24 ก.พ.64 - สืบเนื่องจาก ศาลอาญาพิพากษาจำคุก นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นเวลา 7 ปี นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็น 5 ปี นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็น 6 ปี 16 เดือน ตามที่รายงานข่าวไปก่อนหน้านั้น ศาลอาญาพิพากษา จำคุกกราวรูด อดีตกปปส. 'กำนัน' โดน 5 ปี '3 รมต.' หนัก!
ก่อนหน้านี้มีความเห็นของ ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานกระบวนการยุติธรรม สถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด เกี่ยวกับคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก กับการสิ้นสุดสถานภาพความเป็น ส.ส. และรัฐมนตรี ว่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 บัญญัติหลักเกณฑ์การสิ้นสุดสมาชิกภาพของ ส.ส. และการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ไว้หลายกรณี โดยมีบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงในเรื่องนี้อยู่ด้วยกันหลายมาตราที่น่าสนใจ ที่จะนำมากล่าวในที่นี้ คือ บทบัญญัติในมาตรา 98 (6), มาตรา 101 (6) และ (13) และมาตรา 160 (6) และ (7)
ในกรณีของ ส.ส. หากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ถึงแม้จะพิพากษาให้รอการลงโทษ ก็ถือเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ ส.ส. สิ้นสุดลง เว้นแต่ความผิดที่ศาลพิพากษาให้รอการลงโทษนั้นจะเป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ และความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (13) จึงจะถือเอาเหตุที่ศาลรอการลงโทษดังกล่าวมาเป็นเหตุยกเว้นไม่ทำให้สมาชิกภาพของ ส.ส. สิ้นสุดลงไปได้
โดยรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (13) นี้ กำหนดหลักเกณฑ์ของคำพิพากษาของศาลที่จะเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ ส.ส. สิ้นสุดลงไว้ว่า จะต้องเป็นคำพิพากษาของศาลให้ลงโทษจำคุกที่ถึงที่สุดเท่านั้น ดังนั้น หากยังอยู่ในระหว่างกระบวนการอุทธรณ์หรือฎีกาโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาของศาลตามกฎหมาย คำพิพากษาของศาลนั้นย่อมยังไม่ถึงที่สุด และยังไม่ถือเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ ส.ส. สิ้นสุดลง
ส่วนกรณีของรัฐมนตรีนั้น รัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (7) บัญญัติไว้ว่า รัฐมนตรีต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก โดยไม่คำนึงว่า คดีจะถึงที่สุดหรือไม่ หรือคำพิพากษาที่ให้ลงโทษจำคุกนั้นจะมีการอการลงโทษ เว้นแต่ความผิดที่ศาลพิพากษาให้รอการลงโทษนั้นจะเป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ และความผิดฐานหมิ่นประมาท
ดังนั้น หากรัฐมนตรีต้องคำพิพากษาของศาลให้ลงโทษจำคุก ถึงแม้ว่าคำพิพากษาจะยังไม่ถึงที่สุด ยังอยู่ในกระบวนการอุทธรณ์ฎีกาตามกฎหมายอยู่ก็ตาม ก็ถือเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 166 (7) แล้ว ซึ่งจะแตกต่างจากกรณีของ ส.ส. ที่คำพิพากษาของศาลที่จะเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ ส.ส. สิ้นสุดลง ต้องเป็นคำพิพากษาที่ถึงที่สุดเท่านั้น
ส่วนเหตุการสิ้นสุดสถานภาพความเป็น ส.ส. หรือความเป็นรัฐมนตรีในกรณีที่ศาลพิพากษาให้รอการลงโทษและเหตุยกเว้นนั้น รัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (13) และ มาตรา 166 (7) บัญญัติไว้เหมือนกัน ดังได้กล่าวไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ทำให้สถานภาพความเป็น ส.ส. และรัฐมนตรีสิ้นสุดลงได้อีกกรณีหนึ่ง คือ หลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกแล้ว หากจำเลยที่เป็น ส.ส. หรือรัฐมนตรี ยื่นคำร้องขอประกันตัวหรือขอปล่อยชั่วคราว ก่อนที่จะมีการยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาคำพิพากษาของศาลต่อไป แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากศาลในทันที ทำให้ต้องถูกคุมขังชั่วคราวตามหมายศาลในระหว่างที่รอคำสั่งศาลว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือปล่อยชั่วคราวหรือไม่ กรณีดังกล่าวนี้ก็ถือเป็นเหตุให้สถานภาพความเป็น ส.ส. และรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (6) ประกอบ มาตรา 101 (6) และ มาตรา 160 (6) ด้วยเหตุจากการต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังโดยหมายของศาลเช่นกัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |