26 ก.พ.64 - ช่วงค่ำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256/16 เรื่องการทำประชามติ โดยนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย อภิปรายว่า การกำหนดว่าต้องให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงมาออกเสียงลงคะแนนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงประชามติทั้งหมดนั้น เท่ากับว่าหากมีผู้ไม่ใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนประชามติเป็นสัดส่วนจำนวนมาก จะทำให้เป็นการล้มเสียงของผู้ที่ออกมาลงคะแนน และจะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญที่จัดทำสิ้นผลไป ซึ่งตนคิดว่าคงไม่ถูกต้อง เพราะอาจจะเกิดปรากฏการณ์ผู้มีอำนาจขณะนั้นไม่ต้องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เลยไม่มีการประชาสัมพันธ์ จนทำให้ประชาชนไม่ทราบว่ามีการลงประชามติ หากเป็นแบบนั้นจะเป็นเรื่องที่อันตราย เป็นกับดัก และอาจเป็นประตูที่เปิดให้ผู้มีอำนาจทำลายร่างรัฐธรรมมนูญที่พวกเราช่วยกันทำจนมีส.ส.ร. และจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จึงขอสงวนว่าหากผู้มีสิทธิออกเสียงมาออกเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งให้กำหนดวันลงประชามติใหม่
นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะกมธ.เสียงข้างมาก ชี้แจงว่า เรื่องการลงประชามติเดิมเขียนไว้ว่าเป็นคะแนนไม่ถึง 1 ใน 5 แต่ขณะนี้มีการยกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ โดยตามมาตรา 13 ระบุว่าการออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในการจัดทำต้องผู้มาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียง กมธ.เห็นว่าในเมื่อมีพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติอยู่แล้ว เราถือให้ประชาชนเป็นผู้สถาปนารัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะผู้มีสิทธิเท่านั้น แต่ผู้ไม่มีสิทธิออกเสียงก็ถูกกฎหมายนี้ครอบคลุมเช่นกัน หากประชาชนผู้มาใช้สิทธิมาใช้สิทธิลงคะแนนไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ส่วนกรณีที่ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงมาออกเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งแล้วทำให้ร่างรัฐธรรมนูญตกไป โดยมีความกังวลเรื่องการประชาสัมพันธ์ที่ไม่เพียงพอนั้น ที่ผ่านมาการทำประชามติไม่เคยมีครั้งไหนที่การประชาสัมพันธ์ไม่เพียงพอ แต่เพื่อเป็นการป้องกันไว้ว่า ในมาตรา 19 จึงกำหนดให้ใช้เสียง 2 ใน 3 ของสภาเริ่มต้นใหม่ ซึ่งเป็นตัวป้องกันอยู่แล้วว่าเป็นไปตามกฎหมายที่ควรจะเป็น
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างมาก คือ ให้การทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญผ่านต่อเมื่อมีผู้มีสิทธิออกเสียงออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิ ด้วยคะแนนเห็นด้วย 521 ไม่เห็นด้วย 42 งดออกเสียง 17 และไม่ลงคะแนน 1 เสียง
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ดำเนินการโหวตเรียงรายมาตรา จนถึงมาตราสุดท้าย และในเวลา 21.50 น. นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานการประชุม ได้แจ้งที่ประชุมว่าการพิจารณารัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมวาระ 2 ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว จากนี้ ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้เว้นว่างไว้ 15 วัน จากนั้นจึงค่อยนัดหมายอีกครั้งเพื่อพิจารณาในวาระที่ 3 ต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม เลขาธิการสภาฯได้อ่านพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไปด้วย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |