อาร์เซนอล รอดตาย จากที่กำลังจะตกรอบ  ได้ ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง ทำประตูชัยช่วงท้าย พลิกแซงเอาชนะ เบนฟิกา ได้หวุดหวิด 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีม ศึกยูโรป้า ลีก ไปได้อย่างใจหายใจคว่ำ ด้วยสกอร์รวมเฉียดฉิว 4-3 เมื่อคืนวันพฤหัสฯ
    อาร์เซนอล ดูจะได้เปรียบอยู่เล็กน้อยก่อนลงสนาม หลังจากที่บุกไปเสมอในเกมนอกบ้านแบบมีประตูทีมเยือนกลับมาด้วยในเลกแรกที่กรุงโรม สกอร์ 1-1 แมทช์นี้ แค่เสมอ 0-0 ก็เพียงพอที่จะทำให้ทีมปืนใหญ่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ แต่เพื่อไม่ให้ผิดพลาด ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า จากที่เกมนี้เป็นเลกในบ้าน แม้จะต้องเล่นที่สนามเป็นกลาง ที่กรุงเอเธนส์ เนื่องจากสถานการณ์โควิด แต่ก็เปิดฉากล่าประตูแรกของเกมทันที และใช้เวลา 21 นาที ก็ขึ้นนำได้ จาก ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง
    แต่ เบนฟิกา มาตีเสมอได้ก่อนพักครึ่ง จาก ดิโอโก กอนซัลเวส น.43 สถานการณ์นี้ กำลังทำให้ อาร์เซนอล กดดัน เพราะประตูเยือนที่ได้จากเลกแรก ไม่ช่วยอะไรได้อีกแล้ว ขณะที่ทีมเยือน สามารถบวกประตูทีมเยือนได้ เสมออีกด้วยสกอร์มากกว่าก็ยังเข้ารอบ
    อาร์เซนอล อาการหนัก โดน เบนฟิกา ยิงขึ้นนำได้ จาก ราฟา ซิลวา น.61 เท่ากับ่า ทีมจากโปรตุเกส ได้เปรียบกว่าแล้วทั้งประตูทีมเยือน และสกอร์ที่ดีกว่า ต่อให้เสมอ 2-2 ก็ยังผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้
    แต่ เจ้าบ้านก็ไม่ยอมตกรอบง่ายๆ แม้ต้องการถึง 2 ประตูเพื่อเข้ารอบ โดยที่ต้องไม่เสียประตูเพิ่มด้วย  นาทีที่ 67 ได้ประตูตีเสมอจาก คีแรน เทียร์นี่ย์ และก่อนหมดเวลาแค่ 3 นาที โอบาเมย็อง พังประตูช่วยช่วยทีมพลิกกลับมาชนะ 3-2 และผ่านเข้ารอบไปใจหายใจคว่ำ
    หลังเกม มิเกล อาร์เตต้า กล่าวชื่นชม ฮีโร่ คนทำ 2 ประตู โอบามาย็อง ที่ช่วยทีมรอดจากการตกรอบ พลิกกลับมาเข้าสู่รอบต่อไปได้หวุดหวิด พร้อมยืนยันว่าเขาเชื่อมั่นในตัวดาวยิงทีมชาติกาบ็องรายนี้เต็มร้อย แม้ฤดูกาลนี้จะฟอร์มหาย  อีกทั้งปีที่แล้วก็เคยฝันร้ายมีส่วนที่ทีมตกรอบ
    "ผมเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างเต็มที่ เพราะเขายังมีจังหวะได้ลุ้นประตูอยู่เสมอ และคุณรู้ว่าเมื่อ โอบา มีโอกาสแล้วเขาจะต้องทำประตูให้เราได้แน่"
    "ในช่วงไม่กี่วันนี้หลังเกมที่กรุงโรม ที่เขาพลาดโอกาสทำสกอร์ไป 3-4 ครั้ง ซึ่งปกติแล้วอย่างเขาต้องมี 3 ประตูแล้ว เขาต้องหาทางแก้ตัวในนัดนี้ให้ได้แน่ และผมดีใจมากที่เห็นปฏิกริยาของเขาที่ผิดหวังจากผลงานของตัวเองในเลกแรก และพยยามทำให้ดีขึ้นอีกในนัดนี้ ผมดีใจกับผลงานของเขาในค่ำคืนนี้อย่างยิ่ง"
    ทางด้าน เลสเตอร์ซิตี้ ปรากฎว่าจอดแค่รอบ 32 ทีมสุดท้ายทั้งที่มีโอกาสดีจากที่เสมอ สลาเวีย ปร๊าก มาในเลกแรกแม้จะแบบไร้สกอร์ก็ตาม แต่เลกในบ้าน กลับเสียท่าให้กับสโมสรดังจากเชก ไป 2-0 โดยทั้ง 2 ประตูเกิดขึ้นในครึ่งหลัง จาก ลูคัส โปรดอฟ น.49 และอับดัลลาห์ ซิมา น.79
    หลังเกม เบรนดน ร็อดเจอร์ส ขอรับผิด หลังจาก ที่เลสเตอร์ ตกรอบเพราะสลาเวีย ปร๊าก แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะทีมขาดตัวหลักไปบางคน อย่าง เจมส์ แม็ดดิสัน ที่มีปัญหาบาดเจ็บ และ เคเลชี อิเฮนาโช ที่ติดโทษแบน ส่วน ฮาร์วียื บาร์นส์ ดาวยิง 13 ประตู มีชื่อเป็นสำรอง ขณะที่ ยูรี ทีเลม็องส์ ต้องขยับไปเล่นหน้ามากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ผลอย่างที่หวัง
    "มันเป็นความรับผิดชอบของผมเอง ผมเป็นคนเลือกทีมจากนักเตะที่เรามีที่เราสามารถใช้ได้ และเห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ผลอย่างที่เราอยากจะเห็น"
    "โดยรวมแล้วพวกเขาทำได้ดีกว่าเรา และสมควรเป็นฝ่ายเข้ารอ เราต้องจากไปและเรียนรู้จากสิ่งนี้"