"บิ๊กป้อม" ยังไม่ปลดล็อก 100% เมินเพื่อไทยปัดร่วมถก มิ.ย. ขณะที่ ชพน.-พลังชลตอบรับ "เอกชัย" ร่อนการ์ดเชิญ "บิ๊กตู่-ประวิตร-โจ๊ก" กินแมคฯราชประสงค์ 19 พ.ค. โดนอีกคดี "เนติวิทย์-กลุ่มอยากเลือกตั้ง" ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. เซ็นตั้ง "จรุงวิทย์" เลขาฯกกต.แล้ว
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการเชิญพรรคการเมืองมาพูดคุยในเดือนมิถุนายน เพื่อเตรียมพร้อมเรื่องการเลือกตั้งว่า ยังมีเวลาอีกนาน ตั้งปลายเดือน มิ.ย. ซึ่งเชิญทุกพรรค ส่วนที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าจะไม่เข้าร่วมการพูดคุยนั้น ก็แล้วแต่เขา แต่คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เขาไม่มาแล้วจะให้ทำอย่างไร ส่วนการปลดล็อกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามที่พรรคการเมืองเรียกร้องนั้น ต้องปลดล็อกเป็นขั้นตอน ไม่มีปัญหา แต่ยังไม่ปล่อยให้หมดทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องดูไปแต่ละขั้นตอนที่จะปล่อยให้พรรคการเมืองดำเนินการ
ด้านนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล กล่าวว่า พรรคพลังชลไปอยู่แล้ว ถ้าเชิญก็ต้องไป ส่วนเนื้อหาการพูดคุยก็ต้องดูก่อนว่ามีวาระอะไรบ้าง พรรคจะได้เตรียมเรื่องไปพูดคุย คงไม่ต้องมีการเตรียมอะไรเป็นพิเศษ อยู่ที่ทางรัฐบาลในฐานะผู้เชิญเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องของการปลดล็อกทางการเมืองหรือไม่ปลดล็อก ณ วันนี้พรรคได้ดำเนินการไปตามข้อจำกัด ซึ่งไม่ได้ห้ามทำอะไรไปทุกอย่าง อย่างการยืนยันสมาชิกพรรค ไม่ได้จำเป็นต้องมีการประชุมหรือกิจกรรมอะไร แค่ให้แกนนำแต่ละพื้นที่ไปทำความเข้าใจการมายืนยันเป็นสมาชิกพรรค โดยไม่ต้องมีการจัดกิจกรรมเขาก็มากัน ตอนนี้จึงเป็นการทำงานทางการเมืองที่มีข้อจำกัดเท่านั้น
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา โฆษกพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า หากพรรคชาติพัฒนาได้รับเชิญยินดีเข้าร่วม เพราะเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้มีการพูดคุยหารือระหว่างผู้เกี่ยวข้องโดยตรง และจะได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งร่วมกัน ทั้งเรื่องของแนวทางการดำเนินงาน การทำกิจกรรมต่างๆ ให้เป็นประโยชน์ต่อการเลือกตั้งภายใต้กฎกติกาใหม่ จะได้มีความเข้าใจที่ตรงกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการเลือกตั้งจากอดีตที่ผ่านมา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยังสนับสนุนตนเองเป็นหัวหน้าว่า ต้องขอบพระคุณท่าน ความจริงนายชวนเป็นผู้ที่ยังทำงานหนักมากให้กับพรรค ไม่เคยหยุดในการพบปะประชาชน ลงพื้นที่และให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ และเป็นคนที่ยึดมั่นในระบบ เช่นเดียวกับตน และคนของประชาธิปัตย์ เราให้ความสำคัญกับตัวระบบ เพราะคิดว่าเป็นแนวทางที่จะแก้หลายอย่างได้อย่างยั่งยืน รู้ว่าในสังคมยุคปัจจุบัน บางทีก็มองข้ามเรื่องนี้ไป แต่ประวัติศาสตร์พิสูจน์มาครั้งแล้วครั้งเล่าว่าถ้าไม่มีระบบที่เข้มแข็งไปยาก
“ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่เขาบอกว่าเก่าที่สุด เราถึงบอกว่าเราก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่การเปลี่ยนแปลงของเราคือเอาความคิดใหม่ๆ เอาคนใหม่ๆ เข้ามาผสมผสานการทำงานกับคนที่มีประสบการณ์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราพูดถึงประชาธิปัตย์ยุคใหม่ แต่เราก็ยังเห็นบทบาทของบุคคลอย่างท่านชวน นี่คือการผสมผสานของพรรคประชาธิปัตย์ คนทุกรุ่นมาช่วยกันทำงาน” นายอภิสิทธิ์ระบุ
เมื่อถามว่า คนหวังว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะมีหน้าใหม่ จะมีพรรคใหม่เข้ามา หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า การมีหน้าใหม่เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เห็นง่าย แต่สุดท้ายถ้าจะปฏิรูป คงไม่ได้มาดูที่หน้า แต่จะดูว่ารัฐบาลชุดต่อไปหลุดพ้นจากปัญหาเก่าหรือไม่ ถ้าหน้าใหม่แต่มาทำเหมือนเก่า ทำการเมืองแบบเก่า ทั้งผลประโยชน์ ทุจริต พรรค แล้วหน้าใหม่จะมีประโยชน์อะไร แต่ถ้าเป็นคนเก่า แล้วสามารถทำให้หลุดพ้นจากเรื่องเก่าได้ นั่นน่าจะเป็นคำตอบที่ดีกว่า ส่วนจะเป็นแบบไหน อยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ที่บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้นำบัตรเชิญขนาดเท่ากระดาษ A4 มีรูป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พล.อ.ประวิตร และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เพื่อเชิญทั้ง 3 คนไปร่วมกิจกรรมกินแมคโดนัลด์ ซึ่งจัดโดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ที่ร้านแมคโดนัลด์ สาขาราชประสงค์ ในวันที่ 19 พ.ค. เวลา 17.00 น. ซึ่งตรงกับวันครบรอบการสลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จากนั้นนายเอกชัยได้ชูการ์ดเชิญดังกล่าวหน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปด้านใน ทั้งนี้ เมื่อทำกิจกรรมเสร็จสิ้น นายเอกชัยได้ขึ้นรถโดยสารประจำทางเดินทางกลับ โดยไม่เกิดเหตุรุนแรงใดๆ
ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.นครไชยศรี พนักงานอัยการคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) ได้ยื่นฟ้องนายเนติวิทย์ หรือแฟรงก์ โชติภัทร์ไพศาล อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายวิศรุต อนุกูลการย์ อายุ 23 ปี นักศึกษากลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่ชุมนุมบริเวณกองทัพบก หรือที่เรียกกันว่า “ARMY57” ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-45 ในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558, พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 และ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522
กรณีเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2561 เวลา 16.00 น. กลุ่มคนอยากเลือกตั้งได้รวมตัวกันที่สนามฟุตบอล ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีการอ่านแถลงการณ์และเปิดการปราศรัยชุมนุมบนรถ 6 ล้อ ติดเครื่องขยายเสียงโจมตีการเลื่อนการเลือกตั้ง รวมถึงการทํางานของรัฐบาลและ คสช. ก่อนเคลื่อนขบวนเดินเท้าไปยังกองบัญชาการกองทัพบก
โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.1229/2561 และนัดตรวจหลักฐานพร้อมสอบคำให้การจำเลยทั้งหมดในวันที่ 12 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ขณะที่จำเลยทั้งหมดได้ถูกปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องยื่นหลักทรัพย์ประกัน แต่ศาลให้ทั้งหมดสาบานตัว
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า กกต.ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 20/2561 เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2561 เห็นชอบกรอบระยะเวลาการคัดเลือกและแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง โดยจะเริ่มดำเนินการรับสมัครผู้ตรวจการเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 13-22 มิ.ย. 61 ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดกำหนด โดยคุณสมบัติของผู้ตรวจการเลือกตั้ง โดยต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 45 ปี แต่ไม่เกิน 70 ปี นับถึงวันที่สมัคร อีกทั้งมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันสมัคร สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า มีความเป็นกลางทางการเมือง และมีความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสมัคร สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่หมายเลข 0-2141-8328 และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ได้ลงนามในสัญญาว่าจ้าง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา ตามที่ กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 8 พ.ค. คัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กกต. และมติ กกต.เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ให้มีการเซ็นสัญญาจ้าง และได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการกกต. โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (17 พ.ค.) เป็นต้นไป ก่อนที่จะมีการส่งเรื่องไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ทั้งนี้ ตามสัญญาจ้าง กำหนดให้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 5 ปี จนถึงวันที่ 16 พ.ค.2565 โดยจะมีการประเมินผลการปฏิบัติงานทุกปี หากไม่ผ่านกกต.สามารถยกเลิกสัญญาจ้างได้
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) มีนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ประธานได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า พล.อ.กิตติพงษ์ เกษโกวิท ได้ขอลาออกจากการเป็น สนช. โดยมีผลทันที ทำให้เหลือ สนช.จำนวน 246 คน ทั้งนี้ พล.อ.กิตติพงษ์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ลาออกจาก สนช. เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ และอายุมากแล้ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |