ม็อบ3นิ้วหนาว ตำรวจเล็งเป้า! ออก'หมายจับ'


เพิ่มเพื่อน    


    "ตำรวจ" จ่อแจ้ง 2 ข้อหาแกนนำม็อบหน้ารัฐสภา  พร้อมเตรียมออกหมายจับชุมนุมหน้าศาลฎีกาเมื่อ 13 ก.พ.เพิ่มอีก 12 คน "กลุ่มอาชีวะ" อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกร่อย "กลุ่มราษฎรโขง ชี มูล" เดือดปะทะ ตร.ขอนแก่นเรียกร้องปล่อย "เพนกวิน-ไผ่ดาวดิน" 
    เมื่อวันที่ 21 ก.พ. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยการชุมนุมกลุ่มอาชีวะเวลา 15.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตั้งจุดตรวจค้นโดยรอบพื้นที่ คาดว่ามีผู้เข้าร่วมการชุมนุมไม่มาก จึงจัดเตรียมกำลังตำรวจ บก.น.6 จำนวน 2 กองร้อย ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงบริเวณการชุมนุม เนื่องจากจะมีการปิดกั้นการจราจร
    พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ในส่วนภาพรวมการชุมนุมช่วงวันที่ 19- 20 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการเจรจาระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุม ซึ่งตำรวจก็แนะนำให้ควบคุมการ์ดบางกลุ่มเป็นพิเศษ เนื่องจากความรุนแรงที่ผ่านมาพบเกี่ยวข้องกับการ์ดกลุ่มนี้ อย่างไรก็ดี ตำรวจจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะขณะนี้มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ห้ามชุมนุมทุกพื้นที่ โดยตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่ชักชวนร่วมชุมนุม ผู้ที่ขึ้นปราศรัย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการชุมนุม รวมไปถึงการ์ดที่ดูแลการชุมนุม ซึ่งจะพิจารณาไปตามพยานหลักฐานความผิดที่เกิดขึ้น เช่น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.ควบคุมโรค, พ.ร.บ.ความสะอาด
    "ส่วนเหตุการณ์ชุมนุมที่หน้าศาลฎีกาเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังมีการจับกุมผู้กระทำผิดซึ่งหน้าไปแล้ว 11 คน ตำรวจจะมีการออกหมายเรียกผู้ร่วมกระทำผิดอีกอย่างน้อย 12 คน เช่นแกนนำและผู้ที่ใช้ความรุนแรงในเหตุดังกล่าว" โฆษก บช.น.กล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมของกลุ่มอาชีวะที่นัดรวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 15.00 น. ไม่คึกคัก มีผู้มาชุมนุมบางตาเหมือนอย่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลคาดการณ์ไว้ 
    ขณะที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎรพร้อมด้วยแนวร่วมกลุ่มพีเพิลโก รวมกลุ่มภายใต้ชื่อกิจกรรม “เดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน” เดินเท้าจากลานอนุสรณ์วีรชนคนโคราช ข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. ไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขับไล่รัฐบาลและเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำคณะราษฎร 4 คนที่ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวไปกักขัง และเรียกร้อง 3 ข้อคือ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวกต้องลาออกจากรัฐบาล, ให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญและแก้รัฐธรรมนูญตามข้อเสนอจากประชาชน และให้ปฏิรูปสถาบัน โดยมีกำหนดจะเดินทางเป็นระยะทางกว่า 247 กิโลเมตรนั้น เมื่อวันที่ 21 ก.พ. เป็นการเดินวันที่ 6 ติดต่อกัน ขบวน “เดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน” เริ่มต้นเดินเท้าจากหน้าศูนย์การสุนัขทหาร ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ออกเดินตามเส้นทางถนนมิตรภาพ เป้าหมายวันนี้เป็นระยะทาง 15.3 กิโลเมตร 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่กลุ่มดังกล่าวแวะพักจุดที่ 1 ที่บริเวณศาลารอรถหน้าวิทยาลัยการอาชีพปากช่อง จุดนี้กลุ่มราษฎรและแนวร่วมฯ ได้ขอเข้าใช้ห้องน้ำภายในวิทยาลัยเทคนิคปากช่อง แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างทั่วถึง ทางผู้อำนวยการวิทยาลัยจึงปฏิเสธไม่ให้เข้าใช้ห้องน้ำ ทางกลุ่มจึงค่อนข้างไม่พอใจ เพราะมองว่าเป็นสถานที่สาธารณะ จึงพร้อมใจกันหยุดนั่งที่หน้าประตูทางเข้าวิทยาลัย ชู 3 นิ้วเรียกร้องให้เปิดประตูให้ผู้ร่วมเดินเท้าได้เข้าใช้ห้องน้ำ แต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้ผู้ที่ติดตามการ Live ของกลุ่มราษฎรต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่ทางกลุ่มจะเดินเท้าต่อไปยังจุดพักที่ 2 ตามถนนมิตรภาพสายเก่า เป็นระยะทาง 3.6 กิโลเมตร
    จากนั้นแวะจุดพักที่ 2 บริเวณศาลารอรถ กองการสัตว์และเกษตรกรรม แล้วเดินต่ออีก 2.2 กิโลเมตร เพื่อไปพักกลางวัน ที่จุดพักที่ 3 วัดจันทึก และเดินเท้าต่อไปอีก 2.3 กิโลเมตร ก่อนจะแวะพักจุดพักที่ 4 บ.เพื่อนเกษตร อ.ปากช่อง และมีเป้าหมายเดินต่ออีก 2.7 กิโลเมตร ไปจุดสิ้นสุดในวันนี้ ที่สถานีตำรวจทางหลวง 1 อ.ปากช่อง หาบริเวณปักหลักกางเต็นท์ และจัดกิจกรรมพิเศษ
    ที่ จ.ขอนแก่น เมื่อเวลา 00.01 น. กลุ่มผู้ชุมนุมในชื่อกลุ่มราษฎร โขง ชี มูล นำโดยนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่, นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือเซฟ และนายภาณุพงษ์ ศรีธนาณุวัฒน์ หรือไนซ์ ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมเดินจากสวนสาธารณะประตูเมืองขอนแก่น มายังหน้า สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อเรียกร้องให้มีการยกเลิกการดำเนินคดีมาตรา 112 กับนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน 2 แกนนำกลุ่มราษฎร ที่ถูกดำเนินคดีในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองขอนแก่น 
    โดยทันทีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนพลมาถึงยังหน้า สภ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจลและควบคุมฝูงชนได้ตั้งแนวโล่กำบังที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าไปภายใน สภ.เมืองขอนแก่นได้ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะขอพบกับ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสภ ผบช.ภ.4 เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ยกเลิกการดำเนินคดีในมาตรา 112 กับแกนนำคณะราษฎรทั้ง 2 คน แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจและพยายามฝ่าแนวกำแพงโล่ของเจ้าหน้าที่ จึงเกิดการปะทะกันขึ้น แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ 
    จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้ถอยมาตั้งหลัก พร้อมทั้งนำอาหารสุนัขชนิดเม็ดมาโปรยใส่เจ้าหน้าที่ที่ตรึงกำลังอยู่ทางเข้า สภ.เมืองขอนแก่น และพยายามที่จะฝ่าเข้าไปอีกครั้ง ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมกลุ่มผู้ชุมนุม 3 คน ก่อนที่จะปล่อยตัวออกมา และมีการเจรจากันอีกครั้ง ซึ่งตำรวจยอมถอยให้ผู้ชุมนุมเข้ามาภายใน สภ.เมืองขอนแก่น แต่ต้องอยู่บริเวณด้านหน้าเท่านั้น พร้อมส่งตัวแทน ผบช.ภ.4 เดินทางมารับหนังสือเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมพอใจแยกย้ายเดินทางกลับไปปักหลักชุมนุมต่อภายในสวนสาธารณะประตูเมือง ริมถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"