“ประยุทธ์” ยันจะปรับคณะรัฐมนตรีให้เร็วที่สุด แต่บอกปลาย มี.ค.หรือต้น เม.ย.ถึงได้เห็น ยังกั๊กปรับใหญ่หรือแค่ 3 เก้าอี้ “พปชร.” ให้อำนาจ “ประวิตร” เบ็ดเสร็จเด็ดขาดทุบโต๊ะเลือกใคร บิ๊กป้อมบอกยังไม่มีชื่อเลยแต่การันตีคนใน “ก๊วน 4 ช.” คึกคักประกบติดหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแจ “สันติ” ลั่นไม่มีปรับทีมเศรษฐกิจแน่ หมดราคาฟัน 7 ส.ส.แหกมติพรรค ยื้อยาวไปสัปดาห์หน้า กกต.ส่งศาล รธน.ชี้สถานะ 5 ส.ส.กปปส.
เมื่อวันอังคารที่ 2 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประยุทธ์ 2/4 จะได้ยลโฉมเมื่อไหร่ว่า เร็วๆ นี้ ซึ่งได้หารือกับพรรคการเมืองไว้เรียบร้อยหมดแล้ว สุดท้ายเป็นเรื่องของนายกฯ ตัดสินใจ ก็ต้องทำให้เร็วที่สุด และวันนี้เป็นการแต่งตั้งรักษาการเป็นการชั่วคราว ก็คงไม่นานนัก และเป็นการสานต่อแนวทางเดิมจนกว่ามีรัฐมนตรีว่าการคนใหม่ขึ้นมา ก็แค่นั้นเอง
เมื่อถามว่า การปรับ ครม.มีข่าวว่านายกฯ แจ้งในที่ประชุมว่าจะปรับให้เสร็จภายในเดือน มี.ค.หรือต้น เม.ย. ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนว่า แล้วยังไง ทำให้สื่อถามต่อว่าประชาชนอยากรอดู นายกฯ กล่าวว่า ก็รอ ก็รอสิ ปลาย มี.ค.หรือต้น เม.ย. ก็จะทำให้เร็วที่สุด ทำไมต้องเอาคำพูดนี้ไปแปลเป็นอย่างอื่นอีก มันจบตั้งแต่ความหมายตรงนี้แล้ว ทำไมต้องอธิบายซ้ำอีกไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจจริงๆ
ถามอีกว่า จะพิจารณาปรับเฉพาะตำแหน่งที่ว่างลงอย่างเดียวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กำลังคิดอยู่ เมื่อถามว่ามีพรรคร่วมรัฐบาลแสดงเจตนารมณ์ขอปรับรัฐมนตรีในส่วนของตัวเองหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มี หรือถ้ามีเดี๋ยวเขาก็บอกมาเอง แต่จากการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคก็ยังไม่มี
“ฉะนั้นมันขัดแย้งกันเยอะอยู่แล้ว อย่าเอาอะไรกันอีกเลย ผมคิดว่าสามารถควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติที่ดี ทั้งการเมืองและการบริหารแผ่นเดิน เราอยู่อำนาจบริหารก็ต้องบริหาร นิติบัญญัติก็อยู่นิติบัญญัติ ตุลาการก็อยู่ตุลาการ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่า ที่นายกฯ บอกว่าคุยกับพรรคร่วมแล้วมีการปรับโควตาใหม่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้ยังเหมือนเดิม ถามอีกว่าพรรคเล็กมีการรวมตัวแถลงข่าวขอเก้าอี้ นายกฯ กล่าวว่า ก็แถลงไป เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคที่จะไปคุยกัน พูดอะไรก็ชอบไปแปลความกันต่อ ไม่ได้โมโหอะไรเลย และก็ชอบไปพูดกันว่านายกฯ เครียด ไม่ได้เครียดอะไร แต่เครียดเพราะคำถามเธอนั่นแหละ
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึง ส.ส.พรรคที่รวบรวมรายชื่อเรียกร้องให้เสนอคนในพรรคแทนตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างลง ว่ายังไม่ถึงมือ ส่วนจะมีผลต่อการตัดสินใจหรือไม่นั้น เดี๋ยวในการประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ค่อยว่ากัน และไม่มีแรงกดดันอะไร ยืนยันพรรคเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีอะไร และยืนยันไม่มีโควตา เรื่องรายชื่อจะส่งให้นายกฯ ไปจัดการว่าใครอยู่ที่ไหนอย่างไร เพราะไม่ได้ส่งว่าใครเป็นอะไร เพียงแต่ส่งรายชื่ออย่างเดียว
เมื่อถามว่า จะสลับเก้าอี้กันหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ เรื่องสลับเก้าอี้เป็นเรื่องของพรรคที่จะคุยกันเอง เมื่อถามว่าจะส่งรายชื่อไปกี่คน พล.อ.ประวิตรตอบว่า ว่างกี่คนก็ส่งเท่านั้นคน ถามย้ำว่ามีการส่งรายชื่อไปเผื่อสำหรับปรับโยกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีๆ
ถามอีกว่า ขณะนี้ส่งไปแล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตรสวนว่า เรื่องของตนเอง เป็นเรื่องอะไรของคุณ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามอีกว่าขณะนี้รายชื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า อยู่ที่หัวนี่ พร้อมเอานิ้วชี้ไปที่ศีรษะ
ก๊วนรัฐมนตรีช่วยคึกคัก
ทั้งนี้ ก่อนเข้าประชุม ครม.ที่ตึกสันติไมตรี พล.อ.ประวิตรได้มาที่ห้องทำงานตึกบัญชาการ โดยมีรัฐมนตรีของพรรค พปชร.มาเข้าพบ โดยมีทั้งนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม
มีรายงานว่า ระหว่างที่ พล.อ.ประวิตรอยู่บนตึกบัญชาการนั้น ขบวนรถได้มาจอดที่โรงจอดรถประจำตำแหน่งเหมือนทุกครั้ง แต่ปรากฏว่าวันนี้มีตัวเงินตัวทองที่มักเดินอยู่ในทำเนียบรัฐบาลคลานเข้าไปอยู่ใต้รถประจำตำแหน่งของ พล.อ.ประวิตร ทะเบียน 7กร 9302 กรุงเทพมหานคร จนทีมงาน พล.อ.ประวิตรต้องลงจากรถมาไล่
หลังจบประชุม ครม. บรรดารัฐมนตรีของพรรค พปชร. ทั้งนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน, นายอธิรัฐ, นายสันติ และ ร.อ.ธรรมนัส ตั้งแถวรอส่ง พล.อ.ประวิตรออกจากทำเนียบฯ โดยก่อนขึ้นรถ พล.อ.ประวิตรได้เรียก ร.อ.ธรรมนัสมาคุยส่วนตัว ก่อนที่ ร.อ.ธรรมนัสจะหันไปคุยกับรัฐมนตรีทั้ง 3 คน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางนฤมลว่าหารือกันเกี่ยวกับการปรับ ครม.หรือจะสลับเก้าอี้ตามกระแสข่าวหรือไม่ ซึ่งนางนฤมลอมยิ้มพร้อมกับโบกมือปฏิเสธว่า “ไม่มี”
รายงานข่าวจากที่ประชุม ครม.แจ้งว่า เลขาธิการ ครม.ได้รายงานถึงเรื่องการรักษาราชการแทนรัฐมนตรีตำแหน่งที่ว่างลง ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ได้เสนอว่ารัฐมนตรีรักษาการควรเป็นไปตามมติ ครม.เดิม เพื่อให้สานงานต่อนโยบายเดิม และไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมาก เพื่อความสะดวกแก่รัฐมนตรีที่จะมารับหน้าที่ต่อจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวขึ้นว่า "ผมจะทำอย่างเร็วที่สุด ประมาณสิ้น มี.ค.ถึงต้น เม.ย. ดังนั้นขอให้รักษาสภาพตอนนี้กันไปให้ได้ก่อน
ในช่วงท้ายนายกฯ ขอให้ทุกกระทรวงไปเผยแพร่ผลงานการทำงาน โดยต้องทำงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีธรรมาภิบาล และขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง คิดและมีความรับผิดชอบ มีวิสัยทัศน์ ทำงานเชิงรุก ไม่ใช่ทำงานแบบตั้งรับเพียงอย่างเดียว ส่วนเรื่องการเมืองก็ว่ากันไป พร้อมกล่าวปิดท้ายก่อนการประชุมด้วยว่า ครม. สร้างชาติ มั่นคง เข้มแข็ง ยกระดับประเทศ
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ช่วงพักเวลาการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้ปิดห้องหารือร่วมกัน ที่ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งของห้องประชุมได้มีรัฐมนตรีกลุ่ม 3 ช. จับกลุ่มพูดคุยหารือด้วยเช่นกัน ได้แก่ ร.อ.ธรรมนัส, นายสันติ และนางนฤมล แต่น่าสังเกตว่านายอธิรัฐเข้าร่วมพูดคุยด้วย ซึ่งผิดปกติอย่างมาก เพราะนายอธิรัฐมักไม่สุงสิงกับใคร แต่ในวันนี้กลับไปรวมกลุ่มกับ 3 ช. ทุกจังหวะที่มีโอกาส เช่น รับ-ส่ง พล.อ.ประวิตรขึ้นลงรถ ช่วงพักเบรกประชุม ครม. ซึ่งสอดรับกับกระแสข่าวที่ว่านายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ประธานวิปรัฐบาล บิดานายอธิรัฐ หันมาจับมือกับ ร.อ.ธรรมนัสแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวขัดแย้งกัน
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า นายกฯ ขอให้รัฐมนตรีทุกคนตั้งใจทำงานปกติ ไม่ต้องกังวล ท่านจะจัดการเองโดยไม่ได้พูดถึงรายละเอียด เพราะได้หารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลไปตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.ไปแล้ว ซึ่งจากคำให้สัมภาษณ์ของนายกฯ เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ก็ไม่น่าจะเกิน 1 เดือน
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่าจะไปนั่งเป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการปรับ ครม. มีความเป็นไปได้หรือไม่ ว่าเป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เลย ยังไม่ได้พูดคุยกับใครเลย เพิ่งกลับจากโคราช และเมื่อถามว่ารายชื่อที่ พล.อ.ประวิตรส่งให้นายกฯ มีรายชื่อของท่านหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ยังไม่รู้ นายสันติกล่าวว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจ แม้ว่าประชาชนและนักลงทุนจะรู้สึกอึดอัดไม่ทันใจกับการทำงานของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล เพราะในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลได้ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว
ปัดฝันนั่ง รมว.การคลัง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะขึ้นเป็น รมว.การคลังนั้น นายสันติระบุว่า เป็นเพียงข่าวลือ ไม่เป็นความจริง อยู่อย่างนี้ดีที่สุดแล้ว และอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ และ รมว.การคลังคนปัจจุบันก็ดี ทำงานแข็งขัน มีประสิทธิภาพ มีความรู้ความสามารถ เห็นภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ
"ผมทำงานสนับสนุนการงานของ รมว.การคลังคนปัจจุบันเต็มที่ ส่วนจะได้เป็น รมว.กระทรวงอื่นหรือไม่ ผมยังไม่ทราบ แล้วแต่ท่านนายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจ" นายสันติกล่าว
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการปิดห้องคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อหารือถึงการปรับ ครม. เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ว่าคุยกันเข้าใจแล้ว พรรคใครพรรคมัน ที่ต้องไปดูแลให้ดี เหมือนที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์
เมื่อถามว่า มีการพูดคุยเรื่องการสลับเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เดี๋ยวไปคุยกันเองระหว่างพรรค เมื่อย้ำว่าไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่ถ้าจะสลับเก้าอี้รัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นออปชั่น เมื่อถามว่าพรรค ภท.ต้องการรัฐมนตรีตำแหน่ง รมช.เพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน ต้องถามรัฐมนตรีแต่ละคนก่อนว่าประสงค์อยากจะทำงานตรงไหนให้เดินหน้าไปเร็วขึ้น
ถามอีกว่า นายกฯ ได้บอกเงื่อนเวลาว่าจะปรับช่วงไหนเหมาะสมที่สุด นายอนุทินกล่าวว่า นายกฯ ยังไม่แจ้ง แต่เดี๋ยวคงแจ้ง เพราะเรื่องดังกล่าวต้องใช้เวลา ไม่ใช่บอกวันนี้พรุ่งนี้ทำได้เลย เพราะต้องดูคุณสมบัติข้อห้ามข้อจำกัดเยอะไปหมด
ต่อข้อถามว่า ต้องพูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เมื่อวานได้คุยไปแล้ว และคนปรับ ครม.มีคนเดียวคือนายกฯ เราเป็นแค่ผู้เสนอ เมื่อเสนอไปก็ไม่จำเป็นที่นายกฯต้องรับ 100% เพราะต้องหารือกันก่อน ส่วนผลงานของ รมต.ทั้ง 7 ของพรรคนั้น รัฐมนตรีทำงานหนักมาก และก็พอใจการทำงานอยู่ แต่อะไรที่ติดขัดอะไรให้รีบทำ เพราะเวลานี้เป็นครึ่งหลังการทำงานของรัฐบาลแล้ว เผลอไปนิดเดียวทำงานไป 2 ปีแล้ว
เมื่อถามย้ำว่า 7 รัฐมนตรีของพรรคจะขยับเก้าอี้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่รู้
นายจุรินทร์? ลักษณวิศิษฏ์? รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์? ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์? (ปชป.)? กล่าวในเรื่องนี้ว่า ให้นายกฯ? พูดจะดีที่สุด โดย? ปชป.จะดำเนินการหลังเลือกตั้งซ่อม? ส.ส.เขต 3 ?นครศรีธรรมราช ในวันที่ 7 มี.ค.ก่อน ซึ่งพรรคมีกระบวนการขั้นตอนอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ขอให้เสร็จเลือกตั้งซ่อมก่อนแล้วจะแจ้งให้ทราบ ไม่มีความลับอะไร
วันเดียวกัน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ปรากฏตัวครั้งแรก ภายหลังถูกศาลพิพากษาจำคุกจากการร่วมชุมนุมกับ กปปส. ส่งผลให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี โดยเข้าสักการะศาลท้าวมหาพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงดีอีเอส ก่อนอำลาตำแหน่ง โดยมีคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเข้าร่วม
นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ภูมิใจที่มีโอกาสทำงานที่ดีอีเอส ที่ผ่านมากว่า 1 ปีเป็นเพียงฟันเฟืองตัวเดียว อาจถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่มั่นใจสิ่งที่ดำเนินการเป็นไปตามสัญญาที่เคยให้ไว้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ว่าจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง หรือทำให้กระทรวงต้องแปดเปื้อนเสียหาย ซึ่งวันนี้ต้องขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ แม้ในใจหวังจะอยู่ในตำแหน่งถึง 2 ปี แต่มาถึงจุดนี้ได้ถือว่าดีที่สุดในชีวิตแล้ว
ขณะที่ พล.อ.ประวิตรกล่าวกรณีนายพุทธิพงษ์โพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อว่า ยังไม่รู้เลย แล้วศาลเขาว่าอย่างไร ส่วนจะน้อยใจอะไรใครหรือไม่นั้น ไม่รู้ ยืนยันว่านายพุทธิพงษ์ไม่มีน้อยใจพรรค เป็นเพียงการน้อยใจในชะตาชีวิตของตัวเอง ซึ่งหลังจากที่ศาลตัดสิน ก็ได้มีการพูดคุยกับนายพุทธิพงษ์แล้ว
ให้อำนาจ"บิ๊กป้อม"
ต่อมาในช่วงเย็น มีการประชุม กก.บห.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยนายวิรัชแถลงว่า ที่ประชุม กก.บห.มีมติมอบอำนาจให้ พล.อ.ประวิตรคัดเลือกบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างลง หรือปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค ซึ่งหาก พล.อ.ประวิตรเลือกหรือปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีคนใด ให้ถือเป็นเด็ดขาด และถือว่า กก.บห.เห็นชอบด้วย
ขณะที่ พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงเรื่องที่ประชุม กก.บห.มอบอำนาจให้ตัดสินใจเรื่องผู้จะมาเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนพรรคว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลย ส่วนจะเสนอชื่อให้นายกฯ เมื่อไหร่นั้น ต้องดูก่อน ซึ่งเงื่อนไขคนที่เป็น รมต.ก็ต้องน่าจะเป็น ส.ส. และไม่ใช่คนนอก เมื่อถามว่ามีแคนดิเดตผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็น รมต.ไปเข้าพบหลายคน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่มีเลย
มีรายงานว่า ในที่ประชุมพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ตำหนินายวิรัชที่ไปล่ารายชื่อ ส.ส. โดยแอบอ้างชื่อ พล.อ.ประวิตร โดย นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรค ได้โทรศัพท์สอบถามข้อเท็จจริงกับ พล.อ.ประวิตร แล้ว และได้รับคำตอบว่าไม่ได้สั่ง? ทำให้นายวิรัชชี้แจงในที่ประชุมว่าไม่มีการอ้างชื่อ และเป็นเรื่องที่ตนเองทำขึ้นมา ทำให้ พล.อ.ประวิตรต้องตัดบทสนทนาระหว่างนายสุริยะและนายวิรัชว่า “พอๆ เจ๊าๆ กันไป”
ขณะที่ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. และกรรมการบริหารพรรค กล่าวเห็นด้วยที่ให้สิทธิ์ขาด พล.อ.ประวิตรในการเสนอชื่อปรับ ครม. พร้อมเสนอให้ใช้โควตาภาคในการเลือกบุคคลเป็นรัฐมนตรีด้วย แต่ พล.อ.ประวิตรไม่ได้รับลูกอะไร ก่อนตัดบทว่า “ขอให้เชื่อผมเถอะ ทุกคนไม่ต้องห่วง ผมมีความยุติธรรม และจะดูความเหมาะสม ให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว” นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรยังได้กล่าวกับที่ประชุมว่า จะเสนอรายชื่อไปให้นายกฯ สุดแล้วแต่นายกฯ จะเลือกคนไหนก็ได้ และเป็นเรื่องที่ตนจะพูดคุยกับนายกฯ เพียง 2 คน พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตรได้พูดดักคอกรรมการบริหารด้วยว่า “ห้ามไปวิ่งกับนายกฯ เพราะไปวิ่งแล้ว เขาก็โยนกลับมาหาผมอยู่ดี”
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในช่วงเย็นวันที่ 3 มี.ค. แกนนำพรรคจะเดินทางเข้าพบ พล.อ.ประวิตร เพื่อสรุปรายชื่อก่อนที่จะเสนอชื่อให้นายกฯ ต่อไป
นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท แถลงข่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่าพรรคเล็กรวมตัวยื่นข้อเสนอขอตำแหน่ง รมว. 1 ตำแหน่ง และ รมช. 1 ตำแหน่ง ว่าเห็นข่าวแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ยืนยันไม่เคยพูด ไม่เคยพบใคร และไม่เคยไปชวนใคร นี่คือเรื่องจริง จะมีก็เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ก่อนที่ลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรี พูดคุยกันว่ารัฐมนตรีแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง ชี้แจงชัดเจนหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีเจตนาไปล้มล้างใคร หรือไปเอาตำแหน่ง เพราะการใช้วิธีการบีบมันไม่ถูกต้อง ไม่ทำ
“ถ้าผู้ใหญ่มองว่าเรามีความสามารถที่ทำงานได้ เราก็ต้องรับ เราเล่นการเมืองก็ต้องมีตำแหน่งบ้าง ถ้าเราไม่มีตำแหน่งสิ่งที่เราพูดไปก็ทำไม่ได้ แต่ครั้งนี้เรามี ส.ส.แค่ 5 คน ไม่มีโอกาสที่จะเข้าไปทำได้ ถ้าเราไปทำเองก็จะดี” นายชัชวาลล์กล่าวตอบหากผู้ใหญ่ในรัฐบาลเห็นสมควรให้เป็นรัฐมนตรีพรรคยินดีจะรับหรือไม่
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาพรรคเงียบมาตลอด ครั้งนี้ถ้าไม่ได้ตำแหน่งจะรู้สึกน้อยใจหรือไม่ นายชัชวาลล์กล่าวว่า รู้สึกเฉยๆ เพราะเหลือเวลาของรัฐบาลแค่ปีครึ่ง แต่ถ้าพรรคได้ ส.ส.เยอะๆ แล้วเราไม่ได้ตำแหน่งก็จะน้อยใจ แต่ยืนยันว่าไม่ได้บีบคั้นใคร หรือรวบรวมกลุ่มเพื่อเอาตำแหน่ง ทั้งชีวิตไม่เคยทำ เป็นมนุษย์ที่ไม่เคยใช้วิธีการสกปรกกับใคร
ขณะเดียวกัน ยังคงมีความต่อเนื่องจากกรณี 7 ส.ส.พปชร.โหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยที่ประชุม กก.บห.พรรคจะพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยก่อนประชุม กก.บห. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ได้เรียก 7 ส.ส.เข้าชี้แจงทีละคน โดยใช้เวลากว่า 2 ชม. ซึ่งคณะกรรมการฯ จะประชุมเพื่อสรุปผลตรวจสอบภายในวันที่ 9 มี.ค. ก่อนส่งให้ กก.บห.พปชร.พิจารณาต่อไป
น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.และโฆษก พปชร. ระบุว่า ส.ส.ทั้ง 7 คน ได้มาให้ข้อเท็จจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยคณะกรรมการฯ จะประชุมอีกครั้งเพื่อสรุปผลตรวจสอบ ซึ่งต้องแล้วเสร็จภายสัปดาห์หน้าตามกรอบ 15 วัน
ส่วนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่เอกสารชี้แจงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ยื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อขอให้พิจารณาสมาชิกภาพของ ส.ส.สิ้นสุดลงจำนวน 5 ราย และความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง 3 ราย และหนังสือของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พปชร. ขอให้ กกต.พิจารณาสมาชิกภาพของ ส.ส. ไม่มีเหตุสิ้นสุดลงจำนวน 1 ราย โดย กกต.ได้พิจารณาตามหน้าที่และอำนาจของ กกต. ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดว่าในกรณีที่ กกต.เห็นว่าสมาชิกภาพของ ส.ส.สิ้นสุดลงหรือความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย ซึ่ง กกต.ได้ส่งเรื่องการสิ้นสมาชิกภาพของ ส.ส. 5 ราย และความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง 3 รายให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยแล้ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |