ประธานปปช.เผย 'บิ๊กขรก.'เอี่ยวโกงเงินทอนวัด อาจโดนหลายกระทงรวมแล้วคุก200ปี!


เพิ่มเพื่อน    

18 พ.ค. 61 - พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีเงินทอนวัด ว่า ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนไปทั้งหมด 13 สำนวน จำนวน 13 วัด ซึ่งเป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐในการทุจริตเงินในวัดต่างๆ ตนเชื่อว่า ป.ป.ช.สามารถทำได้รวดเร็ว เพราะกระบวนการในเชิงบริหารจัดการนั้น ป.ป.ช.มีข้อมูลหมดแล้ว จะได้นำมาไต่สวนโดยใช้พยานหลักฐานร่วมกันได้ และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบสำนวนยืนยันแล้วว่าจะสามารถวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็ว เพื่อสรุปสำนวนเสนอให้กรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา ทั้งนี้ 13 ชุดดังกล่าวต่างกรรมต่างวาระกัน ต้องแล้วแต่การแยกสำนวนและบริหารจัดการคดี อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติแล้วว่า พยานหลักฐานใดที่ใช้ร่วมได้ให้นำมาใช้ได้ในสำนวนอื่นๆ เช่นกัน ดังนั้น จะทำให้สิ้นเปลืองระยะเวลาในการรวมรวมระยะเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานได้น้อยลง

เมื่อถามถึงกรณีเจ้าหน้าที่สามารถตรวจจับผู้ต้องสงสัยที่มียศร้อยโทได้เพิ่ม และขณะเดียวกันต้นสังกัดได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบข้อเท็จจริง ทาง ป.ป.ช.จะเอาเรื่องดังกล่าวมาร่วมพิจารณาได้หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า จากที่ปรากฏเป็นข่าวเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบต้องเข้าไปดูว่าเมื่อมีหน่วยงานดำเนินการตรวจสอบ ในแต่ละการตรวจสอบถ้าอยู่ในอำนาจกฎหมาย ป.ป.ช.ต้องให้หน่วยงานนั้นส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช.พิจารณาอยู่ดี ในเมื่อตอนนี้หน่วยงานเขาทำอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ของเราต้องไปติดตาม แต่เราจะไม่ลงไปแล้วทำให้เกิดความซ้ำซ้อน ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบชัดเจน ที่จะระบุว่าเมื่อถึงเวลาแล้วคดีจะมารวมที่ ป.ป.ช.อย่างไร

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ตนเห็นว่าในเมื่อทุกหน่วยงานช่วยกันสอดส่อง ช่วยกันตรวจสอบเป็นเรื่องที่ดี ตนมั่นใจว่าคดีเงินทอนวัดจะพิจารณาได้อย่างรวดเร็ว ไม่ล่าช้า เรื่องนี้จะเร็วมาก ถึงแม้ว่ากรรมการ ป.ป.ช.จะมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในบางสำนวน แต่จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว และเชื่อว่าภายในปีงบประมาณนี้ซึ่งเหลืออีกไม่กี่เดือน เรื่องนี้จะมีความชัดเจนขึ้น

“ใน 13 สำนวนดังกล่าว มีชื่อผู้ถูกกล่าวหาที่ซ้ำๆ กันอยู่บ้าง โดยเฉพาะในตำแหน่งข้าราชการระดับสูง เช่น อดีตผอ.พศ. และรอง ผอ.พศ. มีชื่อซ้ำกันบ้าง แต่ในการพิจารณาจะพิจารณาต่างกรรมต่างวาระไป แต่ละสำนวนไป ในขณะที่ศาลพิจารณาลงโทษจะพิจารณาเป็นรายกระทงไปเช่นกัน ซึ่งโทษสูงสุดคือ จำคุกไม่เกิน 50 ปี ในแต่ละคดี หากถูกนำแต่ละสำนวนมารวมกันโทษอาจจะสูงสุดถึง 200 ปีได้ ดังนั้น ถ้าบางคนถูกลงโทษแต่ละสำนวน จะถูกนำมารวมๆ กัน เหมือนในคดีอื่นๆ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีหลายคดีในการพิจารณาไปพร้อมกันเช่นนี้ แต่เมื่อพิจารณาคดีหลักได้ก่อนแล้ว คดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก็จะง่าย ระยะเวลาในการพิจารณาจะลดลง เพราะไม่เสียเวลาในการสอบพยาน หาข้อมูลหลักฐาน”พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว

ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม บางสำนวน ป.ป.ช.ยังสามารถพิจารณาในกรณีร่ำรวยผิดปกติได้อีกด้วย เพื่อพิจารณาว่าทำอย่างไรจะได้ทรัพย์สินของรัฐคืนเพื่อให้เขารู้ว่าโกงวัดไปไม่ได้เงิน และจะยึดทรัพย์ตามมูลค่า ถ้าโกงไป 10 ล้านบาท ในคำพิพากษาจะให้ติดตามทรัพย์สินอื่นในมูลค่าเดียวกันกลับมาชดใช้ต่อรัฐ แต่ถ้าผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีไปต่างประเทศ ตามกฎหมายใหม่ของ ป.ป.ช.เขาต้องหนีตลอดชีวิต อีกทั้งยังสามารถพิจารณาสอบพยานลับหลังได้อีกด้วย ดังนั้น ถ้าหนีต้องหนีตลอดชีวิต.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"