ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net "ให้นายกฯ เลือกเอา ผมให้สิทธินายกฯ ต้องถามนายกฯ ผมจะไม่เสนอใครทั้งนั้น และยืนยันว่าโควตาพรรคร่วมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เป็นไปตามที่คุยกันตั้งแต่ตั้งรัฐบาล" ผู้จัดการรัฐบาล-"บิ๊กป้อม" เพิ่งจะพูดหยกๆ ว่าให้อำนาจ "บิ๊กตู่" ปรับ ครม. ไม่ทันไรลูกพรรค 80 ส.ส.จาก 121 คน เปิดปฏิบัติการยึดอำนาจนายกฯ ประเคนการตัดสินใจให้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเสนอรายชื่อรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว ขืน "บิ๊กป้อม" ทำตามลูกหาบก็เท่ากับ "ปากว่าตาขยิบ" พี่ใหญ่จะหักหาญน้ำใจไม่ให้เกียรติน้องตู่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลเชียวหรือ แว่วมาว่าหัวหอกในการครั้งนี้ หนีไม่พ้น "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมช.เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้า พปชร.ที่มาแรงสุดในเวลานี้ เอาแค่เสียงไว้วางใจยังแซงบิ๊กตู่ ผงาดเทียบเท่าบิ๊กป้อม ไม่แปลกที่เวลานี้ พปชร.วิ่งกันฝุ่นตลบ คราวนี้ขอนั่งแท่นรัฐมนตรีว่าการซะที พร้อมดันน้องเลิฟ 2 รมช.คุมอีก 2 กระทรวง
๐ หากเป็นไปตามประกาศิตของผู้จัดการรัฐบาลจริง ปรับ ครม.ครั้งนี้ หรือ ครม.ประยุทธ์ 2/4 โควตารัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลจะยึดตัวเลขเดิมตอนตั้งรัฐบาล เท่ากับยึดสูตร ครม.ประยุทธ์ 2/1 คณะรัฐมนตรี 36 คน พลังประชารัฐ (พปชร.) 18 คน ประชาธิปัตย์ (ปชป.) 7 คน ภูมิใจไทย (ภท.) 7 คน ชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 2 คน รวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) 1 คน ชาติไทยพัฒนา (ชพน.) 1 คน ซึ่งรัฐบาลขณะนั้นเสียงปริ่มน้ำ 254 เสียง พปชร. 116 เสียง ปชป. 53 เสียง ภท. 51 เสียง ชทพ. 10 เสียง รปช. 5 เสียง ชพน. 3 เสียง พลังท้องถิ่นไท (พทท.) 3 เสียง รักษ์ผืนป่าประเทศไทย (รป.) 2 เสียง พรรคจิ๋ว 11 พรรค พรรคละ 1 เสียง ซึ่งรวมถึงพรรคไทยศรีวิไลย์ที่ปัจจุบันย้ายไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ แต่ถ้าเปลี่ยนสูตรน่าจะวุ่นวายแน่ เพราะรัฐบาลปัจจุบันอยู่ที่ 275 เสียง พปชร. 121 เสียง ภท. 61 เสียง ปชป. 51 เสียง ชทพ. 12 เสียง รปช. 5 เสียง พทท. 5 เสียง เศรษฐกิจใหม่ 5 เสียง (ส่วนอีก 1 เสียงคือมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อยู่ฝ่ายค้าน) ชพน. 4 เสียง รป. 2 เสียง พรรคจิ๋ว 8 พรรค พรรคละ 1 เสียง
๐ สายข่าวจากพรรคภูมิใจไทยแจ้งว่า "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล ยังไม่ท่าทีขอเก้าอี้เพิ่มแม้เสียงจะเพิ่มขึ้นถึง 10 เสียง กลายเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับ 2 แซงหน้าประชาธิปัตย์ที่หล่นเป็นอันดับ 3 แต่อยากคุม 2 กระทรวงที่พรรคดูแลแบบเบ็ดเสร็จมากกว่า ในการพบกันระหว่าง "เสี่ยต่อ" เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ แม่บ้านพรรคพระแม่ธรณีฯ ที่บุกไปเจรจากับ "เสี่ยหนู" ถึงห้องทำงานกระทรวงสาธารณสุข ตอกย้ำความเป็นพันธมิตรของทั้งสองพรรค มีข่าวว่า "เสี่ยหนู" เอ่ยปากกับ "เสี่ยต่อ" ว่า ขอแลกเก้าอี้ รมช.สาธารณสุขและ รมช.คมนาคม ที่เป็นโควตาของประชาธิปัตย์ โดยต้องการเอาคนของภูมิใจไทยมานั่งแทน และอาจสลับเก้าอี้ รมช.กระทรวงอื่นที่ ภท.ดูแล อย่างเช่น รมช.พาณิชย์ รมช.เกษตรฯ ซึ่งทาง ปชป.ยังไม่เซย์เยส
๐ 8 แกนนำ กปปส. นอนคุกต่อเป็นคืนที่สอง รอคำสั่งศาลอุทธรณ์พิจารณาให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ โดย 5 คนที่เป็น ส.ส. ลุ้นหนักกว่าอีก 3 คน ถึงแม้สามรัฐมนตรีจะหลุดตำแหน่งไปแล้วก็ตาม แต่ถ้าศาลอุทธรณ์ให้ประกันตัว ก็ยังคงสถานภาพ ส.ส.ต่อไป คือ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรครวมพลังประชาชาติไทย หากศาลไม่ให้ประกันตัวเท่ากับสมาชิกภาพของส.ส.ต้องสิ้นสุดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (6) ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล ส่วนข้อต่อสู้ที่ใช้ในการยื่นอุทธรณ์นั้น "อ.แก้วสรร อติโพธิ" จำเลยที่ 21 ในคดีดังกล่าว ซึ่งศาลอาญาชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง ได้อธิบายการต่อสู้ของ กปปส.ในการขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ โดยเปรียบเปรยว่า "ระบอบทักษิณ เป็นเหมือนงูเห่าที่หลุดเข้ามาในห้องนอน ต้องตีต้องไล่ออกไปให้ได้ เมื่อศาลมาลงโทษเรา เราจึงไม่เห็นด้วยว่า เราจะผิดฐานทรมานสัตว์ไปได้อย่างไร ถ้าศาลสูงรับว่าเรามีสิทธินี้อยู่จริง เราก็มีสิทธิต่อต้านโดยสงบ ซึ่งอาวุธสำคัญของการต่อต้านโดยสงบก็คือ การหยุดงาน ดังนั้น การที่เราเข้าไปชวนข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่หยุดงานจึงไม่ผิด ทั้งบุกรุกและยุยงปลุกปั่น การขัดขวางเลือกตั้งโดยสงบก็ไม่ผิด จะเหลือที่น่าสงสัยว่าเกินขอบเขตสันติวิธี อยู่ไม่กี่กระทงเท่านั้น ซึ่งก็ลงโทษต่ำกว่ากฎหมายได้ เหมือนกับป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ ที่ยังผิดแต่ลดโทษได้".
ลี้คิมฮวง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |