ยึดปอร์เช่เมจิกสกิน จอดทิ้งอาบอบนวด


เพิ่มเพื่อน    

    ตามยึดรถหรูของเจ้าของเมจิก สกิน หลังทิ้งปอร์เช่ไว้ที่ลานจอดรถอาบอบนวดเจ้าพระยา 3 พบมีการถ่ายโอนให้กรรมการบริษัทที่ยังไม่มาตามหมายเรียก "วิระชัย" บุกตรวจโรงงานผลิตเครื่องสำอางย่านอรุณอมรินทร์หลังมีข้อมูลผลิตสินค้าให้เมจิก สกิน ด้านน้องชายเหยื่ออาหารเสริม "ลีน" ที่กินแล้วเป็นศพ เข้าแจ้งความ ปคบ. เผยอีกฝ่ายเสนอเงินเยียวยา 1 ล้าน แต่ไม่รับ
    เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ที่ลานจอดรถสถานบริการอาบอบนวดเจ้าพระยา 3 ถนนอรุณอัมรินทร ์แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. นำกำลังเข้าตรวจสอบรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ ทะเบียนป้ายแดง น-8886 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของนางวรรณภา พวงสน เจ้าของบริษัท เมจิก สกิน ที่ถูกนำมาจอดทิ้งไว้
    พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยกันเสนอข่าว การติดตามอายัดรถของนางวรรณภา พวงสน และนายกร พวงสน 2 สามีภรรยาเจ้าของบริษัทเครือเมจิก สกิน ซึ่งนำเงินที่ได้จากการฉ้อโกงประชาชนไปซื้อรถหรูกว่า 30 คัน มูลค่า 68 ล้านบาท และหลังจากนำเสนอข่าวออกไป ได้มีผู้นำรถยี่ห้อปอร์เช่คันดังกล่าวมาจอดไว้ที่ลานจอดรถเจ้าพระยา 3 จากการตรวจสอบผู้ครอบครอง คือนายอภิวัส พงศ์พัฒนะนุกูล กรรมการบริหารบริษัท เมจิก สกิน จากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนขยายผลว่าทำไมรถคันดังกล่าวซึ่งเป็นของนางวรรณภามาอยู่ในความครอบครองของนายอภิวัส ซึ่งผู้ครอบครองจะต้องมีความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินด้วย ทั้งนี้ เจ้าพนักงานจะได้ทําการตรวจยึดเพื่อประมูลขายและเฉลี่ยทรัพย์คืนให้แก่ผู้เสียหาย
    ก่อนหน้านี้ ตำรวจ สน.บางยี่ขันได้รับแจ้งจากนายทองพูน เสงี่ยมศักดิ์ ผู้ดูแลลานจอดรถสถานอาบอบนวดเจ้าพระยา 3 ว่าพบรถปอร์เช่ซึ่งไม่ทราบเจ้าของเป็นผู้ใด มาจอดไว้ที่ลานจอดรถ กระทั่งเวลา 01.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปิดสถานบริการ พบว่ายังไม่มีใครมานำรถคันดังกล่าวออกไป เมื่อใช้ไฟฉายส่องดูก็พบว่ามีกุญแจอยู่ภายใน และรถคันดังกล่าวไม่ได้ล็อก จากการตรวจค้นภายในพบเอกสารคู่มือการจดทะเบียน ระบุป้ายทะเบียน 5 กฉ 6095 กรุงเทพมหานคร โดยมีนายอภิวัสเป็นผู้ครอบครอง นอกจากนี้ยังมีนามบัตรของนายอภิวัส และสินค้าตัวอย่างของเมจิก สกิน
    พล.ต.อ.วิระชัยเปิดเผยว่า นายอภิวัสถูกเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกให้มาพบแล้ว 1 ครั้ง แต่ยังไม่มาพบ ต่อไปจะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 หากยังไม่มาก็จะออกหมายจับ 
    ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.ต.อ.วิระชัยนำกำลังพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เดินทางไปยังบริษัท ฮานิว โคเรีย จำกัด เลขที่ 1693-4 ซอยอรุณอมรินทร์ 53 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. หลังสืบสวนทราบว่ามีการผลิตสินค้าให้กับเมจิก สกิน และตรีชฎา ซึ่งเป็นสินค้าในเครือเมจิก สกิน เบื้องต้นพบว่าภายในร้านมีสารเคมี สารตั้งต้นจำนวนมาก และยังห้องมีแล็บที่ใช้ผลิตสารเคมี ผลิตภัณฑ์ต่างๆ 
    พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้น พบโรงงานแห่งนี้รับผลิตสินค้าให้กับเมจิก สกิน และตรีชฎาด้วย แต่ไม่พบผลิตภัณฑ์ดังกล่าว รวมถึงไม่พบบรรจุภัณฑ์ด้วย โดยพบเพียงสารตั้งต้นและเครื่องผลิตครีมขนาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งทางตำรวจก็สงสัยว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ แต่จากการสอบสวนทราบว่า บริษัทดังกล่าวมีแหล่งเก็บสินค้าเป็นตึกแถวติดกัน 3 ห้อง ตั้งอยู่ตรงข้ามบริษัทดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างขอหมายค้นจากศาล 
    หลังจากนั้น เมื่อได้หมายค้นจากศาล เจ้าหน้าที่ก็เข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยมีนายทนงค์ วงศ์สมบูรณ์ และ น.ส.ปาจรีย์ วงศ์สมบูรณ์ กรรมการบริหารบริษัท ฮานิว โคเรีย จำกัด นำตรวจค้น
    พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อหนึ่งที่มีการกล่าวอ้างว่ามีเยื่อไผ่และเห็ดจากญี่ปุ่นผสมนั้น ไม่เป็นความจริง และผลิตภัณฑ์ตรีชฎา ของ น.ส.ตรีชฎา ใจสบาย 1 ในผู้ต้องหาคดีเมจิก สกิน เป็นเจ้าของ ที่มีการกล่าวอ้างว่าผลิตที่ จ.นครราชสีมา ก็ไม่เป็นความจริง เพราะมาผลิตที่โรงงานแห่งนี้ ยืนยันว่าเอกสารที่ได้ภายในบริษัทชี้ให้เห็นว่า บริษัท ฮานิว โคเรีย มีการรับผลิตสินค้าให้บริษัท เมจิก สกิน จริง นอกจากนี้ จากการตรวจค้นยังพบบัญชีสรุปหนี้ของบริษัทดังกล่าว ว่าเป็นเจ้าหนี้บริษัท เมจิก สกิน จำนวน 27,828,809 บาท และมียอดค้างต่อบริษัทอื่นอีกรวมกว่า 40 ล้านบาท ส่วนเรื่องที่เจ้าของจะปฏิเสธอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะนำเครื่องคอมพิวเตอร์ไปตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด รวมถึงเชิญผู้บริหารบริษัทไปสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นในข้อหาโฆษณาเกินจริงที่กองปราบปรามภายในวันเดียวกัน
    ด้านนายทนงค์กล่าวว่า บริษัทรับผลิตเนื้อครีมและขายส่ง ยืนยันส่วนผสม รวมถึงสารต่างๆ ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีการแจ้งจดทะเบียนเมื่อปี 2556 และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ อย.มาตรวจก็ไม่พบสารต้องห้าม ส่วนที่มีข้อมูลว่าบริษัท เมจิก สกิน ใช้โรงงานเป็นสถานที่การผลิตสินค้า ยอมรับว่ามีการติดต่อขอซื้อเนื้อครีมทารักแร้ของโรงงาน 3 ตัน ไปทดลองจำหน่ายแล้วได้ผลดี จึงทำหนังสือสัญญาว่าจ้างเป็นสถานที่ผลิตสินค้าให้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อตรีชฎา แต่บริษัทได้มีการตรวจสอบเลข อย.แล้ว พบว่าไม่ถูกต้อง จึงมิได้ผลิตสินค้าให้บริษัท เมจิก สกิน แต่ภายหลังบริษัท เมจิก สกิน ได้นำสินค้าตัวใหม่มาให้บริษัท ฮานิว โคเรีย ผลิตให้ ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นเครือข่ายบริษัท เมจิก สกิน และโรงงานเปิดมาก่อนจะมีแบรนด์ดังกล่าวอีกด้วย 
    ขณะที่ น.ส.ปาจรีย์กล่าวว่า ข้อเท็จจริงสารประกอบครีมยี่ห้อคาโอะ ยืนยันว่าในผลิตภัณฑ์ไม่มีส่วนผสมจากเยื่อไผ่และเห็ดญี่ปุ่นตามที่มีการโฆษณา ส่วนกรณีที่ตำรวจพบข้อมูลบัญชีหนี้สินแล้วมีชื่อบริษัท เมจิก สกิน เป็นลูกหนี้ 27 ล้านบาท เรื่องดังกล่าวขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน
    นายสมชาย ปรีชาทวีกิตต์ รองเลขาธิการ อย. ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าบริษัท ฮานิว โคเรีย ผลิตสินค้าให้กับตรีชฎา คือเซรั่มและครีมทารักแร้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งอาจเข้าข่ายการปลอมแปลงสินค้า ส่วนกรณีที่ชาวบ้านบริเวณนี้ร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากโรงงาน อาทิ เรื่องกลิ่นรบกวน ก็สามารถร้องเรียนมาได้ ทาง อย.พร้อมจะเข้าตรวจสอบและยกเลิกโรงงานต่อไป
    ยังมีประเด็นที่น่าสนใจต่ออาหารเสริมลดน้ำหนักยี่ห้อลีน (LYN) กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.พิมลวรรณ หมอนอิง อายุ 31 ปี พนักงานธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ที่ผลตรวจทางนิติเวชยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตมาจากหัวใจล้มเหลว เนื่องมาจากสารไซบูทรามีนในอาหารเสริมดังกล่าว
    เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมนายวุฒิกร หมอนอิง อายุ 30 ปี น้องชายของ น.ส.พิมลวรรณ ผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พูลสวัสดิ์ ผกก. (สอบสวน) กก.4 บก.ปคบ. เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้ช่วยดำเนินคดีและจับกุมผู้กระทำผิด
    นายรณณรงค์เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมา บก.ปคบ.เพื่อต้องการให้ดำเนินคดีกับเจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมยี่ห้อลีน เนื่องจากเป็นคดีซับซ้อน เพราะต้องมีผลตรวจทางการแพทย์มายืนยันด้วย โดยผลตรวจจากกลุ่มนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลราชบุรี ระบุสาเหตุว่าหัวใจล้มเหลวจากผลแทรกซ้อนของยาไซบูทรามีน อีกทั้งจะเดินทางไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้รื้อคดีที่มีผู้เสียชีวิตจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลีนทั่วประเทศทุกราย
    ส่วนนายวุฒิกรกล่าวว่า คดีนี้ตนได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ต่อมามีตัวแทนผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลีนโทรศัพท์มาเคลียร์ปัญหา พร้อมยื่นข้อเสนอเป็นเงินเยียวยา 1 ล้านบาท แต่ตนไม่กล้าไปพบ เพราะกลัวอันตราย นอกจากนี้ เงินจำนวนดังกล่าวไม่สามารถชดเชยชีวิตพี่สาวได้ จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ปคบ.เพื่อดำเนินการต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง และไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ลีนอีก
    ด้าน พ.ต.อ.ไพฑูรย์กล่าวว่า ขณะนี้สำนวนคดียังอยู่ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี หากมีความซับซ้อนมากอาจเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาโอนสำนวนคดีมายัง บก.ปคบ.ดำเนินการตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดโรงงานผลิตและยึดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทั้งหมดมาตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว
    ว่าที่ พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง อุปนายกฝ่ายบริหารและโฆษกสภาทนายความ กล่าวว่า สภาทนายความพร้อมให้คำปรึกษาและให้ความช่วยเหลือผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน จากการบริโภคยาปลอม โดยให้ผู้เสียหาย, ทายาท หรือผู้มีส่วนได้เสีย สามารถร้องขอคำปรึกษาและขอความช่วยเหลือจากคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคของสภาทนายความ ซึ่งมีนายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ เป็นผู้กำกับดูแล ได้ที่สภาทนายความในวันและเวลาราชการ โดยให้นำพยานหลักฐานเท่าที่มีมาด้วย ทั้งนี้ จะมีทนายความสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นเพื่อประโยชน์ในการรวบรวมพยานหลักฐาน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"