60 ปี รอผลการทดลองอีกสักหน่อย ซึ่งไม่ใช่เรื่องปลอดภัยหรือไม่ วัคซีนทุกตัวที่ใช้ได้รับการรับรองความปลอดภัย และรับรองว่าได้ผล
    ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีกหลายท่านฉีดวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว ส่วนผมนั้นคุณหมอแนะนำให้ฉีดวัควีนของแอสตราเซเนกา ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มอายุ แต่แอสตราเซเนกาที่เราได้มา 1.1 แสนโดส ยังอยู่ในขั้นตอนรอเอกสารจากผู้ผลิต ก็ต้องรอก่อน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานก็จะเรียบร้อย ผมจะไปฉีดก่อนก็ไม่ได้ ทั้งคนสั่งให้ฉีด และคนฉีดให้ก็จะผิดกฎหมาย
    รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งว่า ในที่ประชุม นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข และรัฐมนตรีที่ได้ฉีดวัคซีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน หากรัฐมนตรีคนใดต้องการฉีดวัคซีน ให้ติดต่อไปที่กระทรวงสาธารณสุขได้
    ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหาร สธ. รับมอบชุดอุปกรณ์พร้อมระบบตรวจวัดอุณหภูมิและควบคุมห่วงโซ่ความเย็น เพื่อประกันคุณภาพวัคซีนโควิด-19 จากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
    นายอนุทินได้แสดงตัวอย่างหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า ในวันที่ 8 มี.ค.นี้ ตนจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ซึ่งจะมีวาระการหารือถึงการออกเอกสารรับรองหลังรับวัคซีนโควิด-19 ที่ออกโดยกรมควบคุมโรค ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ โดยสามารถใช้แนบไปกับพาสปอร์ตเวลาเดินทาง สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทย พร้อมเปิดประเทศแล้ว
    นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หลังจากประเทศไทยเริ่มเดินหน้าทดสอบระบบการรับวัคซีนโควิด-19 ไปเมื่อวันที่ 28 ก.พ. และได้มีการกระจายวัคซีนไปใน 13 จังหวัดเรียบร้อยแล้ว เพื่อพร้อมฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตามเป้า 116,520 โดส เบื้องต้นใน 2 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-1 มี.ค. มีผู้รับวัคซีนไปแล้ว 3,021 คน แบ่งเป็นการฉีดในบุคลากรทางการแพทย์ และ อสม. 2,781 คน เจ้าหน้าที่อื่น 133 คน ประชาชนที่ป่วยโรคเรื้อรัง 21 คน และประชาชนในพื้นที่ 86 คน และพบว่าในจำนวนผู้ป่วยวัคซีนมีอาการไม่พึงประสงค์ 5 คน เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 1 คน มีอาการอาเจียน คลื่นไส้ ส่วนอีก 4 คน เป็นเจ้าหน้าที่ทั่วไป มีอาการปวดบวมแดง
    นพ.โอภาสกล่าวถึงกรณีคนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วจะสามารถขอรับวัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport ) ได้หรือไม่ ว่า ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มีกฎหมายโดยมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อ หรือ ผอ.โรงพยาบาลเป็นผู้ออกหนังสือรับรองให้กับประชาชนที่ฉีดวัคซีนโควิดจนครบได้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการวางระบบไว้เช่นกัน สำหรับขั้นตอน คือเมื่อบุคคลที่ฉีดวัคซีนจนครบ ทางโรงพยาบาลจะออกใบรับรองการฉีดวัคซีนให้และหลังจากนั้นหากต้องการหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนอย่างเป็นทางการ ก็สามารถมาขอได้ที่กรมควบคุมโรค ส่วนการมีหนังสือรับรองนี้ในอนาคต จะมีผลกับการลดจำนวนการกักตัวหรือไม่นั้น เรื่องนี้จะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ในวันที่ 8 มี.ค.64 นี้
    อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวถึงกระแสข่าวการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มวีไอพีในจังหวัดเชียงใหม่ว่า เรื่องนี้ทาง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งให้มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง มีผู้ตรวจราชการ นายแพทย์สาธารณสุข ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค เป็นกรรมการสอบ
    นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณ  6,387,285,900 บาท สำหรับโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน 35 ล้านโดส เพื่อให้ครอบคลุมเป้าหมายการฉีดให้ประชากรไทยอย่างน้อยร้อยละ 50 ภายในปี 2564
    น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงอาการหลังได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ไม่มีอาการไข้ ไม่มีอาการอะไร ซึ่งก็มีแต่คนมาถามตน ยืนยันว่าสุขภาพปกติ ทานอาหารอร่อย ซึ่งทางทีมแพทย์ได้ออกใบนัดหมายให้ไปฉัดวัคซีนอีกครั้ง และมีการสอบถามอาการหลังฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชันวันละ 3 เวลา  
    กองบัญชาการกองทัพไทย พล.ต.ณัฐพล แสงจันทร์ ผอ.ศูนย์การเพื่อพัฒนาสันติภาพ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในเซาท์ซูดาน และความปลอดภัยของกองร้อยทหารช่างผลัดที่ 2 จำนวน 272 นายว่า จากการรายงานขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) การระบาดของ โควิด-19 ในเซาท์ซูดาน ติดเชื้อประมาณกว่า 7,900 นายมีผู้เสียชีวิตสะสมจำนวน 93 นาย
    ในส่วนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติจำนวนไม่มาก ในกว่า 10,000 คน ติดเชื้อเพียง 300 คน ซึ่งถือว่าทางสหประชาชาติมีมาตรการป้องกันที่เข้มแข็ง ป้องกันการระบาดได้ดี  ในส่วนของกองร้อยทหารช่างไทยได้มีการกำหนดมาตรการค่อนข้างเข้มข้น ในการป้องกันการแพร่ระบาดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในหน่วยของตัวเอง รวมถึงการนำเชื้อจากภายนอกเข้ามา
    เมื่อถามว่า ทหารช่างไทยผลัดที่ 2 มีติดเชื้อโควิดบ้างหรือไม่เพราะในผลัดที่ 1 มีการติดเชื้อเป็นจำนวนหลายนายเมื่อกลับมาประเทศไทย พล.ต.ณัฐพลกล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีกำลังพลผลัด 2 ติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้กองทัพไทยอยู่ในระหว่างการประสานกับกรมควบคุมโรคเพื่อขอวัคซีนโควิด-19 นำไปฉีดให้กับ กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเซาท์ซูดาน.