"ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ" เผย 8 แกนนำ กปปส.คืนแรกนอนที่แดน 2 กักตัวเช็กโควิด 14 วัน ตรวจร่างกาย "สุเทพ-อิสสระ-สุวิทย์" มีโรคประจำตัว "พุทธะอิสระ" ใช้เครื่องช่วยหายใจตอนนอน พบ "ณัฏฐพล-พุทธิพงษ์" เครียด จนท.ต้องคุยให้ปรับตัวผ่อนคลาย "ทนาย" ยื่นคำร้องเพิ่มหลังใช้หลักทรัพย์ 6 แสนบาทขอปล่อยตัวชั่วคราว "ศาลอุทธรณ์" ยังไม่มีคำสั่งต้องนอนคุกต่ออีกคืน  "โฆษกศาล" ระบุประกันตัวยุคใหม่ไม่มีวันหยุด "อสส." รอคัดคำพิพากษาก่อนพิจารณายื่นอุทธรณ์หรือไม่

    ความคืบหน้ากรณีอดีตแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) จำนวน 8 ราย ประกอบด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ, นายชุมพล จุลใส, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์, นายอิสสระ สมชัย, นายถาวร เสนเนียม,  นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อดีตพระพุทธะอิสระ และ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คดีการชุมนุมกลุ่ม กปปส. หลังศาลอาญาพิจารณาคำร้องประกอบหลักทรัพย์แล้วให้ส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาคำสั่ง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น
    เมื่อวันที่ 25 ก.พ. นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงคืนแรกการควบคุมตัวอดีตแกนนำ กปปส.ทั้ง 8 คนว่า เรือนจำมีการดำเนินการตามมาตรการปกติเช่นเดียวกับผู้ได้รับโทษรายอื่นๆ โดยเริ่มจากการซักประวัติและตรวจร่างกาย ซึ่งพบว่า นายสุเทพ, นายอิสสระ และนายสุวิทย์มีโรคประจำตัว เช่น ความดัน, เบาหวาน แต่ละคนมียารักษาโรคติดตัวมาด้วย ส่วนอดีตพระพุทธะอิสระมีโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจระหว่างหลับ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตอนนอน ก็ได้นำเครื่องช่วยหายใจมาด้วย
    นายกฤชกล่าวว่า ส่วนที่เหลืออีก 4 คนไม่พบมีโรคประจำตัว  หลังการทำประวัติเสร็จแล้ว ก็ได้ให้ทั้งหมดไปอยู่ที่แดน 2 ซึ่งกำหนดไว้เป็นสถานที่กักตัวเพื่อดูอาการ ตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 เป็นเวลา 14 วัน พร้อมซักประวัติเพิ่มเติม เช่นว่ามีใครเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงในช่วงที่ผ่านมาหรือไม่ ซึ่งก็ไม่พบผู้ป่วยมีอาการไข้หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง จึงให้อยู่ในห้องเดียวกันทั้งหมด เพื่อช่วยลดความเครียดจากการถูกควบคุมตัวในวันแรก
    "กรณีหากหลังจากนี้จะมีคำสั่งให้การอนุญาตให้ปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ ก็สามารถดำเนินการตามมาตรการปล่อยตัวได้ตามปกติทันที แต่หากยังไม่มีคำสั่งให้ปล่อยตัว ก็จะต้องอยู่ที่ห้องควบคุมดังกล่าวจนครบ 14 วันก่อน จึงจะคัดแยกไปอยู่ในแดนต่างๆ ต่อไป" ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครกล่าว
ทยอยเยี่ยม 8 กปปส.คึกคัก
    มีรายงานว่า ในจำนวน 8 รายของอดีต กปปส. บุคคลที่ค่อนข้างกังวลและมีความเครียดวิตกกังวลมากที่สุดคือกลุ่มรัฐมนตรี โดยเฉพาะนายณัฏฐพลและนายพุทธิพงษ์ ซึ่งทางเรือนจำต้องเข้าไปพูดคุยเพื่อความผ่อนคลายและบอกคำแนะนำค่อยๆ ปรับตัว ซึ่งเป็นภาวะปกติของคนที่เข้าเรือนจำใหม่
    ขณะที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีนักการเมือง ทนายความและญาติของผู้ต้องหาคดีการชุมนุมกลุ่ม กปปส. ต่างทยอยเข้าเยี่ยมเพื่อติดตามสภาพความเป็นอยู่ รวมถึงหารือเรื่องการเตรียมยื่นประกันตัวเพื่อสู้คดี
    โดย น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวหลังการเข้าเยี่ยมว่า ได้เข้าเยี่ยมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับทั้งหมด โดยจากการพูดคุยทุกคนมีอาการเครียดอยู่บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
    นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี กล่าวว่า เห็นนายสุเทพกับแกนนำอีกส่วนหนึ่งยิ้มแย้ม แสดงสัญลักษณ์การต่อสู้ของกลุ่ม กปปส. ก็เชื่อว่ายังมีกำลังใจดี ส่วนกลุ่มญาติที่ไปเยี่ยม หลายคนก็เสียใจที่เห็นคนในครอบครัวต้องรับโทษ
    น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เนื่องจากมีคนมารอเยี่ยมเป็นจำนวนมาก จึงได้คุยกับแค่นายพุทธิพงษ์  และอดีตพระพุทธะอิสระก็เห็นว่าทั้งหมดมีสุขภาพจิตที่ดี แต่มีลักษณะอิดโรย ซึ่งน่าจะเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ และได้ขอให้ญาตินำยารักษาโรคประจำตัว รวมถึงเอกสารใบรับรองเกี่ยวกับการรักษามายื่นให้กับทางเรือนจำ เพื่อเตรียมขอรับการรักษาต่อ พร้อมกันนี้ยังได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องการยื่นขอประกันตัวว่าหากไม่ได้รับการประกันตัวในวันนี้ เกรงว่าจะต้องถูกควบคุมตัวต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 3 วัน ทนายความจึงจะสามารถยื่นขอประกันตัวในครั้งที่ 2 ได้
    ส่วนนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และหนึ่งในทีมทนายความ กล่าวว่า มีทนายความ 2 กลุ่มเข้าไปพูดคุยถึงแนวทางการยื่นประกันตัวต่อศาลอุทธรณ์ และได้เตรียมเอกสารไปยื่นแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งคาดหวังว่าจะได้รับการประกันตัว
    "กรณีของนายถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่ายังไม่พ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. เนื่องจากศาลอุทธรณ์ยังไม่มีคำสั่งว่าจะปล่อยตัวหรือไม่ปล่อยตัวชั่วคราว" นายราเมศกล่าว
    ด้านนายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความอดีตแกนนำ กปปส. กล่าวว่า ขณะนี้ทุกคนยังมีกำลังใจดี เข้าใจ และยอมรับกระบวนการยุติธรรม โดยเบื้องต้นได้มอบหมายให้ทีมทนายดำเนินการประกันตัวตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยไม่ต้องวิตกกับคนข้างใน ทุกคนสามารถอยู่ได้สบายเหมือนคนทั่วไป แม้มีโรคประจำตัวหมดแต่ก็มีการรักษาตามกระบวนการ
    “คดีในวันนี้อยู่ระหว่างรอศาลอุทธรณ์พิจารณาให้ประกันตัว คาดว่าตอนนี้สำนวนคำร้องถูกส่งไปยังศาลอุทธรณ์แล้ว ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอศาลพิจารณาว่าจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ ส่วนกระบวนการยื่นอุทธรณ์ที่มีกรอบเวลา 30 วัน ก็ต้องเตรียมคัดคำพิพากษา ซึ่งมีเนื้อหาเยอะมาก คาดว่าใช้เวลา 10-15 วันในการสรุป แต่มั่นใจว่าสิ่งที่ทุกคนได้ทำลงไปเป็นการเรียกร้องตามสิทธิ์”ทนายความอดีตแกนนำ กปปส.กล่าว
    ที่ศาลอาญา เวลา 13.15 น. นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของแกนนำ กปปส. เดินทางมาติดตามฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ประกันตัว กปปส.ทั้ง 8 ราย หลังได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์จำนวน 600,000 บาท แต่ศาลอาญาส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาว่าจะให้ประกันหรือไม่
    นายสวัสดิ์กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ได้มายื่นคำร้องเพิ่มเติมประกอบคำยื่นขอปล่อยชั่วคราว เพื่อให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา ซึ่งเป็นลักษณะขอความเมตตาต่อศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยทุกคนต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เราไม่เคยหลบหนี ปฏิบัติตามคำสั่งศาลอย่างเคร่งครัด เช่น การเดินทางไปต่างประเทศ เมื่อกลับมาก็รายงานตัวต่อศาลทันทีทุกครั้ง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ถือว่าเป็นเรื่องหลักทั่วไปที่ทนายความจะต้องทำ และมาเพื่อรอฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ดังกล่าว
ศาลอุทธรณ์ยังไม่มีคำสั่ง
    ถามว่าเรื่องประกันตัวแกนนำทั้ง 8 ราย ศาลได้นัดฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์หรือยัง ทนายความกล่าวว่า ศาลอุทธรณ์ยังไม่นัดฟังคำสั่ง ศาลจะพิจารณาวันนี้หรือวันไหน เราไม่อาจก้าวล่วงดุลยพินิจของท่านได้ แต่ว่าเป็นภาระหน้าที่ของทีมทนายความที่จะต้องติดตามความคืบหน้า
    ซักว่ามั่นใจอดีตแกนนำ กปปส.ทั้งหมดจะได้ประกันตัววันนี้หรือไม่ ทนายความผู้นี้ระบุว่า ถ้าหากศาลอุทธรณ์ท่านพิจารณาแล้วส่งคำสั่งกลับมายังศาลอาญา เราก็จะขออนุญาตฟัง หรือศาลอาญาอาจจะแจ้งได้ว่าอนุญาตให้ประกันหรือไม่ให้ประกัน โดยหลักแล้วศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งประกันได้ 3 อย่างคือ 1.อนุญาตให้ประกัน 2.ไม่อนุญาตให้ประกัน 3.ส่งไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา เพราะฉะนั้นการปล่อยชั่วคราวนั้นเราจะยื่นขอประกันกี่ครั้งก็ได้ หรือจะอุทธรณ์คำสั่งก็ได้ แล้วแต่โอกาสและช่วงเวลาที่เหมาะสม
    เวลา 16.40 น. นายสวัสดิ์และทีมทนายความให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งของศาลอุทธรณ์ลงมายังศาลอาญา โดยตนจะยังรออยู่ที่ศาลต่อจนกว่าทางศาลอาญาจะเเจ้งว่ามีคำสั่งศาลอุทธรณ์ตกลงมาในวันนี้หรือไม่
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามขั้นตอนปกติภายหลังหมดเวลาทำการเเล้ว หากคำสั่งศาลอุทธรณ์ยังไม่ลงมา ก็จะต้องรอฟังคำสั่งอีกครั้งในวันถัดไปว่าจะมีคำสั่งศาลอุทธรณ์ส่งมายังศาลอาญาอีกหรือไม่ ดังนั้นหากยังไม่มีคำสั่งศาลอุทธรณ์ลงมาเช่นนี้ ส่งผลให้นายสุเทพ และแกนนำ กปปส.อีก 7 รายต้องอยู่ในคุกต่อไป
    ด้านนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล ในฐานะโฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงขั้นตอนการยื่นประกันตัว 8 แกนนำ กปปส. ว่าการยื่นขอประกันตัวสามารถดำเนินการได้ตามช่องทางปกติทุกวัน ไม่ต้องกังวลว่าจะติดช่วงวันหยุด จำเป็นต้องรอให้ถึงวันจันทร์ก่อนถึงจะยื่นขอประกันตัวได้ โดยศาลทั่วประเทศได้จัดเวรผู้พิจารณาเรื่องการประกันตัวไว้ทุกวันไม่มีวันหยุดราชการ และไม่ใช่เฉพาะในคดีนี้ แต่ดำเนินการในลักษณะนี้มานานกว่า 1 ปีแล้ว และทุกคดีที่มีการยื่นขอประกันตัวก็จะทราบผลในวันนั้นได้ทันที.