กปปส.ไม่ใช่ปีศาจ


เพิ่มเพื่อน    

        เห็นแชร์กันเยอะ....

                "วีรพร นิติประภา" นักเขียนรางวัลซีไรต์ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มแคร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Veeraporn Nitiprapha ถึง "กปปส."

            ...สิ่งที่เพื่อนๆ กปปส.อาจไม่รู้ เด็กๆ รุ่นใหม่โกรธและเกลียดพวกคุณมากนะ หลายคนจดจำพ่อแม่ที่อบอุ่นน่ารักเข้าอกเข้าใจ ซึ่งกลายสภาพเป็นคนเกรี้ยวกราดหยาบคายเสียสติในช่วงเวลาการเคลื่อนไหวนั้นได้ และเขาก็ไม่ให้อภัยช่องทีวีหลายๆ ช่องที่ปลุกปั่นพ่อแม่เขาด้วย

            ความเกลียดชังมหาศาลหนนั้นกัดกร่อนทำลายจนพ่อแม่เขาไม่เคยกลับไปเป็นคนเดิมอีก มิหนำซ้ำ การล้ม รบ.เลือกตั้งเชียร์รัฐประหารยังทำให้บุพการีเหล่านั้นเลี้ยงดูพวกเขามาอย่างใช้อำนาจเผด็จการ และทำลายวัยเด็กของพวกเขาไป...

                นึกไม่ถึงว่านี่คือข้อเขียนของนักเขียนรางวัลซีไรต์

                แต่เมื่อดูพื้นฐานในฐานะ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มแคร์ ก็ไม่ประหลาดใจอะไร

                เพราะเป็นสาวก "ทักษิณ"

                ครับ...มันก็ธรรมดาสำหรับคนรักทักษิณ ไม่จำเป็นต้องมีดีกรีนักเขียนซีไรต์     

                หรือดับเบิลซีไรต์

                ดาดๆ ก็มีมุมมองต่อ กปปส.แบบนี้

                ก็น่าเสียดาย คนมีความรู้ มีความสามารถ น่าจะสร้างความไม่ธรรมดา ในมุมมองที่มีต่อคนที่เห็นต่างทางการเมืองได้

                กปปส.สร้างความฉิบหายให้กับสังคมไทยจริงหรือไม่?

                โดยเฉพาะสังคมหน่วยที่เล็กที่สุด

                คือ...ครอบครัว

                คนรุ่นใหม่ รุ่นลูกโกรธเกลียด กปปส. เพราะพ่อแม่ที่อบอุ่นน่ารัก กลายสภาพเป็นคนเกรี้ยวกราดหยาบคายเสียสติ อย่างนั้นหรือ

                ก็อยากถามกลับว่า แล้วความเกรี้ยวกราดหยาบคายเสียสติของม็อบ ๓ นิ้วมาจากไหน?

                ถ้าคุยกันเรื่องพวกนี้ มันต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงก่อน 

                ถ้าเริ่มต้นด้วยเรื่องชอบหรือไม่ชอบ จะไม่ได้อะไรเลย

                นอกจากความเกลียดชัง

                มีบทสัมภาษณ์ของ "วีรพร นิติประภา" เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๖๑ โดยประชาชาติธุรกิจ ถึงวิธีการเขียนนวนิยาย พูดเอาไว้น่าสนใจครับ

             “....ทุกครั้งต้องถามตัวเองว่า เราได้ให้ความยุติธรรมกับตัวละครทุกตัวหรือไม่ พี่ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ          

            งานเขียนมันจะดีหรือไม่ดี ไม่ได้อยู่ที่พล็อตประหลาดมหัศจรรย์

            แต่อยู่ที่ตัวละครทุกตัวได้รับความยุติธรรมเท่ากัน มีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน มีเหตุและผลเพียงพอที่เขาจะทำดี ทำชั่ว ฆ่าตัวตาย หัวเราะ ร้องไห้

            เราจำเป็นต้องสร้างสิ่งนี้ให้มีอยู่ในเรื่อง ต่อให้เรื่องจะงี่เง่าแค่ไหน ขายได้ ขายไม่ได้ ก็อีกเรื่องหนึ่ง...”

                เป็นเรื่องน่านับถือครับ กับการให้ความเท่าเทียมในความเป็นมนุษย์ของตัวละคร

                และจะยิ่งน่านับถือมากขึ้นไปอีกหาก มองความเท่าเทียมในตัวมนุษย์จริงๆ

                แต่น่าเสียดาย กปปส.ในสายตา "วีรพร นิติประภา" เทียบกับตัวละครในนวนิยายไม่ได้เลย

                กปปส.ไม่มีพล็อตมหัศจรรย์

                มีแค่ ๒๔ ชีวิตที่ต้องสูญเสียไป และอีกกว่า ๙๐๐ คนได้รับบาดเจ็บ

                มีแกนนำที่ยืนหยัด แม้รู้ว่าคุกรออยู่ข้างหน้า

                ไม่คิดหนีไปไหน

                ต่างไปจากกลุ่มแคร์ที่อัดแน่นไปด้วย "เด็กทักษิณ"             

                คือทักษิณที่หนีคดีโกงไปต่างประเทศ

                ให้คนอยู่ข้างหลังติดคุกแทน

                ฉะนั้นหากจะพูดถึงความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน ต้องมองข้อเท็จจริงเหล่านี้ให้ออกก่อน

                พ่อแม่รุ่น กปปส.ทำในสิ่งที่เด็ก ๓ นิ้วไม่ทำ

                กปปส.ตอกย้ำให้เห็นถึงการคอร์รัปชันมโหฬารในรัฐบาลระบอบทักษิณ และความพยายามจะนิรโทษกรรมให้คนโกง

                ปฏิเสธไม่ได้ว่าความรุนแรงในถ้อยคำบนเวทีปราศรัยนั้น มีอยู่ทุกม็อบ แต่ก็มีดีกรีความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป

                ถ้าบอกว่าบนเวที กปปส.เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดหยาบคายเสียสติ

                บนเวทีเสื้อแดงหนักกว่าหลายเท่า

            ...เผาเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง...

            ...ขวดแก้วคนละใบ มาเติมน้ำมันเอาข้างหน้า บรรจุให้ได้ ๗๕ ซีซี ถึง ๑ ลิตร ถ้าเรามาหนึ่งล้านคนในกรุงเทพมหานคร มีน้ำมันหนึ่งล้านลิตร รับรองว่า กทม.เป็นทะเลเพลิงอย่างแน่นอน....

                หรือแม้กระทั่งม็อบ ๓ นิ้ว ความเกรี้ยวกราด หยาบคาย เสียสติ ต้องคูณเป็นร้อยเท่า

                "วีรพร นิติประภา" ประเมินผิดเพราะความเกลียดชัง 

                สำหรับพ่อแม่ยุค กปปส.แล้ว คนกลุ่มนี้ไม่ใช่วัว ไม่ใช่ควาย ที่ทีวีจะปั่นหัวให้เชื่อกันง่ายๆ โดยไม่สนใจข้อเท็จจริง

                ม็อบ กปปส.คือม็อบชนชั้นกลางในเมือง 

                ซึ่งก็อธิบายในตัวมันเองอยู่แล้วว่าคนกลุ่มนี้คือคนแบบไหน 

                หากลูกๆ มองเป็นปีศาจทำร้ายครอบครัว ทำลายเด็ก ประเทศไทยล่มจมไปนานแล้ว      ขณะเดียวกันเด็ก ๓ นิ้ว กำลังลากความขัดแย้ง สร้างความเกลียดชัง เป้าหมายล้มล้างสถาบันนี่ต่างหาก จะพาประเทศไปสู่การนองเลือดครั้งใหญ่

                "วีรพร นิติประภา" รู้หรือเปล่าว่า เด็ก ๓ นิ้วเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน?

                ครับ...แม้จะเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้นคดี กปปส. แต่มีประเด็นที่สำคัญซ่อนอยู่

                ไปดูฐานความผิดของ "กำนันสุเทพ"

                ....ฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ

                ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ ๑๐ คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยผู้ใดผู้หนึ่งมีอาวุธ เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก

                ฐานร่วมกันบุกรุกสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่นในเวลากลางคืน และฐานทำให้เสียทรัพย์

                ฐานร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น

                ฐานร่วมกันกระทำการใดโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อมิให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใช้สิทธิ์ได้

                ฐานร่วมกันยุยงให้เกิดการร่วมกันหยุดงานเพื่อบังคับรัฐบาล....

                นับจากนี้ไปแกนนำม็อบทุกม็อบต้องเตรียมใจตั้งแต่แรกว่า วันหนึ่งจะต้องเจอแบบที่กำนันสุเทพและคณะกำลังเจออยู่ในตอนนี้

                และมาถึงจุดที่คนไทยต้องร่วมกันคิดว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่การเมืองต้องแก้ไขกันในสภาฯ การเปลี่ยนแปลงต้องผ่านการเลือกตั้ง

                ไม่ใช่บนถนน

                ไม่เช่นนั้นจะสลับข้างไม่จบสิ้น

                แต่การนำความขัดแย้งไปแก้ในสภาฯ ก็เป็นเรื่องยาก

                หากนักการเมืองไม่ปฏิรูปตัวเอง.  

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"