25 ก.พ.64 - พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.ป่าตอง พร้อมตำรวจสภ.ป่าตอง ควบคุมตัวผู้ต้องหา สิบตำรวจโทพรเทพ ชาญณรงค์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดที่เกิดเหตุ บริเวณซอยบางลา ป่าตอง ซึ่งในวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหามึนเมาสุราใช้อาวุธปืนยิงพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งการทำแผนครั้งนี้ใช้เวลาอย่างรวดเร็ว จากนั้นควบคุมตัวผู้ต้องหากลับไปที่สภ.ป่าตอง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย

พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวว่า ในการดำเนินคดีได้รับแจ้งจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ,รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ,ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ให้ดำเนินคดีแบบตรงไปตรงมา ในขั้นตอนนี้ทางสภ.ป่าตองได้รวบรวมพยานหลักฐานได้พร้อมพอสมควร และประเด็น ทุกอย่างค่อนข้างสมบูรณ์ ดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพให้ข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีว่าทำด้วยความมึนเมาจริงๆและไม่ได้รู้จักกันหรือมีสาเหตุโกรธเคืองใดๆกับผู้บาดเจ็บ ทั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้น พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา  ,พกพาอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

ในวันนี้จะทำการฝากขังต่อศาลส่งเข้าเรือนจำเบื้องต้นคัดค้านการประกันตัวทุกกรณี ซึ่ง มีการยื่นประกันตัว แต่  ทางผู้บังคับบัญชาสั่งการมาโดยตลอดให้คัดค้านการประกันตัว และเมื่อวานนี้ญาติของผู้ต้องหาได้เข้าพบกับญาติของผู้บาดเจ็บแล้ว ในคดีนี้เข้าไปประสานงานช่วยเหลือและเยียวยา 

ส่วนการจะรับกลับมาเป็นตำรวจหรือไม่นั้น ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้พิจารณาและดูประวัติมาแล้วค่อนข้างที่จะรับกลับมาเป็นตำรวจ ในครั้งนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้มีคำสั่งให้ออกไว้ก่อนจากราชการ หลังจากนั้นมีการพิจารณาสอบสวนทางวินัย จะถึงขั้นไล่ออกในการดำเนินคดี เชื่อว่า คงไม่ได้กลับมารับราชการ

พ.ต.อ.สุจินต์ กล่าวต่อไปว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการทุกโรงพักให้ควบคุมดูแลเจ้าหน้าที่ในการพกพาอาวุธปืนให้สอดส่องผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเข้มงวดในเรื่องการดื่มสุราและการประพฤติตนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากดำรงตนผิดวินัยให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นครั้งแรกในพื้นที่ป่าตอง ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ หลายฝ่ายรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆและเมื่อเกิดเหตุตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาได้ทันทีซึ่งการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่สภ.ป่าตอง  มีมาตรการเข้มงวดมาตลอด ส่วนช่วงนี้อยู่ในสถานการณ์โควิด-19 สถานประกอบการให้ความร่วมมือด้วยดี