2 มี.ค.64 - รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​ (ครม.)​ แจ้งว่า​เลขาธิการครม.ได้รายงานถึงเรื่อง การรักษาราชการแทนรัฐมนตรีตำแหน่งที่ว่างลง ได้แก่ รมว.ศึกษาธิการ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรมช.คมนาคม เนื่องจากจะต้องขอมติที่ประชุม​ ครม. โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เสนอข้อคิดเห็นว่า รัฐมนตรีรักษาการควรเป็นไปตามมติ​ ครม.เดิม เพื่อให้สานงานต่อนโยบายเดิมของรัฐมนตรีคนเก่าได้และไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมาก เพื่อความสะดวกแก่รัฐมนตรีที่จะมารับหน้าที่ต่อจากนั้น​ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กล่าวขึ้นว่า "ผมจะทำอย่างเร็วที่สุด ประมาณสิ้นมีนาคมถึงต้นเมษายน ดังนั้นขอให้รักษาสภาพตอนนี้กันไปให้ได้ก่อน​

พล.อ.ประยุทธ์​ ยังกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่ม​ REDEM​ ว่า​ ​"ผมก็ทำเต็มที่แล้วที่จะไม่ใช้ความรุนแรง ตำรวจก็ทำเต็มที่ ไม่ต้องการปะทะ แต่พอผู้ชุมนุมเขาใช้ความรุนแรงก่อน ก็มีกฎหมายที่กำหนดอยู่แล้วว่าต้องใช้มาตรการอย่างไร พอมีคนเริ่มยุแยงให้เกิดความรุนแรงได้ พอรุนแรงขึ้นแกนนำก็หนีไปไหนไม่รู้ เรื่องก็เลยบานปลาย ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย"

ส่วนเรื่องวัคซีนโควิด-19​ พล.อ.ประยุทธ์ได้ขอบคุณนายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรี​ และรมว.สาธารณสุข​ และรัฐมนตรีที่ได้ฉีดวัคซีนว่า​ ขอบคุณรองฯอนุทินและรัฐมนตรีทุกคน ที่ช่วยฉีดวัคซีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน หากรัฐมนตรีคนใดต้องการฉีดวัคซีนให้ติดต่อไปที่กระทรวงสาธารณะสุขได้

ขณะที่ประเด็นเรื่องน้ำแร่​ ห้วยกระเจา​ จ.กาญจนบุรี นายกฯ​ ระบุกับครม.ว่า​ ตนดื่มแล้วเป็นคนแรกของครม. ถ้าใครยังไม่ลองดื่มขอให้ไปลอง เพราะดูจากข้างขวดแล้วมีเกลือแร่เยอะมาก แต่ห้ามจำหน่าย ให้ไปพัฒนาคุณภาพให้ดีขึ้นเรื่อยเรื่อยให้เหมือนผลิตภัณฑ์ของต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม​ ในช่วงท้ายนายกฯขอให้ทุกกระทรวง ไปเผยแพร่ผลงานการทำงาน โดยต้องทำงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีธรรมาภิบาล ให้เป็น Good governance และขอให้ ข้าราชการทุกกระทรวง คิดและมีความรับผิดชอบ มีวิสัยทัศน์ ทำงานเชิงรุกไม่ใช่ทำงานแบบตั้งรับเพียงอย่างเดียว ส่วนเรื่องการเมืองก็ว่ากันไป​ สำหรับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเอ็นจีโอ ขอให้เร่งรัดดำเนินการโดยเร็ว เพราะตนมองว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน พร้อมกล่าวปิดท้ายก่อนการประชุมด้วยว่า ครม. สร้างชาติ มั่นคง เข้มแข็ง ยกระดับประเทศ

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล​ เปิดเผยว่า สำหรับในช่วงพักเวลาการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ​ รองนายกฯ​ และพล.อ.อนุพงษ์ ได้ปิดห้องหารือร่วมกัน ที่ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ขณะเดียวกัน​ อีกด้านหนึ่งของห้องประชุมได้มีรัฐมนตรีกลุ่ม​ 3​ ช. จับกลุ่มพูดคุยหารือด้วยเช่นกัน ได้แก่ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน

และเป็นที่น่าสังเกตว่าวันนี้มี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เข้าร่วมจับกลุ่มพูดคุยด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติ เนื่องจากก่อนหน้านี้นายอธิรัฐ มักจะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่ในวันเดียวกันนี้กลับไปรวมกลุ่ม กับ 3ช. ทุกจังหวะที่มีโอกาส เช่น รับ-ส่ง พล.อ. ประวิตร ขึ้นลงรถ ช่วงพักเบรกการประชุมครม.  ซึ่งถือเป็นปฏิกิริยาที่สอดคล้องกับกระแสข่าวที่มีออกมาว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ​ ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ พรรคพลังประชารัฐ​ ​และประธานวิปรัฐบาล บิดาของนายอธิรัฐ หันมาจับมือกับร.อ.ธรรมนัสแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวขัดแย้งกัน.