ไม่รอด! ตร.จับมือยิงร้านคาราโอเกะหนี19ปี เหลือ16วันพ้นคดี


เพิ่มเพื่อน    

22 ก.พ. 64 - ที่กองบังคับการปราบปราม  (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก 5 บก.ป, พ.ต.ท.ณัทกฤช น้อยคำปัน รอง ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น รอง ผกก.5 บก.ป.และว่าที่ พ.ต.ต.ธีระยุทธ ไทยราช สว.กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายไปรวิทย์ หรือนัฐพงศ์ หรือ เอ็ม  (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 867/2546 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2546 ซึ่งถูกกล่าวหาว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจับกุมได้ที่ บริเวณขนำไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 9 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2544 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเเจ้งเหตุทะเลาะวิวาทที่บริเวณ ร้านคาราโอเกะ ม.4 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย จากการตรวจสอบทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายจรูญฯ (ผู้เสียชีวิต), นายวิมล (ผู้ได้รับบาดเจ็บ) พร้อมพวก ได้มานั่งดื่มสุรา ร้องเพลงคาราโอเกะ อยู่ภายในร้านคาราโอเกะดังกล่าว ต่อมาได้มีนายไปรวิทย์  และนายธงชัย เข้ามานั่งทานอาหารและเครื่องดื่มภายในร้านด้วยเช่นกัน โดยกลุ่มของนายไปรวิทย์ นั่งโต๊ะติดกับโต๊ะของนายจรูญ  และเมื่อนายจรูญ กับพวกเมาสุรา ได้ขว้างปาขวดแก้ว ก่อความรำคาญให้กับลูกค้าโต๊ะอื่น

นายไปรวิทย์ นายธงชัย พร้อมกับนายอ่อน ซึ่งเป็นคนดูแลร้าน จึงได้เข้าไปขอร้องให้นายจรูญ กับพวก หยุดขว้างปาสิ่งของ แต่นายจรูญ กลับไม่ยอมฟัง ขว้างปาขวดแก้วเช่นเดิม นายอ่อน จึงไปหยิบอาวุธปืนลูกซองยาวมาจากหลังร้าน และนำมาให้นายไปรวิทย์ฯ ยิงใส่นายจรูญ ไปจำนวน 1 นัด กระสุนปืนถูกนายจรูญ เข้าที่บริเวณแผ่นหลัง และเมื่อนายวิมล เห็นว่านายจรูญ ถูกยิงจึงได้เข้าไปช่วย ถูกนายไปรวิทย์ ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงใส่อีก1 นัด ทำให้นายวิมล ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเมื่อพวกของนายวิมล เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้รีบเข้าไปพาตัวนายวิมล ขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์หลบหนีเอาชีวิตรอด เหลือเพียงนายจรูญ ที่ถูกนายไปรวิทย์ ลากตัวออกมาจากร้าน ก่อนที่นายธงชัย ผู้ต้องหาที่ 2  จะใช้มีดพร้าฟันซ้ำที่ใบหน้าและลำคอ จนเป็นเหตุทำให้นายจรูญฯ ถึงแก่ความตาย

หลังจากก่อเหตุดังกล่าว ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้แยกย้ายกันหลบหนี แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวนายธงชัย และนายอ่อน มาดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงนายไปรวิทย์ ที่ยังคงหลบหนี โดยหลบหนีมานานกว่า 19 ปี 11 เดือน 14 วัน เหลือเพียง 16 วัน ก่อนที่คดีจะขาดอายุความ ในวันที่ 9 มีนาคม 2564 เเละเนื่องจากคดีดังกล่าวใกล้จะขาดอายุความ ทางพ่อของผู้เสียหายจึงได้เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ให้ช่วยติดตามจับกุมนายไปรวิทย์  ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่มาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านของพ่อผู้เสียหายใน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อสอบถามรายละเอียด และรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการติดตามจับกุมผู้ต้องหา

จนกระทั่งวันที่ 21  ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนจนทราบว่า นายไปรวิทย์ ได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 9 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อพบตัวนายไปร์วิทย์ จึงทำการจับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้หลบหนีไปพักอาศัย ที่ อ.หัวไทร ซึ่งเป็นบ้านของญาติของมารดา ประมาณ 1 เดือน ก่อนจะเปลี่ยนชื่อจากนายไปรวิทย์ เป็นนายนัฐพงศ์ เพื่อสะดวกต่อการหลบหนี หลังจากนั้นได้หลบหนีไปที่ จ.ยะลา ทำงานรับจ้างเป็นช่างในอู่ซ่อมรถยนต์ ประมาณ 7 ปี และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปิดล้อมจับกุมภายในอู่ แต่สามารถหลบหนีการจับกุมได้ จึงหลบหนีมาทำงานรับจ้างเป็นช่างซ่อมรถยนต์ที่กรุงเทพ และพักอยู่ในอู่ซ่อมรถตลอดมา จนกระทั่งเมื่อประมาณต้นเดือนมกราคม 2564 ตนทราบว่าคดีใกล้จะขาดอายุความแล้ว จึงคิดจะเปลี่ยนที่อยู่ชั่วคราว จึงได้หลบหนีไปพักอาศัยกับเพื่อนสนิท ที่หมู่ที่ 9 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต  จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อดูแลสวนผลไม้ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุมได้ในที่สุด.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"