"ชวน" ระบุเปิดสภาวิสามัญหลัง 12 มีนาไม่จำเป็นต้องรอการวินิจฉัยศาล รธน. งานเสวนาหยุดกระบวนการล้มรัฐธรรมนูญ "หน่อย" โวยรัฐบาลเล่นสองหน้า หลอกให้คนมีความหวังได้ รธน.ใหม่ ฟันธง ประชาชนไม่ได้ร่วมแก้-ส.ส.ร.ไม่เกิด วอนศาล รธน.หาทางออก "พงศ์เทพ" อ้าง รธน.60 ไม่มีมาตราไหนบัญญัติไม่สามารถยกร่างฉบับใหม่ "ยิ่งชีพ" ประหลาดใจใช้เขตเลือกตั้ง 200 เขตเลือก ส.ส.ร. เชื่อมีปัญหาตามมา
เมื่อวันจันทร์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดสมัยประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ว่า ยังไม่ได้กำหนดเนื่องจากเว้นระยะ 15 วันจากวาระ 2 จะครบกำหนดในวันที่ 12 มีนาคม ดังนั้นหลังวันที่ 12 มีนาคมไปแล้วจะสามารถเปิดประชุมสมัยวิสามัญช่วงไหนก็ได้ ความจริงสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งมาตั้งแต่ก่อนรัฐธรรมนูญจะถูกพิจารณา แต่เราไม่แน่ใจว่าจะเสร็จวันไหนจึงไม่ได้ตอบไป แต่เมื่อการพิจารณาวาระ 2 เสร็จแล้ว เลขาธิการก็จะประสานกับสำนักนายกฯ ต่อไปว่า หลังจากเกิน 15 วันไปแล้วรัฐบาลพร้อมเมื่อไหร่ เพื่อจะได้เปิดประชุมสมัยวิสามัญพิจารณาในวาระ 3 ต่อไป ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องรอการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะกระบวนการที่สภาทำทั้งหมดไม่เกี่ยวกับกระบวนการภายนอก
ที่เบนซ์ ทองหล่อคลับ ย่านสุขุมวิท สถาบันสร้างอนาคตไทยจัดเสวนา "ฝ่าด่านอรหันต์ หยุดกระบวนการล้มรัฐธรรมนูญประชาชน" มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกลุ่มสร้างไทย นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2540 นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ตัวแทนจากโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ร่วมเสวนา
โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวตอนหนึ่งว่า เหตุใดการรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญจึงทำได้ง่ายและไม่เคยมีความผิด แต่เมื่อประชาชนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญของของตนเองกลับยากเย็น สังคมอยู่ในช่วงเวลาที่ถูกหลอกให้มีความหวัง เช่นเดียวกับตอนร่างรัฐธรรมนูญปี 2560 ฝ่ายผู้มีอำนาจบอกให้ลงประชามติไปก่อนเพื่อจะได้มีการเลือกตั้ง รัฐบาลกำลังเล่นสองหน้า สร้างความหวังอีกครั้งว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ท้ายที่สุดประชาชนจะไม่ได้เป็นผู้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ส.ส.ร.จะไม่เกิด แต่กลุ่มเผด็จการและ ส.ว.ที่มาจากเผด็จการจะเป็นผู้ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อความได้เปรียบและเสริมความแข็งแกร่งของตนเองให้มากขึ้น สำหรับ ส.ส.บางคนที่โยนอำนาจของตนเองให้ผู้อื่นวินิจฉัยเป็นสิ่งที่น่าอับอายมาก นับแต่ทำงานการเมืองมา 29 ปี ไม่เคยเห็นว่ามีสมาชิกรัฐสภายุคไหนจะมีพฤติกรรมที่น่าอับอายเช่นนี้ จึงไม่แปลกที่หลายส่วนในสังคมจึงตั้งคำถามว่า ส.ว.มีไว้ทำไม
"ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่าย โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญได้ร่วมกันหาทางออกให้ประเทศ อย่าทำให้ประเทศถึงทางตัน เพราะประชาชนคนตัวเล็กๆ กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส เกมที่ผู้มีอำนาจกำลังทำจะทำให้ไม่มีใครชนะ ประเทศแพ้ ประชาชนแพ้ จึงขอเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยผลประโยชน์ประชาชน และควรมีคำวินิจฉัยออกมาก่อนการลงมติในวาระ 3" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
นายพงศ์เทพกล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ไม่มีมาตราใดบัญญัติว่าไม่สามารถยกร่างฉบับใหม่ได้ ระบุเพียงแค่ห้ามเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐและระบอบการปกครองเท่านั้น จึงต้องตั้งคำถามว่า หากห้ามมิให้ยกร่างใหม่ทั้งฉบับเหตุใดไม่ระบุไว้ หรือหากมีการแก้ไขทุกมาตรายกเว้นเฉพาะเรื่องของรูปแบบของรัฐ รวมไปถึงรูปแบบการปกครอง มีความต่างกับการยกร่างใหม่ทั้งฉบับอย่างไร ส่วนศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไรนั้น ศาลรัฐธรรมนูญ เข้าใจดีว่ารัฐสภาจะลงมติในวาระ 3 เมื่อใด และมีเวลาพอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้แล้วเสร็จก่อนที่รัฐสภาจะลงมติในวาระ 3 เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเข้าใจถึงความจำเป็น ไม่เช่นนั้นก็เป็นเรื่องที่น่ากังวล ทั้งนี้ไม่ว่าระบบการเลือกตั้ง ส.ส.ร.จะเป็นอย่างไร แต่ ส.ส.ร.ที่ได้จะน่าเชื่อถือ และสามารถยกร่างได้ดีกว่าที่ผ่านมา และสุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน เพราะหาก ส.ส.ร.ยกร่างไม่ดีพอ ประชาชนก็จะลงมติไม่เห็นชอบ
นายโภคินกล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังแก้ไขจะไม่ผ่านวาระ 3 ที่ผ่านมาตนเองได้ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญมายาวนาน ตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2540 ที่มีที่มาจากประชาชน ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดฉบับหนึ่งของประเทศ อย่างไรก็ตามจากวิกฤติทางการเมืองที่ต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 ปี จึงจำเป็นที่ต้องขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าได้ตามกระบวนการ นำพาประเทศเดินออกจากทางตัน ผลักดันให้เกิดร่างรัฐธรรมนูญโดยประชาชน และผ่านความเห็นชอบโดยประชาชน กรณีที่มี ส.ว.และ ส.ส.ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คงต้องรอศาลรัฐธรรมนูญว่าจะวินิจฉัยออกมาเมื่อใด ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยหลังผ่านวาระ 3 ว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทำไม่ได้ ผลที่ตามมาจะทำให้ฝ่ายรัฐบาลร่วมกับ ส.ว.จะแก้ไขประเด็นใดก็ได้ และจะแก้ไขประเด็นที่เป็นประโยชน์กับฝ่ายรัฐบาล เพราะฝ่ายค้านไม่มีอำนาจคานกับฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว.ได้อีกต่อไป
นายโภคินตั้งข้อสังเกตว่า นับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง สถาปนารัฐธรรมนูญฉบับแรก ทุกฉบับจะมีหมวดที่ว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจตรงกันว่าสามารถแก้ไขรายมาตราหรือจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ สำหรับร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านวาระ 1 และ 2 ของรัฐสภาขณะนี้ไม่ได้ไปแตะต้องหมวด 1 และ 2 ซึ่งในอดีตก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว หากไม่สามารถยกร่างใหม่ได้เท่ากับเป็นการปกป้องอำนาจของเผด็จการ
ส่วนนายยิ่งชีพกล่าวว่า เห็นด้วยกับการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ทั้งหมด 200 คน ส่วนกรณีใช้เขตเลือกตั้งแบบ 1 เขต 1 คน รวม 200 เขต 200 คนนั้น ถือเป็นเรื่องน่าประหลาด เชื่อว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นอีกมาก แต่เพื่อเป็นทางออกของปัญหา ศาลรัฐธรรมนูญควรมีคำวินิจฉัยออกมาก่อนที่รัฐสภาจะลงมติวาระ 3 กรณีที่ ส.ว.ยื่นคำร้องถึงศาลรัฐธรรมนูญ ไม่แน่ใจว่า ส.ว.มีความกังวลในประเด็นใด หรืออาจกังวลว่าหากมีร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตนเองจะหมดอำนาจ อย่างไรก็ตามหาก ส.ส.หรือ ส.ว.บางคนเห็นว่าไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ได้ ก็ให้ลงมติไม่ผ่านในวาระ 3 แล้วชี้แจงกับสังคมให้ได้ว่าเพราะเหตุใด ขออย่าใช้วิธียืมมือศาลรัฐธรรมนูญเข้ามาช่วยเหลือ
ด้านนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า ถึงเวลานี้แม้การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะยังไม่ออกมา นักการเมืองต้องคิดเสมอว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องแก้ไขได้ และที่สำคัญคือพี่น้องประชาชนอยากให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเชื่อมั่นว่าหากแก้ไขหรือมีรัฐธรรมนูญใหม่ คุณภาพชีวิตของประชาชนจะดีขึ้น ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้พูดต่อหน้าประชาชนในหลายวาระว่ายินดีหากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตัวเองไม่มีปัญหา มาถึงเวลานี้คนเป็นนายกรัฐมนตรีจะตระบัดสัตย์ไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไม่ทำตัวเป็นโมฆบุรุษที่เชื่อถือไม่ได้ หากนักการเมืองทุกพรรคการเมืองจริงใจกับประชาชนตามที่ปากพูด การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เชื่อว่าไร้ปัญหาอย่างแน่นอน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |