(1)
ท่านพุทธทาสภิกขุฯ อภิมหาปราชญ์และอภิมหาพระ...ท่านนิยามคำว่า ความสุข เอาไว้ค่อนข้าง เข้าท่า มิใช่น้อย คือประมาณว่า...ความสุข-หมายถึงทุกข์ที่พอรับได้ ทำนองนั้น ซึ่งถ้าหากว่ากันตามความหมาย คำนิยาม ของท่านอาจารย์ พุทธทาส แล้ว อันตัวข้าพเจ้าเองก็น่าจะ เสวยสุข ต่อเนื่องกันมาไม่น้อยกว่า 2-3 ทศวรรษเข้าไปแล้ว!!!
(2)
เพราะสิ่งที่อาจถือเป็น ทุกข์ ตลอดช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา...ส่วนใหญ่หนักไปทางประเภท ต้องรอนแรมจากบ้าน จากช่อง เพื่อไป ต่อทะเบียนรถ แบบปีต่อปี อันเป็นอะไรที่ก่อให้เกิดความเหน็ดเหนื่อย รำคาญ อยู่ตามสมควร หรือต้องไป ทำฟัน ไม่ว่าประเภทอุด หรือถอน หรือครอบ ที่ต้องนัดหมอ รอหมอ ต้องนัดเวียนมาทำแบบซ้ำๆ ซากๆ เล่นเอาเมื่อยปาก เมื่อยลิ้น ไปเป็นแถบๆ หรือนานๆ ที...อาจต้องคอยช่วยแก้ปัญหาพรรคพวก เพื่อนฝูง ญาติมิตรและบริวาร ที่ออกจะขัดสนในเรื่องเงินๆ-ทองๆ การหางง หางาน ที่หายาก หาเย็น ยิ่งกว่าหาหนวดเต่า-เขากระต่าย ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับจุกจิก กวนใจ มากมายซักเท่าไหร่ เพราะการ ปิดโทรศัพท์มือถือ ในบางช่วง บางระยะ ก็พอช่วยให้ไม่ต้องไปรับรู้ รับทราบ ไม่ต้องไป Concoct กับความทุกข์ประเภทดังกล่าวได้มั่ง ไม่มากก็น้อย...
(3)
ในขณะบรรดา ทุกข์ ประเภทที่ออกไปทางหนักหนา สาหัส ทั้งหลาย...ไม่ว่าจะเป็นทุกข์อันเนื่องมาจากเรื่องบ้าน เรื่องเมือง จากการแลกเช็ค หมุนเช็ค เพื่อเอามาจ่ายเงินเดือนเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ อันเป็นอะไรที่โหดร้าย ทารุณ มิใช่น้อย ในช่วงที่ยังอยู่ในวัยฉะ-กัน (ฉกรรจ์) ต้องเรียกว่า...แทบหายเกลี้ยง!!! หลังจากเลิกงาน เลิกกิจการ แล้วหันมา ปลง กับอะไรต่อมิอะไร ที่ยากเกินแก้ เกินจะเยียวยา นอกเสียจากต้องอาศัยความอดทน อดกลั้น หรืออาศัย ขันติธรรม อย่างที่สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกองค์ปัจจุบัน ท่านทรงเพียรพยายามย้ำนัก ย้ำหนา ย้ำแล้ว และย้ำอีก ไว้ในช่วงวัน มาฆบูชา ที่เพิ่งผ่านมา อะไรทำนองนั้น...
(4)
แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายแล้ว...ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมวูบๆ-ไหวๆ ย่อมขึ้นๆ-ลงๆ ไปตามสภาพ โดยเฉพาะเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เอง เมื่อ ตัวกู-ของกู ดันต้องเจอกับ ทุกข์ ที่ประเดประดังอย่างชนิดเป็นระลอกเอาเลยก็ว่าได้ แม้เป็นทุกข์ประเภทที่ พอรับได้ แต่เอาไป-เอามา...มันชัก รับไม่ค่อยจะทัน เมื่อต้องเจอกับเรื่อง ปัญหาสุขภาพ ของ พี่สาวบังเกิดเกล้า ที่ยังไม่รู้หมู่ รู้จ่า ว่าจะหนักหนา สาหัส ถึงขั้นไหน เจอเรื่อง ฟันกราม ที่อุดไว้นานแล้ว ดันสึก ดันกร่อน ดันแตกซะดื้อๆ เพราะแค่เพียงเคี้ยวถั่วไม่กี่เม็ดเท่านั้นเอง เป็นอันต้องนัดหมอ เจอหมอ ทั้งๆ ที่พยายามหลีก พยายามเลี่ยง สุดฤทธิ์ สุดเดช แต่ที่ออกจะหนักหนา สาหัสที่สุด น่าจะเป็นเรื่อง คอมพิวเตอร์ ที่ถือเป็นเครื่องมือ เครื่องไม้ ในการปั่นโน่น ปั่นนี่ เขียนต้นฉบับไปให้กับสำนักโน้น สำนักนี้ ที่ดันมา เดี้ยง ซะดื้อๆ!!!
(5)
จะด้วยเหตุเพราะความหุนหันพลันแล่น จากความพยายามพักผ่อนสายตาด้วยการ แวบ เข้าไปดูเว็บโป๊ หรือจะด้วยเพราะ การไฟฟ้า บ้านเรา ท่านถนัดและเชี่ยวชาญในการทำให้ ไฟตก หรือ ไฟดับ กันไปเป็นช่วง เป็นระยะๆ จนอะไรก็ไม่รู้ที่เรียกๆ กันว่า ฮาร์ดดิสก์ ในคอมพิวเตอร์ เลยเจ๊งไม่เป็นท่า ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี แม้สิ่งนี้อาจเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้คนโดยปกติทั่วไป แต่สำหรับคนแก่ คนชรา ที่หนักไปทาง ลัดไดท์ และ โลว์เทค อย่างอันตัวข้าพเจ้าเอง ต้องถือเป็น ทุกข์ ที่ออกจะหนักหนา สาหัส มิใช่น้อย คือถึงขั้น...ทำอะไรแทบไม่ได้ ขยับอะไรแทบไม่ออก ได้แต่ตั้งหน้าและรอคอย ให้ เด็กๆ ที่เชี่ยวชาญชำนัญการในเรื่องราวเหล่านี้ มา โปรดสัตว์ กันถึงที่นั่นแหละ ถึงพอจะพ้นทุกข์ได้บ้าง...
(6)
และระหว่างที่ เด็กๆ เขาแกะโน่น แกะนี่ แล้วหันมาจิ้มโน่น จิ้มนี่ เพื่อให้ คอมพิวเตอร์ มันกลับมาเป็นอุปกรณ์ เครื่องไม้ เครื่องมือได้ตามปกติ อดไม่ได้ต้องหวนกลับไปนึกถึงภาพบรรดาคนแก่ คนชรา ที่ก้มหน้า ก้มตา เงอะๆ งะๆ อยู่กับการ ลงทะเบียน ในแอปพลิเคชันต่างๆ ที่รัฐบาลท่านขยันประดิษฐ์ คิดค้น ซะเหลือเกิน ไม่ว่า เราชนะ, คนละครึ่ง, เราเที่ยวด้วยกัน, เรารักกัน หรือ ช็อปดีมีคืน ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ที่ออกจะ แสลง กับคนแก่เอามากๆ เพราะอย่างที่เคยบอกๆ ไว้แล้วนั่นแหละว่า แค่เจอกับ รีโมตคอนโทรล หรือการกดปุ่มโน่น ปุ่มนี่ เพื่อเปลี่ยนไปดูโทรทัศน์ช่องโน้น ช่องนี้ แค่นั้น...ก็ตายแล้ว!!! ดังนั้นสีหน้า สีตา ของบรรดาคนแก่ คนชรา ที่ต้องมาเจอแอปพลิเคชันของรัฐบาลในแต่ละราย จึงออกจะ อมทุกข์ มิใช่น้อย ทั้งน่าหดหู่ น่าเวทนา น่าสงสาร ไม่ผิดกับตัวเราที่ต้องเจอกับฤทธิ์เดช คอมพิวเตอร์ จนแทบไม่หลงเหลือ ความสุข เพราะ ทุกข์ ที่พรั่งพรูเข้ามาจนแทบรับไม่ค่อยจะไหว ไม่ค่อยจะทัน อะไรประมาณนั้น...
(7)
แต่ต้องถือเป็น โชคดี อยู่มั่งไม่มากก็น้อย...ที่ เด็กๆ ซึ่งอุตส่าห์รอนแรมมา โปรดสัตว์ ถึงที่ หรือช่วย แก้คอมพิวเตอร์ ถึงในบ้าน เขาเป็นเด็กที่ค่อนข้าง สุภาพ และ อ่อนโยน อยู่พอประมาณ แม้พูดน้อย พูดสั้นๆ แต่แต่ละคำพูดจัดอยู่ในประเภท ปิยวาจา ตามสมควร ที่สำคัญคือยังมี ขันติธรรม ติดปลายนวมมิใช่น้อย ไม่ว่าถูกซัก ถูกถาม ด้วยคำถามที่น่าหงุดหงิด รำคาญ จาก คนแก่ เพียงใดก็ตาม ก็พร้อมอดทน อดกลั้น ค่อยๆ อธิบายไปตามเรื่อง ตามราว ไม่ถึงกับคิดอยากสร้าง ความเสมอภาค ให้กับ ช่วงชั้น ต่างๆ ด้วยการแจกกล้วย ด้วยการไม่นับญาติ ด้วยความก้าวร้าว รุนแรง แบบหนึ่ง แบบใด อันนี้นี่เอง...ไม่เพียงช่วย คลายทุกข์ ให้คนรุ่นหนึ่งลงไปได้บ้าง ยังช่วยให้เกิด สายใย ระหว่างรุ่นต่อรุ่น เกิดการ เชื่อมโยง ระหว่าง ความรู้-ความเข้าใจใหม่ๆ กับ พื้นฐานค่านิยมเก่าๆ ที่สามารถนำไปผสมกลมกลืน จนแม้แต่พวก ลัดไดท์ หรือ โลว์เทค อย่างอันตัวข้าพเจ้าเอง ยังพอได้อาศัย คอมพิวเตอร์ มาเขียนโน่น เขียนนี่ ตามปกติได้ดังเดิม...
---------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |