1 มี.ค. 64 - นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลมีนโยบายฉีควัคซีนป้องกันโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ควบคู่กับมาตรการอื่นในการป้องกันสร้างความมั่นใจให้สังคมว่า เดิมรัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มีแผนเห็นชอบกระจายวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด ให้แก่ 13 จังหวัดเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม คือ จ.สมุทรสาคร กรุงเทพฯฝั่งตะวันตก ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ ตาก นครปฐม สมุทรสงคราม ราชบุรี ชลบุรี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ 

ซึ่งต่อมาได้มีการเพิ่มพื้นที่ในจังหวัดโซนอันดามัน แต่ไม่มีจังหวัดพังงา ทั้งที่จังหวัดท่องเที่ยวโซนอันดามันที่ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศจะมาท่องเที่ยวกัน ตั้งแต่จังหวัดระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต ดังนั้น จึงได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข เพื่อขอความอนุเคราะห์ผลักดันเรื่องนี้โดยกระจายวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด19 ให้กับจังหวัดพังงา

นางกันตวรรณ กล่าวว่า จังหวัดพังงาเป็นจังหวัดพื้นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่สามารถทำรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับประเทศสูงเป็นอันดับ 8 คิดเป็นมูลค่า 3.5 พันล้านบาทต่อปี  ทั้งยังเป็นพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ซึ่งอยู่ในโซนอันดามันเดียวกัน ที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนราว 4,000 โดส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เพราะส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะวางแผนท่องเที่ยวต่อเนื่อง ทั้งภูเก็ต พังงา กระบี่ ดังนั้นหากรัฐบาลจัดสรรวัคซีนให้จังหวัดโซนอันดามันจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่น ให้กับนักท่องเที่ยวดังกล่าว ทั้งจะเป็นการฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจและสามารถนำเงินสร้างรายได้ให้กับประเทศตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย.