บันทึกหน้า4


เพิ่มเพื่อน    

        ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" storage.thaipost.net อีก 4 วันก็ครบรอบ 4 ปียึดอำนาจ คสช. บรรดาพรรคกลุ่มก๊วนการเมืองทั้งหลายสบช่องเรียงหน้าขย่ม หนักสุดต้องยกให้ "เพื่อแม้ว" ฝ่ายที่สูญเสียอำนาจและผลประโยชน์โดยตรง มาแบบจัดหนักจัดเต็ม นอกจากแจกเอกสารแถลงการณ์ร่ายยาวถึง 3 หน้ากว่า ในหัวข้อ "4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาลและ คสช. นำประเทศไปสู่ความมืดมนและอันตราย" ระดับแกนนำกับขาประจำเตรียมตัวมาแถลงเองเลย ยิ่งเห็นกองทัพสื่อมากันเพียบทั้งไทยและเทศ แต่ดันเจอแขกไม่รับเชิญยกคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 3/2558 มาสกัดเสียก่อน รักษาการหัวหน้ากับเลขาฯ พรรคเลยชวดร่วมวง คัดเหลือ 3 ตัวจี๊ด "ชูศักดิ์ ศิรินิล" - "จาตุรนต์ ฉายแสง" - "วัฒนา เมืองสุข" ตั้งโต๊ะถล่ม คสช. 7 ความล้มเหลว ไล่ตั้งแต่ ไม่ทำตามข้ออ้างในการยึดอำนาจ, สร้างความปรองดองไม่สำเร็จแล้วยังสร้างความขัดแย้งเพิ่ม, ปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันไม่ได้จริง ปกป้องพวกพ้อง โกงมากขึ้น, ไม่ทำให้บ้านเมืองมีประชาธิปไตย, ละเมิดสิทธิมนุษยชน, แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้

        เป้าหลักหนีไม่พ้น "บิ๊กตู่" เพื่อไทยสับเละภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ล้มเหลว "รับปากต่อประชาชนว่าจะเข้ามาชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหา และจะอยู่ไม่นาน แต่กลับอยู่ยาวถึง 4 ปี และมีแนวโน้มจะมุ่งสืบทอดอำนาจต่อไป เมื่อเข้ามายกตนว่าเป็นคนดี ด่าว่า และกล่าวร้ายนักการเมือง และปฏิเสธว่าตนไม่ใช่นักการเมือง แต่สุดท้ายมายอมรับว่าตนเป็นนักการเมือง และยังไปชักชวนนักการเมืองมาร่วมรัฐบาล เพื่อพยุงอำนาจและสืบทอดอำนาจต่อไป ประกาศว่าจะคืนประชาธิปไตยใน 15 เดือน แต่ผ่านมา 48 เดือน ประชาธิปไตยยังมืดมน ทั้งๆ ที่ได้ประกาศต่อสาธารณชน และรับปากต่อผู้นำประเทศและผู้นำองค์กรระหว่างประเทศว่า จะมีการเลือกตั้งเมื่อนั้นเมื่อนี้ แต่สุดท้ายก็เลื่อนการเลือกตั้งมาแล้วถึง 4 ครั้ง การกระทำและพฤติการณ์ส่อว่าได้เสพติดอำนาจ และวางกลไกเพื่อสืบทอดอำนาจต่อไป เริ่มตั้งแต่การวางกลไกในรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของนายกรัฐมนตรี และที่มาและอำนาจของ ส.ว. การทุ่มเทงบประมาณเพื่อนโยบายต่างๆ ที่มีลักษณะหวังผลทางการเมือง ล่าสุดมีการดูดนักการเมืองจากค่ายต่างๆ เพื่อมาร่วมงานกับตนเอง อันแตกต่างจากการประกาศครั้งแรก เมื่อเข้ามายึดอำนาจ" แตะทั่นผู้นำซะขนาดนี้ เต้นกันเป็นแถว จ่อเช็กบิลกราวรูด

        นาฬิกาหรูอีกแล้ว! ถ้านายกฯ ไม่เบรก ในที่ประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ป่านนี้งบก้อนโต 8.1พันล้านคงผ่านฉลุย แค่ยก 2 ตัวอย่างที่แพงเกินจริง ไมค์ตัวละ 1.2 แสน นาฬิกาเรือนละ 7 หมื่น ก็ตอบสังคมยากแล้ว ทั้งที่เคยมีบทเรียนในอดีตให้เห็นมาแล้ว ไม่ยักจะเข็ดหลาบ ปมทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างของสภาผู้แทนราษฎรในยุค "สุวิจักขณ์ นาควัชระชัย" เป็นเลขาธิการสภาฯ ก็ยังอยู่ในขั้นอนุไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น่าจะจำกันได้กับนาฬิกาโคตรแพง ยี่ห้อ Badet รุ่น Cristalys Date ที่ใช้แขวนผนังประดับอาคารรัฐสภา 240 เรือน งบประมาณ 14.8 ล้านบาท ตกเรือนละ 6.2 หมื่นบาท เมื่อปี 2556 หลังเป็นประเด็นฉาว ก็ได้คำตอบจากสภาฯ ว่าที่ราคาหูฉี่ขนาดนี้ เพราะรวมค่าอุปกรณ์ที่เป็นตัวแสดงผล ที่มีความเที่ยงตรงตลอดเวลา แถมเชื่อมต่อกับดาวเทียมและระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อส่งสัญญาณเวลาให้กับนาฬิกาเครือลูกข่ายทั้งหมด แล้วยังมีการ Back Up ระบบเวลาให้กับชุดควบคุมนาฬิกาหลักให้สามารถรักษาเวลาต่อเนื่องในกรณีไฟฟ้าดับได้ไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง แต่สิ่งที่สภาฯ ลืมบอกคือว่าอายุมันสั้น แขวนโก้ๆ แค่ 2 ปีดันตายซะแล้ว ไม่เหมือนนาฬิกาเรือนไม่กี่ร้อยทนจริงทนจัง กว่าจะเสนองบซื้อใหม่มันคงนานไป คิดดูขนาดนาฬิการุ่นเมื่อ 5 ปีก่อนยังเชื่อมดาวเทียม รุ่นใหม่ยุคนี้จะล้ำไปถึงไหนต่อไหน แต่เอาจริงๆ จะทันสมัยไปเพื่อ แค่นาฬิกาไว้ดูเวลา ถ้าจำเป็นต้องใช้งานแบบตรงเป๊ะ ก็ติดห้องประชุมรัฐสภาแค่เรือนเดียวก็พอมั้ง โถ! ที่อ้างว่าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการเข้าห้องประชุมไม่ทันของทั่นผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย มันเป็นเรื่องของจิตสำนึก คงยาก ในเมื่อทั่นผู้นำไม่ปลื้ม ประธาน "พรเพชร วิชิตชลชัย" สั่งไอ้เสือถอยแล้ว เลขาฯ "สรศักดิ์ เพียรเวช" ก็รีบงับลูกขยับโละระบบไฮไทค 4 เคกลับมาใช้อนาล็อกทันควัน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"