ผบ.ตร. ยันไม่ได้สลายชุมนุมม็อบ แต่ต้องจับตัวคนก่อเหตุรุนแรง-ทำผิดซึ่งหน้า จนท.เจ็บอื้อ


เพิ่มเพื่อน    

1 มี.ค.64 - ที่โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เดินทางเข้าเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบการชุมนุมม็อบเยาวชนปลดแอก ที่หน้ากรมทหาราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ช่วงเย็นวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บกว่า 90 ราย

ภายหลัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร.เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีกำลังที่ดี ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ จำนวน 25 คน ออกจาก รพ.ไปแล้ว 2 และเสียชีวิตอีก 1 คน รวมทั้งสิ้น 28 ราย เรื่องการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมยังยืนยันหลักการเดิมอยู่ที่กฎหมายและสถานการณ์ในแต่ละห้วงเวลาไม่เหมือนกัน เราพยายามหาความสมดุลระหว่างการบังคับใช้กฎหมายกับเรื่องของการที่เกิดความรุนแรง จริงๆแล้วไม่มีใครต้องการให้เกิดความรุนแรง ตำรวจก็ไม่เคยสนับสนุนให้เกิดความรุนแรง เมื่อจำเป็นก็ต้องบังคับใช้ ส่วนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บก็เป็นการเรียนรู้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง อย่างครั้งนี้จะเห็นว่าการชุมนุมมีการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยมีแกนนำมีรถเครื่องเสียงมีการควบคุมมวลชนอันนี้หายไป อย่างเช่นมีมวลชนกลุ่มหนึ่งเริ่มใช้กำลังกับเจ้าหน้าที่เลย ส่วนจะมีเจตนาหรือไม่ยังไม่พูด เพียงแต่ข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างนั้น คนกลุ่มหนึ่งตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น

"ความรุนแรงได้มีการพูดคุยกันหลายรอบแล้ว เราจะบังคับใช้กฎหมายเท่าที่จำเป็นถ้าไม่มีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ทำลายเครื่องกีดขวางหรืออะไรที่เราได้แจ้งให้ทราบคงไม่มีเรื่องแบบนี้ พอมีแล้วควบคุมยากแม้แต่ม็อบเองก็คุมกันไม่ได้ เมื่อเกิดความสูญเสียขึ้นมาทุกคนเสียใจไม่ได้ประโยชน์อะไร"

เมื่อถามถึงการใช้อาวุธเข้าควบคุมฝูงชนขั้นสูงสุดคืออะไร ผบ.ตร.ตอบว่า อาวุธไม่มีสูงมีต่ำ มันอยู่ที่คุณสมบัติว่าของนั้นๆจะใช้กับสถานการณ์อย่างไร ถามว่าระหว่างกระบองกับกระสุนยางอันไหนรุนแรงกว่ากันมันตอบไม่ได้ ถ้าใช้กระบองตีเข้าที่ไม่ควรตี มันก็รุนแรง ในขณะเดียวกันถ้าใช้กระสุนยางยิงในส่วนที่สมควรยิงมันก็ไม่รุนแรง เพราะกระสุนยางใช้กับเป้าหมายที่มีระยะ ถ้าระยะประชิดก็ต้องใช้กระบอง เพราะฉะนั้นของมันมีคุณสมบัติของมัน ไม่ใช่ว่าจะต้องเอามาเรียงว่าอันไหนก่อนอันไหนหลัง ไม่ใช่แบบนั้น มันจำเป็นที่ว่าต้องใช้อะไรในตอนนั้น มาเรียงไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตอนนั้นต้องใช้อะไร การเรียงลำดับคือการแจ้งเตือนให้เขารู้ว่าทำอะไรผิด และแสดงกำลังให้เขาเห็นว่า อย่าทำเราพร้อมที่จะปฏิบัติมันต้องอย่างนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นต้องเลือกใช้ตามคุณลักษณะของอุปกรณ์กับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า คนอยู่ตรงโน้นเอาหนังสติ๊กยิงด้วยน็อต ยิงด้วยหิน ขว้างใส่ตำรวจจะให้เอากระบองไปตีแล้วมันจะตีได้ไหม มันไม่ถึงก็ต้องใช้อาวุธที่มีระยะ ของที่เราใช้ทุกอย่างเป็นมาตรฐานสากลใช้กับการควบคุมฝูงชน

ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ครั้งนี้เราไม่ได้ไปสลายการชุมนุมแต่เราจับคนที่กำลังใช้ความรุนแรงที่กระทำผิดซึ่งหน้า ส่วนการยิงกระสุนยางเราก็ยิงส่วนไหนว่าให้เขาหยุด และเราใช้เมื่อจำเป็นไม่ใช่ว่าอยู่จะไปยิงใครรู้ว่าสถานการณ์อย่างไรถึงจะต้องใช้ ส่วนปืนช๊อตไฟฟ้าไม่มีใครใช้ คนที่พกเขาก็ต้องเตรียมและเตรียมเฉพาะคนที่ผ่านการฝึกมาแล้วและใช้เฉพาะมาสถึงคราวจำเป็น ส่วนภาพที่ปรากฎความรุนแรงก็บอกแล้วว่า ความรุนแรงเมื่อเริ่มแล้วยากที่จะควบคุมเราไม่มีนโยบายสนับสนุนความรุนแรงใดๆทั้งสิ้นแต่ถ้าจะดูก็ต้องดูให้ครบบริบทว่าเหตุการพัฒนาจากอะไรมา ไม่ใช่อยู่ดีๆก็ไปใช้ความรุนแรงไม่ใช่อย่างนั้นมีขั้นมีตอน ต้องดูตั้งแต่ต้นว่าทำไมไปถึงจุดนั้น

"ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่มีการมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้กำลังจนไม่ได้มีการพักผ่อน การใช้กำลังก็ใช้เวลาตามห้วงปฏิบัติ งานตำรวจเยอะจะมาบอกว่าใช้โดยไม่ได้พักผ่อนคงเป็นการหาเรื่องกัน เขาเสียชีวิตเราก็ดูแลกำลังพลของเรา" พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"