เตือน'กลุ่มชาวพุทธฯ-อดีตผู้ว่าสตง.'ป้องพระโกงเงินหลวงเข้าข่ายสนับสนุน


เพิ่มเพื่อน    

17 พ.ค. 61 - นายไพบูลย์ นิติตะวัน ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้ตรวจพบการทุจริตเกิดขึ้นในวัดใหญ่แห่งหนึ่งภายในพื้นที่ กทม. และมีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินดังกล่าว เนื่องจากพบว่ามีการนำเงินดังกล่าวไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กำหนด จึงได้ทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน กระทั่งพบว่าพระชั้นผู้ใหญ่ของวัดดังกล่าวได้มีการโอนเงินงบประมาณที่ทางวัดได้รับมาจากทาง พศ. จำนวน 25 ล้านบาทจาก 30 ล้านบาท ไปให้กับ หญิงสาวรายหนึ่งที่พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ จนนำไปสู่การเข้าทำการตรวจค้นดังกล่าว

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวทราบว่าเป็นกระบวนการทุจริตงบประมาณแผ่นดินของพระชั้นผู้ใหญ่ที่มีกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน และอดีตผู้ว่าฯ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ออกมาปกป้องพระผู้ใหญ่ โดยพยายามกดดัน แทรกแซงเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้ทุกวิถีทาง แต่ตอนนี้มีหลักฐานปรากฎแล้วว่า พระชั้นผู้ใหญ่ในระดับกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เฉพาะวัดนี้เบิกงบประมาณแผ่นดินเพื่อใช้ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปแล้วหลายร้อยล้านปีละ 60 ล้านบาท โดยกรณีนี้นำเงินหลวงมาเข้าบัญชีวัดที่ตนเป็นเจ้าอาวาส จากนั้นก็โอนเงิน 25 ล้านบาทเข้าบัญชีสีกา แล้วให้สีกาเบิกเงินเป็นแคชเชียร์เช็กสั่งจ่ายคืนให้กับตนที่เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ระดับกรรมการ มส. แล้วก็นำไปใช้ต่อ พฤติกรรมอย่างนี้ทำให้เชื่อได้ว่าเข้าข่ายเป็นการฟอกเงินที่ได้จากการทุจริตเงินหลวงแล้ว และล่าสุดทราบว่าพระชั้นผู้ใหญ่ระดับกรรมการ มส.รายนี้ขณะอยู่ต่างประเทศ

"จึงขอให้ทั้งกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน และอดีตผู้ว่าฯ สตง. ที่ออกมารับรองความบริสุทธิ์ของพระชั้นผู้ใหญ่ ที่เป็นกรรมการ มส. รายนี้ ได้หูตาสว่างขึ้นด้วย เพราะการที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอาผิดกับบุคคลที่ทุจริตเงินหลวงนั้น ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นนักการเมือง ข้าราชการ หรือพระชั้นผู้ใหญ่ก็ตาม การทำหน้าที่ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ประชาชนทั้งประเทศเขาสนับสนุนกันทั้งประเทศ ดังนั้นกลุ่มบุคคลดังกล่าว ควรหยุดการเคลื่อนไหวในทางที่ไม่ถูกไม่ต้องเสีย เพราะอาจจะกลายเป็นเข้าข่ายสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดทุจริตเงินหลวง ซึ่งเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ แต่กลับอาศัยพระพุทธศาสนามาแสวงหาประโยชน์เข้าตน โดยไม่ชอบด้วยทั้งพระธรรมวินัยและกฏหมาย" นายไพบูลย์ กล่าว

นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า และเชื่อว่าการตรวจสอบทุจริตเงินหลวงของพระชั้นผู้ใหญ่ในระดับกรรมการ มส. โดยหน่วยงานของรัฐเช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินและขยายผลไปยังขบวนการหรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกมาก เป็นความเข้มแข็งของการบังคับใช้กฏหมายของรัฐบาลในยุคนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญนำไปสู่การปฏิรูปการปกครองคณะสงฆ์ และการจัดการทรัพย์สินวัดและพระภิกษุให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย ตามแนวทางที่คณะผู้ก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิรูปเสนอนโยบายแก้ไขปัญหาโดยให้มี พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ฉบับ “ธรรมาธิปไตย”ขึ้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"