เดือด!เสียงปืน-แก๊สนํ้าตาว่อน


เพิ่มเพื่อน    


     "บิ๊กตู่" เมินกลุ่ม "REDEM" นัดบุกบ้านพักหลวง ร.1 รอ. “สุภรณ์" ขอให้ทบทวนก่อนเคลื่อนไหว เพราะผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อน ปชช. บช.น.เตือนผิด พ.ร.บ.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.ควบคุมโรค ตร. 14 กองร้อยรับมือ ขณะที่ม็อบ 3 นิ้วปั่นกระแสต่างชาติร่วมต่อสู้ กลุ่มการ์ดฝ่าแผงเหล็กกั้นตัดรั้วลวดหนามประชิดหน้า ร.1 รอ. สาดสี ขว้างปาสิ่งของ  แก๊สน้ำตาใส่ ตร. ปะทะกันบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย การจราจรถนนวิภาวดีฯ เป็นอัมพาต
     เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงกรณีที่กลุ่มเยาวชนปลดแอกและแนวร่วมในนาม  “REDEM” (Restart Democracy) นัดเดินเท้าจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยังบ้านพักที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ถนนวิภาวดีรังสิต โดยนายกฯ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว
     ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมคิดทบทวนให้ดีก่อนที่จะเคลื่อนไหว เพราะจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สัญจรไปมา อีกทั้งที่ผ่านมาก็ไม่เคยชุมนุมให้เป็นไปตามกฎหมาย ขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในช่วงเวลาของการแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์โควิด และกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดกลุ่มผู้ชุมนุมถึงอยากจะทำลายบรรยากาศที่ดีในขณะนี้ ทั้งนี้ ยังเป็นการรวมตัวของคนหมู่มาก ที่อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมมีสำนึกตรงนี้ด้วย
    "หลายจุดที่มีการไปชุมนุม มีการปาระเบิดปิงปอง มีการปาก้อนอิฐ หรือใช้ไม้ไล่ตีใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บมากมายหลายนาย แถมยังทำลายรถหรือทรัพย์สินของราชการได้รับความเสียหายอีกด้วย จึงตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้ชุมนุมอย่างสงบสันติ แต่กลับมีเจตนาสร้างความรุนแรงหรือยั่วยุเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา ตั้งใจทำผิดกฎหมาย จึงขอเตือนผู้ชุมนุมว่า บ้านเมืองต้องมีขื่อมีแป ไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนที่ไร้กฎหมาย คิดอยากจะทำผิดอย่างไรก็ได้ ตามอำเภอใจเช่นนั้นคงไม่ได้" นายสุภรณ์กล่าว
     พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) แถลงมาตรการดูแลความปลอดภัยที่ “REDEM”จะเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปที่ ร.1 รอ. ว่าการชุมนุมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรค เข้าข่ายความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค โดยตำรวจจะใช้กำลังหลักจากกองร้อยน้ำหวาน หรือชุดควบคุมฝูงชนหญิง 1 กองร้อย ควบคู่กับกำลังควบคุมฝูงชนจากตำรวจนครบาล 1 และ 2 รวม 4 กองร้อย หากสถานการณ์ย่ำแย่จะเพิ่มกำลังสำรองจาก บช.น.9 กองร้อย
     ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก “เยาวชนปลดแอก-Free YOUTH” โพสต์ข้อความระบุว่า “จากการชุมนุมของมวลชนกลุ่ม #REDEM ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ตั้งแต่เวลา 15.00-19.00 น. โดยเริ่มเดินขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเวลา 16.00 น. ไปยังบ้านพักหลวงของประยุทธ์ แต่วันนี้ไม่ได้มีแค่ไทย! ยังมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์อยู่ในหลายประเทศ โดยเฉพาะ MilkTeaAlliance ซึ่งได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวัน อินเดีย พม่า อินโดนีเซีย ที่จะออกมาร่วมต่อสู้เพื่อแสดงความสมานฉันท์ร่วมกันในวันนี้”
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เจ้าหน้าที่ได้นำตู้คอนเทนเนอร์เสริมด้วยลวดหนามหีบเพลงทั้งด้านบนตู้คอนเทนเนอร์และด่านล่างระหว่างแบริเออร์กั้นช่องทางจราจรกับตู้คอนเทนเนอร์ ปิดช่องทางคู่ขนานถนนวิภาวดีฯ ขาออก 2 ช่องทาง เป็นระยะทางกว่า 600 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใกล้รั้วกำแพง ร.1 รอ. ทำให้ป้ายรถเมล์หน้า ร.1 รอ. และป้ายรถเมล์หน้าปั๊ม ปตท. ต้องปิดรับผู้โดยสาร ส่วนสะพานคนข้ามจากหน้าโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี มายังหน้า ร.1 รอ. เจ้าหน้าที่ก็ได้นำลวดหนามหีบเพลงมากั้นไว้ไม่ให้คนข้ามเพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีจะเข้ามาก่อความวุ่นวาย 
     ต่อมา เวลา 15.00 น. ที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มวลชนได้เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก โดยแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ขณะเดียวกันมีการเล่นดนตรีเสียดสีการบริหารงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว ทั้งด้านเศรษฐกิจ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท มารักษาความปลอดภัย ต่อมาเวลา 15.15 น. พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท ได้อ่านประกาศห้ามมีการรวมตัวที่ผิดประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค สร้างความไม่พอใจให้กับมวลชนต่างกรูเข้าหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ 
     เวลา 16.10 น. กลุ่มมวลชนได้ทำการปิดถนนบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อตั้งขบวนมุ่งหน้าไปยัง ร.1 รอ. ทำให้การจราจรเป็นอัมพาตทันที โดยแกนนำอ้างว่าที่การจราจรติดขัดไม่ใช่เพราะมวลชน แต่เป็นเพราะนายกฯ ประยุทธ์ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายรถที่จะมุ่งหน้าไปยังพญาไทให้เลี้ยวซ้ายวิ่งไปยังสามแยกดินแดง-ถ.ราชปรารภแทน จากนั้นเมื่อมวลชนเดินผ่านบริเวณพหลโยธินซอย 2 ซึ่งเป็นทางเชื่อมต่อระหว่าง ถ.วิภาวดีรังสิตและ ถ.พหลโยธิน ข้างโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ได้มีตำรวจควบคุมฝูงชน 4 กองร้อยตรึงกำลังอยู่พร้อมแผงเหล็กกั้นและรถฉีดน้ำแรงดันสูง 1 คัน มวลชนที่เดินผ่านได้กรูเข้าแสดงความไม่พอใจตะโกนด่าขี้เผด็จการ
     กระทั่งเวลา 17.45 น. หัวขบวนของกลุ่มมวลชนมาถึงบริเวณ ร.1 รอ. ทำให้การจราจรด้านล่างเป็นอัมพาตทันที เหลือเพียงช่องขึ้นทางด่วนโทลล์เวย์ เมื่อเคลื่อนขบวนถึงหน้าปั๊ม ปตท. กลุ่มการ์ดได้ตัดรั้วลวดหนามรื้อแผงรั้วที่กั้นตู้คอนเทนเนอร์ออก และมีการนำสีราดใส่ตำรวจที่ตั้งแนวป้องกันหลังตู้คอนเทนเนอร์ แจกถุงมือสำหรับรื้อรั้วลวดหนามและประกาศว่ามีตำรวจหลายกองร้อยกำลังมุ่งหน้ามายังจุดชุมนุม ผู้ชุมนุมจึงวิ่งไปยังจุดที่ตำรวจเคลื่อนเข้ามา และมีการขว้างปาสิ่งของใส่กันก่อนที่ตำรวจจะวิ่งเข้ามา ทำให้ผู้ชุมนุมกระเจิงกลับมายังหน้าปั๊ม ปตท. 
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าตลอดการเคลื่อนขบวน รถปราศรัยได้ประกาศตลอดเวลาว่าวันนี้ไม่มีแกนนำ 
     ต่อมาเวลา 18.15 น. เกิดความตึงเครียดเมื่อเจ้าหน้าที่กองกำลังควบคุมฝูงชนพร้อมรถฉีดน้ำแรงดันสูงได้เตรียมกำลังที่คาดว่าจะเข้ากระชับพื้นที่เพื่อสลายการชุมนุมบริเวณหน้าปั๊ม ปตท. ทำให้กลุ่มมวลชนไม่พอใจ ต่างกรูเข้าไปหาตำรวจ ยิ่งเมื่อมีกระแสว่ากลุ่มผู้ชุมนุมถูกตำรวจจับกุมยิ่งทำให้มวลชนไม่พอใจพยายามที่จะควานหาตัวของมวลชนที่ถูกจับกุม ขณะที่ทางตำรวจได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมปาสิ่งของ และให้ใจเย็นๆ ทุกอย่างจบด้วยการเจรจา โดยมี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. บัญชาการเหตุการณ์ ส่วนการ์ดมีนายปิยรัฐ จงเทพ หัวหน้ากาดวีโว่ เป็นผู้บัญชาการการ์ดทั้งหมด
ช่วงค่ำ ตำรวจควบคุมฝูงชนตั้งแนวสกัดได้พยายามกระชับพื้นที่จาก ถ.วิภาวดีฯ เข้ามา ทำให้เกิดการปะทะกับการ์ดแนวร่วมราษฎรเป็นระยะๆ มีการใช้แก๊สน้ำตา และขอร้องไม่ให้มวลชนขว้างปาสิ่งของ ให้อยู่ในแนวของตนเอง ทำให้แนวร่วมที่อยู่หลังแนวปะทะประกาศผ่านรถขยายเสียงบ่อยครั้งขอให้มวลชนที่มีน้ำเปล่า น้ำเกลือ นำไปให้การ์ดที่อยู่แนวหน้า 
     เวลา 19.00 น. บริเวณซอยพหลโยธิน 2 ที่เชื่อมมายัง ถ.วิภาวดีรังสิต ใกล้กับ รพ.ทหารผ่านศึก เป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนตั้งแนวสกัด ได้พยายามกระชับพื้นที่จาก ถ.วิภาวดีฯ เข้ามา ทำให้เกิดการปะทะกับการ์ดแนวร่วมราษฎร เป็นระยะๆ โดยมีแก๊สน้ำตาถูกขว้างเข้าไปในกลางกลุ่มตำรวจ และเสียงระเบิดปิงปองดังเป็นระยะ จึงมีการขอร้องไม่ให้มวลชนขว้างปาสิ่งของ ให้อยู่ในแนวตนเอง เมื่อเริ่มค่ำมืดลง ผู้ชุมนุมที่อยู่หน้าบริเวณ ร.1 รอ. ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างจุดตั้งแนวของตำรวจทั้งด้าน รพ.ทหารผ่านศึกและด้านปั๊ม ปตท. สถานการณ์เริ่มตึงเครียดอยู่เป็นระยะๆ โดยคาดว่าผู้ชุมนุมมีจำนวนประมาณ 700-800 คน
     อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รอง ผบช. ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตาหรือรถฉีดน้ำ โดยมีเพียงการเตรียมพร้อมรถฉีดน้ำไว้ในแนวหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น
     ทางด้านการ์ดกลุ่มราษฎรอ้างว่า ผู้ชุมนุมด้าน รพ.ทหารผ่านศึกถูกกระสุน ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นกระสุนยางหรือกระสุนจริง ยิงมายังบริเวณการชุมนุม โดยพบปลอกกระสุนตกหลายนัด จะขอนำไปพิสูจน์ต่อไป
     ต่อมาเวลา 19.40 น. หนึ่งในแนวร่วมผู้ชุมนุมประกาศผ่านรถขยายเสียงให้มวลชนถอยออกจากจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนตั้งแนวป้องกัน และห้ามปาสิ่งของ หากมีการขว้างปาถือว่าเป็นมือที่ 3 ทำให้มวลชนทยอยออกจากจุดดังกล่าว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"