"วิรัช" ยอมรับทำหนังสือลงชื่อ 90 ส.ส.พปชร.ค้านคนนอกนั่งรัฐมนตรี พร้อมหนุน "ประวิตร" จัดโผจริง ปัดกดดันนายกฯ แค่สะท้อนความรู้สึก สะพัด! บิ๊กตู่รู้ข่าวไม่แฮปปี้ แต่ "ลุงป้อม" เฉยๆ ปรับ ครม.ใหม่ฝุ่นตลบ “กลุ่ม 3 ช.” มีชื่อโผล่ทุกเก้าอี้  "จุรินทร์" แจงภาพ “เฉลิมชัย" คุย "อนุทิน” เป็นสัมพันธ์สองพรรค "พท." ไล่บี้ 7 รมต.โดนซักฟอก เล็งยื่น ป.ป.ช.ฟันภายใน มี.ค.นี้

    เมื่อวันที่ 26 ก.พ. นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงกรณีเอกสารล่ารายชื่อ ส.ส.พปชร.ถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านหัวหน้าพรรค พปชร. คัดค้านนำคนนอกมาเป็นรัฐมนตรี ยืนยันเป็นของจริง ซึ่งหนังสือฉบับนี้เป็นเอกสารภายในของพรรค ตอนแรกคิดว่าจะไม่หลุดออกไป แต่ก็อาจจะหลุดออกไประหว่างที่มีการเซ็นภายหลังเมื่อวันที่ 24 ก.พ. มีการประชุมที่รัฐสภาเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญในวาระที่ 2 โดยขณะนั้นมี ส.ส.พรรคอยู่กันเกือบครบ ซึ่งตนทำหน้าที่เป็นประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ แต่ระหว่างนั้นก็มีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นกับ 2 รัฐมนตรีของพรรค ทุกคนก็ช็อกทั้งหมด มีหลายคนมาถามตนว่าจะทำอย่างไรต่อไป
    "ทุกคนก็ถามว่าทำไมไม่มาคัดเลือกจากคนใน แล้วเราจะนั่งกันอยู่เฉยๆ หรือไม่ ผมก็บอกว่าแล้วแต่ ถ้าทุกคนเห็นพร้อมใจกันก็ทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคเลย ทุกคนก็ทำหนังสือมา แต่วันนี้เอกสารยังไม่ได้ส่งไปไหนเลย อยู่ในมือผมนี่แหละเซ็นชื่อมาแล้ว 90 รายชื่อ ภายใน 1 ชั่วโมง แต่ในหนังสือไม่ได้มีคำอะไรที่จะไปคาดคั้น เพราะเราทำไปได้แค่ไหนเราก็ทำ" นายวิรัชกล่าว
    เขากล่าวว่า ช่วงเย็นเมื่อวันที่ 25 ก.พ. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ได้บอกว่าในสัปดาห์หน้าจะประชุมกรรมการบริหารพรรค และต่อด้วยการประชุมพรรคด้วย บอกพวกเราทุกคนใจเย็นๆ แค่นั้นก็จบ ซึ่งเชื่อว่าหัวหน้าพรรคคงรับทราบเรื่องเอกสารแล้วจากทางสื่อช่วง 6 โมงเย็นเมื่อวานนี้ ซึ่งหัวหน้าพรรคเป็นคนใจเย็นและอารมณ์ดี ก็บอกแค่ว่าสัปดาห์หน้าไปประชุมพรรค ส่วนหนังสือดังกล่าวจะมอบให้หัวหน้าพรรคตอนไหนก็ขอเงียบไว้ก่อนดีกว่า
    ผู้ดำเนินรายการถามว่า ไอเดียการทำหนังสือครั้งนี้มาจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ หรือนายวิรัชเอง โดยนายวิรัช ตอบว่า ไม่มี เป็นไอเดีย จากการที่ทุกคนมานั่งร่วมทานข้าวด้วยกัน แล้วก็คุยกัน เลยปรากฏออกมาในลักษณะนี้ พอทำเสร็จก็เซ็ นเมื่อเซ็นเสร็จก็ถือว่าจบแล้ว
    ผู้ดำเนินรายการซักว่า มีการกระซิบกันว่าเป็นไอเดียของกลุ่ม "3 ช." กับนายวิรัชที่เห็นตรงกันว่าควรทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคส่งผ่านไปที่นายกฯ เป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า ไม่มี ถ้าไปเขียนว่า 3 ช.ยึดอำนาจลุงตู่ก็ไม่มีหรอก 3 ช.ไม่ได้อยู่ด้วยเลย และไม่มี ช.เดียวร่วมเซ็นชื่อ เพราะไม่อยู่ แต่ถ้าอยู่ก็น่าจะเซ็น แต่ก็มีพวกตนช่วยกันคิดในส่วนตรงนี้ อะไรที่คิดว่าเป็นความพร้อมเพรียงกันหรือเป็นเอกภาพของพรรคพลังประชารัฐเราก็ทำ
พปชร.ปัดกดดันนายกฯ
    ถามต่อว่า นายกฯ มีความรู้สึกต่อเอกสารที่ออกมาหรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ถือว่าทำเป็นลักษณะที่ไม่ได้กดดัน เพราะทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคกราบเรียนนายกฯ ไปตามขั้นตอน แต่ก็ไม่คิดว่าหนังสือจะหลุดออกมา ซึ่งไม่ว่าการปรับ ครม.จะเป็นอย่างไร พวกตนก็รับสภาพมาตลอดอยู่แล้ว แต่เราทำไปเพียงความรู้สึกที่ออกไป
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเอกสารดังกล่าวมีเนื้อหาระบุว่า ขอมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างลง หัวหนังสือกราบเรียนถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุด้วยข้าพเจ้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐ ที่ลงรายชื่อท้ายหนังสือนี้ มีความประสงค์ขอมอบอำนาจให้ท่านหัวหน้าพรรคคัดเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างลง หากท่านหัวหน้าพรรคได้เลือกบุคคลใดให้เป็นรัฐมนตรีให้ถือเป็นเด็ดขาด และให้ถือว่า ส.ส.พรรค พปชร.ที่ลงลายมือชื่อนั้นได้เห็นชอบด้วยทุกประการ จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
    มีรายงานว่า ล่าสุดรายชื่อ ส.ส.พรรค พปชร.ทั้ง 90 คน ถูกส่งถึง พล.อ.ประวิตรแล้ว โดยมี ส.ส.กลุ่มสามมิตรไม่ได้ร่วมลงชื่อ 9 คน จาก 18 คนในกลุ่ม ขณะที่ 6 ส.ส.กลุ่มดาวกฤษ์ร่วมลงชื่อเพียง 2 คน ที่เหลือรวมถึง น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ได้ลงชื่อ? อย่างไรก็ตาม การลงชื่อครั้งนี้ไม่มีการลงชื่อของรัฐมนตรีของพรรค  
    อย่างไรก็ดี การล่าชื่อ ส.ส.พรรค พปชร.ครั้งนี้ ได้เกิดแรงกระเพื่อมภายในพรรคแบ่งเป็น 2 ฝ่าย โดยกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการล่ารายและไม่ร่วมลงชื่อด้วย? ระบุว่าฝ่ายที่ทำการล่ารายชื่อได้อ้างชื่อหัวหน้าพรรคเป็นคนสั่ง โดยหัวหน้าพรรคไม่ได้รู้เรื่องด้วย จากเหตุดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ขณะที่กลุ่มที่ล่ารายชื่อระบุว่า ที่ทำไม่ได้มีอะไรซ้ำซ้อน ต้องการแสดงจุดยืนของพรรคในการค้านคนนอกมาเป็นรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตรทราบเรื่องแล้ว ไม่มีการตำหนิ ส.ส.แต่อย่างใด และสนับสนุนคนในพรรคเพื่อเอามาช่วยงาน หากตั้งคนนอกเข้ามา มีข้อเสียคือไม่ช่วยงานพรรค  
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 2 มี.ค. พรรค พปชร.จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณารายชื่อรัฐมนตรี ส่วนกระแสข่าวการปรับ ครม.นั้น ล่าสุดมีความพยายามของ “กลุ่ม 3 ช.” ซึ่งมีหลายโผที่น่าสนใจ โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มีชื่อจะไปเป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และมีชื่อจะไปเป็น รมว.แรงงาน แทนนายสุชาติ ชมกลิ่น ส่วนนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน พยายามขอไปนั่งเป็น รมว.ศึกษาธิการ และอาจไปนั่งเป็น รมช.การคลัง สลับกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง หรือขยับไปเป็น รมว.ศึกษาธิการ ขณะที่ตำแหน่งคาดว่าจะว่างลงคือ รมช. 2 ตำแหน่ง มีแคนดิเดตที่แกนนำบางกลุ่มพยายามผลักดัน โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.พลังประชารัฐ ต้องการให้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรค ส่วน ร.อ.ธรรมนัสและนางนฤมล ผลักดันนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ขณะที่ 13 ส.ส.ภาคใต้เรียกร้อง 1 ตำแหน่งให้กับ ส.ส.ในกลุ่มด้วย
    ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการปรับ ครม. ว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกัน พรรคร่วมรัฐบาลก็ยังไม่ได้มีการนัดหารือ และยังไม่ได้รับการแจ้งมา ซึ่งอำนาจอยู่ที่นายกรัฐมนตรี สุดแล้วแต่นายกฯ ตนคิดว่าท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาล ไม่ว่าใครก็ตามเป็นหัวหน้ารัฐบาล ต้องเป็นผู้นับหนึ่งในการที่จะตัดสินและส่งสัญญาณ              
    "ในส่วนพรรค ปชป.ต้องหารือกันก่อน ขณะนี้ยังไม่มีการหารือ เป็นเรื่องที่เร็วไปที่จะพูด โดยได้สอบถามนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคแล้ว บอกยังไม่มีสัญญาณอะไร" นายจุรินทร์กล่าว
    ถามถึงภาพนายเฉลิมชัยไปพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 25 ก.พ. มีนัยอะไรหรือไม่ หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ความจริงระหว่าง ปชป.กับ ภท.ทำงานร่วมกันใกล้ชิดมาตลอด ฉะนั้นไม่มีอะไรแปลกที่เลขาธิการพรรค ปชป. กับหัวหน้าพรรค ภท.จะไปคุยกัน ท่านพบกันเป็นปกติอยู่แล้ว
    ซักว่า ได้มีการพูดถึงเรื่องการสลับกระทรวงกันหรือไม่ หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ไม่ทราบลึกลงไปว่ามีรายละเอียดเรื่องดังกล่าวหรือไม่ แต่การพบปะและการทำงานร่วมกัน ทั้งสองพรรคทำงานใกล้ชิดกันมาตลอด อย่างไรก็ตาม เลขาธิการพรรค ปชป.ไม่ได้รายงานว่าไปพูดคุยอะไรกัน
พท.เล็งยื่น ปปช.ฟัน 7 รมต.
    ส่วนนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ดูแลภาคใต้ กล่าวถึงการหาบุคคลมาทำหน้าที่ รมช.คมนาคม แทนนายถาวร เสนเนียม ที่มีคำพิพากษาจำคุกในคดี กปปส.ว่า ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล พรรค ปชป.ได้กำหนดให้ตำแหน่ง รมช.คมนาคม เป็นโควตาสัดส่วน ส.ส.ภาคใต้ ดังนั้นหากจะปรับ ครม.ก็ต้องเป็นโควตาของ ส.ส.ภาคใต้เหมือนเดิม
    "ตัวบุคคลจะเป็น ส.ส.หรืออดีต ส.ส.ก็ได้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาร่วมกันระหว่างหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเป็นลำดับแรก โดยไม่จำเป็นต้องพูดคุยกับ ส.ส.ภาคใต้ และเมื่อได้รายชื่อแล้ว ทั้งสองคนจะเป็นผู้นำเสนอรายชื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และเมื่อ กก.บห.ให้ความเห็นชอบ ก็ต้องให้ที่ประชุม ส.ส.ของพรรคพิจารณาเป็นขั้นสุดท้าย" นายนิพิฏฐ์กล่าว
    ถามว่าจะนัดหารือ ส.ส.และอดีต ส.ส.เพื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้หรือไม่ รองหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า คงไม่มีการนัดพูดคุย เพราะถ้าทำก็เกรงจะเกิดแรงกระเพื่อมภายในพรรค เพราะทั้ง ส.ส.และอดีต ส.ส.หลายคนก็มีคุณสมบัติกันทั้งนั้น จึงอยากให้เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเป็นผู้พิจารณา ซึ่งตนเชื่อว่าตอนนี้สมาชิกพรรคคงไม่มีการกดดันอะไร เพราะต้องยอมรับว่ากระแสความนิยมของพรรคก็ยังไม่ได้ดีมาก ถ้าคนในพรรคออกมาสร้างความวุ่นวายเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี ก็จะยิ่งทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อพรรค
     วันเดียวกัน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการกับรัฐมนตรีหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า การอภิปรายครั้งนี้ถือว่าสั่นคลอนรัฐบาลพอสมควร แม้จะยังไม่มีคดีความก็ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง นายกฯ ต้องดำเนินการกับรัฐมนตรีที่ส่อว่าทุจริต โดยเมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา มีอดีตผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจขององค์การคลังสินค้า (อคส.) มาร้องกับตนว่าถูกโยกย้ายโดยไม่เป็นธรรม ให้ไปดำรงตำแหน่งที่ไม่มีงานทำ
    "ขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานที่ต่อเนื่องมาจากการอภิปราย เพื่อยื่นเอาผิดรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในสัปดาห์หน้าหรือสัปดาห์ถัดไป โดยผมได้อภิปรายเฉพาะนายจุรินทร์กับนายกรัฐมนตรี ก็จะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้เร็วกว่ารัฐมนตรีคนอื่น แต่การยื่นจะเอาผิดรัฐมนตรีทั้ง 7 คนต่อ ป.ป.ช.ได้แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.นี้ ส่วนการยื่นเรื่องถอดถอนรัฐมนตรีที่ต้องใช้เสียง ส.ส. 1 ใน 10 ของสภา อาจต้องใช้เวลาในการรวบรวม ซึ่งหาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลคนไหนที่ฟังการอภิปรายของเราแล้วอยากร่วมลงชื่อถอดถอนท่านใดเราก็ยินดี" เลขาฯ พรรค พท.ระบุ.