ตำรวจบุกจับ "บังหมัด กงหรา" ชาวพัทลุงวัย 49 ปี คนร้ายข่มขืนและฆ่า "น้องนิหน่า" นักเรียนหญิง ม.3 วัย 15 ปี หลังแกะรอยจากกล้องวงจรปิดจนได้หลักฐานมัดตัว พบพฤติกรรมสุดเหี้ยมโหด ข่มขืนเสร็จใช้เหล็กตีซ้ำจนเสียชีวิต พร้อมอำพรางใช้รถ จยย.ทับร่างเป็นอุบัติเหตุ จำนนหลักฐาน สารภาพไปดื่มเหล้ากับเพื่อนเมาเกิดอารมณ์ ผงะ! ประวัติเคยต้องโทษพรากผู้เยาว์ปี 45 ศาลจำคุก 1 ปี โทษจำรอลงอาญา 2 ปี

    ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 วันที่ 1 มี.ค. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผู้บังคับการสืบสวน บช.ภ.9 และ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ร่วมกันแถลงข่าวติดตามจับกุมตัวนายประถม เอียดขาว อายุ 49 ปี  หรือ "บังหมัด กงหรา” อยู่บ้านเลขที่ 200 ม.6 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง ตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ที่ จ.68/2564 ลงวันที่ 28 ก.พ.64
    พล.ต.ท.รณศิลป์กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 27 ก.พ.64 เวลาประมาณ 06.45 น. สภ.บางกล่ำได้รับแจ้งเหตุพบรถจักรยานยนต์ล้ม และมีหญิงสาวนอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณร่องคูน้ำ กลางถนนสายเอเชีย ม.5 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ทราบชื่อคือ น.ส.อริสรา จันตุลา หรือนิหน่า อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อยู่บ้านเลขที่ 45/4 ม.9 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ในที่เกิดเหตุพบรองเท้าแตะสีชมพูแบบผู้หญิง และรองเท้าแตะแบบผู้ชายสีน้ำเงินตกอยู่ใกล้ศพผู้เสียชีวิต
    จากนั้น พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9 พร้อม พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา ร่วมกับตำรวจฝ่ายสืบสวน ภ.9 และ สภ.บางกล่ำ เร่งแกะรอยติดตามคดี โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้เสียชีวิตเดินทางมาจนถึงที่เกิดเหตุ พบรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรลล่า สีเทา ทะเบียน กง 856 ประจวบคีรีขันธ์ ทราบชื่อผู้ครอบครองคือ นายประถม เอียดขาว อายุ 49 ปี เมื่อเปรียบเทียบภาพชายที่ขับรถยนต์คันดังกล่าวจากภาพในกล้องวงจรปิดกับภาพบัตรประชาชนของนายประถม พบมีลักษณะตำหนิ รูปพรรณ หน้าตาเหมือนกับนายประถมทุกประการ จึงเชื่อว่านายประถมเป็นคนร้ายในคดีนี้
    พ.ต.อ.ศักดาจึงนำกำลังไปติดตามตัวนายประถมที่บ้านพัก อ.กงหรา จ.พัทลุง และติดตามวัตถุพยานที่ใช้ในการกระทำผิด รวมถึงทรัพย์สินของผู้ตายตามสถานที่ต่างๆ จำนวนหลายแห่ง จากนั้นนำตัวมาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคดีนี้ ต่อมา พงส.สภ.บางกล่ำได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติจับกุมนายประถม ซึ่งศาลจังหวัดสงขลาได้อนุมัติหมายจับกุมนายประถม ข้อกล่าวหา 1.ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายและเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร และ 3.ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับแจ้ง 3 ข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยนายประถมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
    ผบช.ภ.9 กล่าวว่า ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าผู้ตายในคดีนี้ โดยการขับรถเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตจนตกคูน้ำกลางถนน แล้วทำร้ายโดยการชกท้องจำนวน 3 ครั้ง จากนั้นข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง แล้วชิงเอากระเป๋าสะพายได้เงินสดจำนวน 1,300 บาท ก่อนหลบหนียังได้ใช้เหล็กสำหรับเปลี่ยนล้อรถที่เตรียมมาตีที่ใบหน้าประมาณ 2-3 ครั้งจนเสียชีวิต แล้วได้นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายมาทับศพบริเวณใบหน้าและลำตัวท่อนบน เพื่อทำให้ดูว่าเป็นการเกิดอุบัติเหตุรถตกคูเสียชีวิต หลังเกิดเหตุได้ถอดเสื้อแจ็กเกตสีแดงของผู้ตายที่สวมใส่อยู่เพื่อเช็ดน้ำอสุจิของตน แล้วนำไปทิ้งในเขต ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
    "ตำรวจได้นำตรวจยึดไว้แล้วพร้อมเงินสดของผู้ตายจำนวน 1,300 บาท และเหล็กที่ใช้ตีผู้ตายที่ล้างคราบเลือดแล้วเก็บไว้ในช่องเก็บของหลังเบาะนั่งข้างคนขับ และยึดรถยนต์ที่ใช้ขับเฉี่ยวชน พร้อมกางเกงที่สวมใส่ขณะก่อเหตุไว้เป็นของกลางประกอบคดี" ผบช.ภ.9 กล่าว
    พล.ต.ต.ทิวธวัชกล่าวเพิ่มเติมว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่แกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้ทราบเบาะแสของรถต้องสงสัยและคนร้าย เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งริมถนนสายเอเชีย พื้นที่ ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ ซึ่งอยู่ก่อนถึงจุดเกิดเหตุราว 3 กิโลเมตร รถเก๋งคนร้ายขับเข้ามาจอดเติมน้ำมันที่ปั๊ม ในเวลา 00.22 น. คืนวันที่ 27 ก.พ. และน้องนิหน่าก็แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มนี้เช่นกัน ซึ่งตอนนั้นยังสวมใส่เสื้อฮูดและล้วงเงินในกระเป๋ามาจ่ายค่าน้ำมัน โดยรถเก๋งคันนี้ขับออกไปก่อนเล็กน้อยและน่าจะไปดักรอ รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดที่เลยจุดเกิดเหตุมาเล็กน้อย พบว่ามีเพียงรถเก๋งคันนี้ขับมาคันเดียวโดยไม่มีรถ จักรยานยนต์ของน้องนิหน่าขี่ตามมาแต่อย่างใด หากเทียบเวลารถเก๋งคันนี้ก็ขับช้าผิดปกติมาก เพราะจากปั๊มน้ำมันมาถึงจุดที่มีกล้องวงจรปิดเลยมาอีกตัวใช้เวลาแค่ประมาณ 2 นาที แต่รถเก๋งคันนี้ใช้เวลาถึง 20 นาที จึงเป็นที่มาของการขยายผลติดตามจับกุม
    "สอบสวนแรงจูงใจการก่อเหตุนายประถมบอกว่า ตอนเกิดเหตุได้ไปดื่มเหล้ากับเพื่อนที่ อ.หาดใหญ่ ขากลับแวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม และเห็นหญิงสาวคนนี้ขี่รถเข้ามาเติมน้ำมัน ทำให้มีอารมณ์จึงจนก่อเหตุขึ้น" ผบก.สส.ภ.9 ระบุ
    ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของนายประถม หรือ "บังหมัด กงหรา” เคยต้องโทษคดีพรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี เพื่อการอนาจารฯ เมื่อปี 2545 ในพื้นที่ สภ.บางกล่ำ จ.สงขลา ศาลตัดสินจำคุก 1 ปี โทษให้รองลงอาญา 2 ปี ปรับเงิน 5,000 บาท
    ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายประถมไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ เริ่มจากนายประถมขับรถเบียดรถจักรยานยนต์ของน้องนิหน่า และชนจนตกร่องน้ำกลางถนน จากนั้นได้ลงไปชกหน้าท้อง ลงมือข่มขืนและใช้เหล็กตี แล้วเอารถจักรยานยนต์ทับร่างอำพรางว่าเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งช่วงการทำแผนผ่านไปด้วยดี ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
    อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทำแผนเสร็จและจะนำตัวไปขึ้นรถตู้ ปรากฏว่าญาติพี่น้องและชาวบ้านพยายามแหกวงล้อมของตำรวจเข้ามาทำร้ายนายประถมด้วยความโกรธแค้น พร้อมกับสาปแช่ง ด่าทอด้วยความโกรธ แต่สุดท้ายตำรวจก็นำตัวนายประถมขึ้นรถได้อย่างปลอดภัย  
    นายอนันต์ จันตุลา พ่อของน้องนิหน่า ซึ่งมาดูการทำแผนด้วย บอกว่า ต้องการให้ประหารชีวิตคนร้ายหรือจำคุกตลอดชีวิต เพราะเคยก่อเหตุแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่สำนึกผิด ยังมาก่อเหตุซ้ำสอง ซึ่งจิตใจโหดร้ายมาก.