ฮื่ออ์อ์อ์...ก็ผ่านพ้นกันไปเป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว สำหรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมทั้งการลงมติ ว่าใครไว้วางใจ-ไม่ไว้วางใจกันไปคนละเท่าไหร่ แบบไหน และอย่างไร และไม่ว่า เหตุ หรือ ผล จะออกมาในลักษณะไหน สุดท้าย...ก็คงต้องหวนกลับมา อยู่ๆ กันไป ตามสภาพ ตามฐานานุรูป ของใครก็ของมันนั่นแหละทั่น!!!
------------------------------------------------
สรุปรวมความแล้ว...ไม่ว่า รสนิยม ของใคร-ของมันจะออกมาแนวไหน อย่างไร แต่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า นับวัน กลไก ที่ค่อนข้างต้องถือเป็นหลักสำคัญ หรือเครื่องมือชิ้นสำคัญ ในการตรวจสอบและถ่วงดุลของระบอบการเมืองที่เรียกๆ กันว่า ประชาธิปไตย ไม่ว่าในแบบของแท้แต่ดั้งเดิม หรือแบบที่จำต้องมี ลักษณะพิเศษ สอดแทรกร่วมอยู่ด้วย หรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่ มันออกจะเป็นอะไรที่ซูบซีด ทรุดโทรม หรือ แบบบ์บ์บ์แห้งง์ง์ง์ ยังไงก็ไม่รู้!!! คือไม่ได้คึกคัก สดใส ซาบซ่า ไม่ได้ส่งผลให้เกิดความเป็นไปในลักษณะที่ควรจะเป็น หรืออย่างที่ใครๆ หวังและต้องการเอาไว้ก่อนหน้านั้น...
-------------------------------------------------
และอาจด้วยเหตุทำนองนี้หรือไม่ ประการใด ก็มิอาจสรุปได้...มันเลยทำให้ระบอบการเมือง-การปกครองที่เรียกๆ กันว่า ประชาธิปไตย ไม่ว่าแบบไหน ต่อแบบไหน หรือระดับทั้งโลกนั่นแหละ ไม่ใช่แต่เฉพาะประเทศไทย เลยออกไปทาง...งั้นๆ!!! หรือคงต้อง อยู่ๆ กันไป ตามสภาพและตามฐานานุรูป ของใคร-ของมัน อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ดังนั้น...ใครชนะ ใครแพ้ ใครน่าไว้วางใจ ไม่น่าไว้วางใจ นับวัน...มันชักเป็นอะไรที่ค่อยๆ ห่าง ค่อยๆ จาง ไปจากความสนอก สนใจ ของผู้คนยิ่งเข้าไปทุกที และทำให้สิ่งที่เรียกว่า การเมือง นั้น ยิ่งเป็นอะไรที่น่าเบื่อ น่ารำคาญ ไม่ว่าใครจะเชียร์ใคร ด่าใคร หรือไม่ว่าใครจะหนุน ใครจะต้าน แต่สุดท้าย...มันก็ออกจะคล้ายๆ ไปด้วยกันทั้งหมดและทั้งปวง นั่นแหละสหาย...
-------------------------------------------------
ภายใต้สภาพแบบนี้...มันจะดี-ไม่ดี ควร-ไม่ควร ก็ออกจะพูดลำบาก!!! เพราะระหว่างการพอ อยู่ๆ กันไปได้ กับการ อยู่-เย็น-เป็นสุข นั้น มันน่าจะผิดแผก แตกต่าง กันไปแบบคนละเรื่อง คนละม้วน คือถ้าหากว่ากันตามพื้นฐานและสัญชาตญาณแห่งความเป็นมนุษย์แล้วล่ะก็ ไม่ว่าใครต่อใครนั่นแหละ...ต่างหวัง ปรารถนา และต้องการ ที่จะ อยู่-เย็น-เป็นสุข ไปด้วยกันทั้งสิ้น แม้ภายใต้ รสนิยม ที่ผิดแผก แตกต่าง กันไปในลักษณะไหนก็ตามที แต่ในเมื่อไม่อาจ อยู่-เย็น-เป็นสุข กันได้แบบจริงๆ จังๆ โดยทางเลือก ทางไป ของแต่ละคน แต่ละราย ถ้าไม่ลองปรับตัว ปรับสภาพ ให้พอ อยู่ๆ กันไปได้ ก็หนีไม่พ้นต้องหันมาฉะกัน เผชิญหน้ากัน หันมาสาดมือ สาดตีน หรือกระทั่งสาดอาวุธใส่กันและกัน ณ วันใด-วันหนึ่ง ขึ้นมาจนได้...
-----------------------------------------------------
ดังนั้น...ท่ามกลางสภาพบรรยากาศของการพอ อยู่ๆ กันไปได้ มันจึงแฝงไปด้วย อันตราย อยู่ไม่น้อยเช่นกัน คล้ายๆ ยังมีระเบิดเวลา หรือยังมีกองฟืน กองไฟ ที่ถูกสุม ถูกกอง ไว้รอการจุด การเผาไหม้ ได้ในแทบทุกช่วง ทุกระยะ ถ้าหากสังคมหนึ่ง สังคมใด ประเทศหนึ่ง ประเทศใด ดันตกอยู่ใน ความประมาท ขึ้นมาในช่วงไหนแล้วล่ะก็ โอกาส...เตร๊ง-เตรง-เตร่ง-ต๋อย ไฟไหม้มูลฝอยดังพรึ่บบ์บ์บ์ ย่อมเป็นไปได้เสมอๆ โดยไม่ว่า ความประมาท นั้นๆ จะอุบัติขึ้นมาโดยผู้มีอำนาจ หรือผู้บริหาร-ปกครอง ไปจนถึงบรรดาผู้ไร้อำนาจ หรือผู้ถูกปกครอง ได้ในอัตราส่วนที่ไม่ได้ผิดแผก แตกต่าง ไปจากกันมากมายซักเท่าไหร่...
----------------------------------------------------
เหมือนอย่างประเทศบ้านใกล้-เรือนเคียง...อย่างประเทศพม่า หรือเมียนมา ที่ยังแทบไม่รู้ว่าจะไป จบ กันในวันไหน และในลักษณะไหน ด้วยเหตุเพราะ ความประมาท ของผู้มีอำนาจ มีอาวุธปืนอยู่ในมือ ที่ออกจะประเมินอารมณ์-ความรู้สึกของผู้คนในพม่า ต่ำเกินไป ไม่สามารถ เข้าถึง และ เข้าใจ ต่อสิ่งที่แฝงฝังอยู่ภายในประเทศตัวเอง สังคมตัวเอง ได้อย่างลึกซึ้งถึงแก่น หรือแม้แต่ประเทศประชาธิปไตยแท้ๆ ของแท้และดั้งเดิม อย่างคุณพ่ออเมริกาก็ตาม ใช่ว่าจะอยู่ดีมีสุข หรือ อยู่-เย็น-เป็นสุข ไปเพราะความเป็นประชาธิปไตยก็หาไม่ โอกาสระเบิดตูมๆ ตามๆ ขึ้นมา ณ วันหนึ่ง วันใด ณ วินาทีหนึ่ง วินาทีใด ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย...
-------------------------------------------------
อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้...ล้วนแต่ตั้งอยู่บน ความประมาท ไม่ว่าของผู้ปกครอง หรือผู้อยู่ใต้ปกครอง ไปด้วยกันทั้งสิ้นนั่นแหละทั่น และก็แน่นอนนั่นแหละว่า สำหรับประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ก็คงไม่ได้มี ข้อยกเว้น ใดๆ ด้วยกันทั้งสิ้น แม้ว่าจะมี พระสยามเทวาธิราช ท่านคอยช่วงประคองหน้า ประคองหลัง มาโดยตลอดก็ตามที แต่บทจะไป บทจะระเบิดขึ้นมา ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย โดยเฉพาะถ้าหากระบบหรือระบอบการเมืองใดๆ ก็ตาม ยังไม่สามารถแปรสภาพการพอ อยู่ๆ กันไปได้ ให้กลายมาเป็นความ อยู่-เย็น-เป็นสุข ได้แบบจริงๆ จังๆ และแบบยั่งยืนและถาวร...
--------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก “Froude”... “The upward sweep of excellence is proportioned, with strictest accuracy, to oblivion of self which is ascending. – การก้าวสู่เบื้องสูงแห่งคุณธรรม ความดี มีส่วนสมดุลอย่างเคร่งครัดกับการลด-ละ-เลิก...อัตตา...ซึ่งมักทวีขึ้นตามลำดับ...”.
---------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |