เกิดเหตุจลาจลในเรือนจำแออัด 3 แห่งของเอกวาดอร์เมื่อวันอังคาร เมื่อแก๊งคู่อริเปิดฉากต่อสู้แย่งชิงความเป็นใหญ่จนเป็นเหตุให้มีนักโทษเสียชีวิตรวมอย่างน้อย 75 คน
ตำรวจรักษาการณ์ภายในเรือนจำกัวยากิลเมื่อวันพุธ ขณะที่ด้านนอกญาติของนักโทษมาเฝ้ารอข่าวภายหลังเกิดจลาจลนองเลือดในคุก (Photo by Marcos Pin Mendez/picture alliance via Getty Images)
เหตุการณ์ที่ถือเป็นการจลาจลนองเลือดที่สุดครั้งหนึ่งในเรือนจำของเอกวาดอร์ เกิดภายในเรือนจำ 3 แห่งในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อช่วงสายของวันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่น รัฐบาลต้องส่งตำรวจปราบจลาจลและทหารเข้าควบคุมสถานการณ์
เอ็ดมุนโด มอนกาโย ผู้อำนวยการเอสเอ็นเอไอ ที่เป็นองค์กรกำกับดูแลทัณฑสถานของเอกวาดอร์ กล่าวในช่วงค่ำวันอังคารว่า มีนักโทษเสียชีวิต 33 คนที่เรือนจำในเมืองกูเอนซา, 21 คนที่กรุงกัวยากิล และอีก 8 คนที่ลาตาคุงกา แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า มีนักโทษตายเพิ่มอีก 13 คน โดยไม่ได้ระบุว่าจากเรือนจำแห่งใด
มีรายงานด้วยว่า มีตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มีตำรวจเสียชีวิต เรือนจำทั้ง 3 แห่งนี้มีนักโทษถูกคุมขังรวมกันคิดเป็นร้อยละ 70 ของทั้งประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่า การต่อสู้มีชนวนเหตุจากการแย่งชิงความเป็นใหญ่ภายหลังผู้นำแก๊งคนหนึ่งโดนฆ่าตายเมื่อเดือนธันวาคม
มอนกาโยกล่าวว่า เกิดความตึงเครียดมากขึ้นในเรือนจำหลายแห่งตั้งแต่ฮอร์เก ลูอิส ซัมบราโน หัวหน้าแก๊งโชเนรอส โดนยิงตาย ไม่กี่เดือนหลังออกจากคุก
รายงานบีบีซีกล่าวว่า ระหว่างอยู่ในคุกนั้น ซัมบราโนและแก๊งของเขาดูแลขบวนการค้าของเถื่อน, ค้ายา และขูดรีด ภายในคุกหลายแห่งของเอกวาดอร์
ปาตริซิโอ ปัซมินโย รัฐมนตรีมหาดไทยกล่าวว่า เชื่อว่าการต่อสู้นองเลือดเมื่อวันอังคารเกิดจากการแย่งชิงตำแหน่งของซัมบราโน และมีการวางแผนและจัดการมาอย่างดี.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |