เจอร์เกน คล็อปป์ ยอมรับเสียใจนำ ลิเวอร์พูล พ่ายศึกเมอรืซีย์ไซด์คาบ้าน เป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี ยืนยัน นักเตะยังมุ่งมั่นเต็มที่ที่จะเอาท็อปโฟร์ให้ได้ แม้สถานการณ์จะยากขึ้นอีก ขณะที่ คาร์โล อันเชล็อตติ ลั่นขอสร้างประวัติศาสตร์กับ เอฟเวอร์ตัน เพิ่มเติมต่อไปอีก หลังจากกลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรกของสโมสร ที่พาทีม"ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" บุกไปคว้าชัยได้ที่ แอนฟิลด์ นับจาก วอลเตอร์ สมิธ ในปี 1999
ลิเวอร์พูล สิ้นลายแชมป์พรีเมียร์ลีก หลังจากทำผลงานย่ำแย่ติดต่อกันมาหลายนัด เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ถึงกับแพ้ต่อทีมอริเพื่อนบ้าน อย่าง เอฟเวอร์ตัน คาถิ่นแอนฟิลด์ของตัวเองไปด้วยสกอร์ 2-0 นับเป็นการแพ้ในบ้านติดต่อกันเป็นนัดที่ 4 เป็นฟอร์มในถิ่นแอนฟิลด์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 100 ปี
นอกจากนั้นแล้ว ยังเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดของทีมป้องกันแชมป์ของลีกท็อปไฟลท์ นับตั้งแต่ปี 1929 โดย ลิเวอร์พูล ที่อยู่อันดับ 6 ของตาราง ตอนนี้มีคะแนนตามหลัง อันดับ 4 เชลซี ไปแล้วเป็น 3 แต้ม โดยมี 40 คะแนนเท่ากับ เอฟเวอร์ตัน ที่รั้งอันดับ 7 ขณะที่ ทีมที่รั้งอันดับที่ 5 คือ เวสต์แฮม มี 42 คะแนนก่อนลงเตะคืนวันอาทิตย์
ถามว่ารู้สึกอย่างไร คล็อปป์ ที่มักตบะแตกเก็บอาการไม่ค่อยู่ ต่างจากหน้าตายิ้มแย้มที่ข้างสนามเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ยอมรับว่า "รู้สึกเจ็บปวดมากมาก ผมไม่อยากที่จะคุยแม้แต่ส่วนที่ดีๆในเกมของเรา เพราะเราเป็นฝ่ายแพ้ และเราแพ้ในศึกดาร์บี้"
"ในช่วงวินาทีสำคัญ เราต้องปรับปรุงแก้ไข มันชัดเจนมาก"
อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ปฏิเสธว่าทีมไม่สามารถแบกรับความกดดันหลังจากการพ่ายแพ้ได้จนกลับมาไม่ไหว เพราะเคยคุ้นชินกับการเป็นฝ่ายชนะในช่วง 3 ปีหลังมานี้ โดยยืนยันพวกเขายังมีความมุ่งมั่นต้องการที่จะจบท็อปโฟร์ให้ได้ในฤดูกาลนี้ แม้สถานการณ์จะยากขึ้นอีกแล้วก็ตาม
"ถ้าคุณมองดูทีปัญหาเรื่องทัศนคติในสนาม คุณก็ต้องเขียนมันออกมา แต่ถ้าคุณไม่เห็น คุณจะเขียนมันไม่ได้"
"ผมไม่เห็นความเกี่ยวพันใดๆกับช่วง 3 ปีหลัง เราเป็นแชมป์เมื่อปีที่แล้ว และเราคว้าแขมป์ได้ก่อนจบฤดูกาลเป็นเดือน มันไม่ได้รู้สึกเหมือนกับว่ามันผ่านมาหนึ่งเดือนแล้ว"
"มันไม่ได้เกี่ยวกัน เด็กๆของเรายังมีความปรารถนาต่อการล่าแชมป์อย่างเต็มเปี่ยม ผมมองเห็น"
"แต่การจะเปลี่ยนเกมฟุตบอลและเก็บผลการแข่งขันได้ คุณต้องเด็ดขาดในช่วงเาลาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นตอนบุกหรือรับ และนั่นคือสิ่งที่เราขาด"
"เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ด้วยการเล่นแย่ ทางเดียวที่ผมรู้คือเราต้องพยายาม และพยายามต่อไปอีก"
ทางด้าน คาร์โล อันเชล็อตติ กลายเป็นผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน คนแรกที่พาทีมบุกไปคว้าชัยที่ แอนฟิลด์ได้นับจาก วอลเตอร์ สมิธ ในปี 1999 หลังจาก 2 ประตูจาก ริชาร์ลิสัน น.3 กับ จุดโทษของ ซิกูร์ดสสัน น.83 และเป็นการคว้าชัยในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ครั้งแรกในความพยายามทั้งหมด 24 ครั้งไม่ว่าจะเป็นการพบกันที่สนามไหน
"ผมรู้ว่าผมเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่เอาชนะ ลิเวอร์พูลได้ หลังผ่านมา 21 ปี ผมไม่รู้ว่านี่จะเพียงพอที่จะเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสรแห่งนี้ได้หรือไม่ แต่ถ้าไม่ ผมก็กำลังพยายามอยู่"
ถามถึงโอกาสไปแชมเปี้ยนส์ลีก กุนซือชาวอิตาเลี่ยน กล่าว "ท็อปโฟร์ รอก่อน เรากำลังต่อสู้เพื่อไปยุโรป และตอนนี้เราอยู่ในอันดับที่ดีทีเดียว"
สำหรับผลบอลพรีเมียร์ลีกคู่อื่นๆ เมื่อคืนวันเสาร์ (ทีมหน้าเจ้าบ้าน) เซาแธมป์ตัน เสมอ เชลซี 1-1, เบิร์นลี่ย์ เสมอ เวสต์ บรอม 0-0, ลิเวอร์พูล แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2, และ ฟูแล่ม ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-0
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |