ทางการมาเลเซียเนรเทศผู้ถูกคุมขังชาวเมียนมากว่า 1,000 คน กลับมาตุภูมิแล้วเมื่อวันอังคาร แม้ว่าศาลเพิ่งมีคำสั่งระงับการส่งตัวกลับไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น หลังจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนต้องการตรวจสอบว่ามีชาวโรฮีนจาหรือผู้ลี้ภัยปะปนด้วยหรือไม่

    เอเอฟพีรายงานว่า คนเข้าเมืองชาวเมียนมาเหล่านี้ถูกพาขึ้นรถบัสและรถบรรทุกไปยังฐานทัพมาเลเซียริมชายฝั่งตะวันตกที่ซึ่งเรือของกองทัพเรือเมียนมา 3 ลำเทียบท่ารออยู่

    รัฐบาลสหรัฐและองค์การสหประชาชาติวิจารณ์แผนส่งตัวกลับของมาเลเซีย ขณะที่กลุ่มสิทธิกล่าวกันว่า มีผู้ขอลี้ภัยอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้ด้วย

    ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าการเนรเทศ ศาลสูงกัวลาลัมเปอร์เพิ่งมีคำสั่งให้ระงับการเนรเทศชั่วคราว เพื่อให้นักเคลื่อนไหวได้ต่อสู้คัดค้านทางกฎหมาย โดยพวกเขาอ้างว่ามาเลเซียอาจฝ่าฝืนหน้าที่รับผิดชอบระหว่างประเทศหากเนรเทศผู้ที่มีความสุ่มเสี่ยง และการยึดอำนาจของทหารเมียนมายิ่งทำให้คนเหล่านี้มีความเสี่ยงยิ่งขึ้น แต่เรือก็ยังนำพาผู้ถูกคุมขังชาวเมียนมา 1,086 คนเดินทางออกจากมาเลเซีย โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้อธิบายว่าทำไมจึงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล

    ไครุล ไซมี ดาอุด ผู้อำนวยการกองตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย ให้คำรับประกันว่า ไม่มีชาวโรฮีนจาหรือผู้ขอลี้ภัยอยู่ในกลุ่มที่โดนเนรเทศกลับเมียนมาในวันอังคาร "ทุกคนที่โดนเนรเทศยินยอมเดินทางกลับด้วยความสมัครใจ ไม่ได้ถูกบังคับ" เขายืนยัน และว่า คนเหล่านี้โดนคุมขังอยู่ที่ศูนย์กักขังคนเข้าเมืองผิดกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2563

    ก่อนหน้านี้ทางการมาเลเซียเคยกล่าวไว้ว่าจะมีชาวเมียนมาถูกส่งกลับประเทศ 1,200 คน ไม่มีความชัดเจนว่าทำไมจำนวนที่ถูกส่งกลับเมียนมาเมื่อวันอังคารจึงลดลง

    เจ้าหน้าที่ยืนกรานว่า พวกที่ถูกส่งตัวกลับทำผิดกฎหมาย เช่น อยู่เกินวีซ่า และการเนรเทศเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งตัวผู้อพยพเข้าเมืองจากประเทศยากจนกลับคืนประเทศตามปกติ

    ปีที่แล้วมาเลเซียส่งตัวชาวต่างชาติราว 37,000 คนกลับประเทศของพวกเขา และที่ผ่านมามีน้อยมากที่กลุ่มสิทธิจะต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อคัดค้านการเนรเทศ กรณีล่าสุดนี้เกิดเพราะความวิตกภายหลังการรัฐประหารในเมียนมาและความกังวลว่าบางคนอาจเป็นผู้ขอลี้ภัย.