คณะเภสัช จุฬาฯ พัฒนาสมุนไพร "พ่นจมูกและลำคอป้องกันการติดเชื้อโควิด-19"


เพิ่มเพื่อน    


20ก.พ.64-การใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาแม้จะปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดก็อาจเกิดการติดเชื้อได้เนื่องจากต้องมีการปลดหน้ากากอนามัยขณะรับประทานอาหารที่สำคัญเชื้อไวรัสมักจะปนเข้ามากับอากาศและเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและปาก การรับประทานสมุนไพรเพิ่มภูมิคุ้มกันอาจเป็นข้อจำกัดในคนบางกลุ่มเช่น ผู้มีโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุดังนั้นวิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสเฉพาะที่ด้วยสมุนไพรที่มีความปลอดภัยจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

 

คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ ภาควิชา เภสัชกรรมปฎิบัติ ได้ร่วมมือกับ University ofInnsbruck และ ADSI ประเทศออสเตรีย ประสบความสำเร็จในการศึกษาวิจัยการนำลำไยสกัดเข้มข้นด้วยกรรมวิธีพิเศษมาพัฒนาเป็นสูตรตำรับสมุนไพรพ่นลำคอและจมูกสามารถลดปริมาณไวรัสที่เกาะติดเยื่อบุและลดปริมาณไวรัสที่อาจเข้าสู่ร่างกายได้ เหมาะสำหรับการนำมาใช้ป้องกันการติดเชื้อไวรัสทุกนิดรวมทั้งไวรัสโควิด-19 โดยลำไยสกัดเข้มข้นด้วยกรรมวิธีพิเศษ (P80)ได้ผ่านการทดสอบแล้วว่าสามารถลดการยึดเกาะของเชื้อไวรัสที่เยื่อบุอ่อนไม่ว่าจะเป็นที่ โพรงจมูกและลำคอได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกทั้งยังสามารถลดการสร้าง complementary C3a ซึ่งเป็นสารก่อการอักเสบที่รุนแรงในปอดได้นับเป็นสมุนไพรตัวแรกที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการลดการติดเชื้อที่โพรงจมูกและลำคอได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง

ผลการศึกษาพบว่าฤทธิ์ดังกล่าวสามารถอยู่ได้นานถึง 2 วันขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาประสิทธิภาพในผู้ป่วยจริงทางคลินิกโดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ เปิดเผยถึงเหตุผลที่สนใจนำสารสกัดลำไยมาพัฒนาเป็นสูตรตำรับสมุนไพรดังกล่าว เนื่องจาก ลำไยเป็นผลไม้ที่เรานำมารับประทานเป็นอาหารอยู่แล้วจึงมีความปลอดภัยสูงเมื่อศึกษาตำราแพทย์แผนโบราณระบุว่าลำไยสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้จึงได้ศึกษาวิจัยสารสกัดลำไยจนพบว่าสามารถลดการยึดเกาะเชื้อไวรัสและมีฤทธิ์ต่อเชื้อไวรัสแทบทุกชนิดโดยได้ทำการทดสอบไปแล้วกับเชื้อไวรัสหลายประเภท เช่นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เชื้อที่ก่อให้เกิดโรคเริม ฯลฯซึ่งได้ผลมีประสิทธิภาพดี กับเชื้อไวรัสทุกชนิดที่ทำการทดสอบสำหรับกระบวนการในการทำวิจัย 

เยื่อบุในภาวะปกติ

เยื่อบุจมูกที่ติดเชื้อไวรัสและมีสารก่อการอักเสบ

เยื่อบุจมูกติดเชื้อหลังได้รับสารสกัดลำไยเข้มข้น

 

 

ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์กล่าวว่าเริ่มจากการเลือกสารสกัดลำไยที่มีสารสำคัญในกลุ่มโพลีฟีนอลในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารสกัดลำไยที่ผ่านกระบวนการสกัดพิเศษด้วยอุณหภูมิต่ำภายใต้ความดันสูงและผ่านการกรองหลายครั้งจนได้ารสกัดที่มีความเข้มข้นของสารสำคัญจากนั้นจึงนำมาตั้งสูตรตำรับสำหรับพ่นจมูกและลำคอเพื่อให้มีความหนืดและค่าความตึงตัวที่เหมาะสม เมื่อพ่นเข้าไปในโพรงจมูกและลำคอแล้วไม่ระคายเคืองที่สำคัญต้องสามารถให้ขนาดละอองที่พอเหมาะสามารถเข้าไปถึงอวัยวะที่ต้องการออกฤทธิ์ได้ ถ้าพ่นที่โพรงจมูกต้องขนาดเล็กพอให้ทั่วโพรงจมูกแต่ไม่เล็กจนทำให้เข้าสู่ปอด ถ้าพ่นลำคอต้องให้สามารถให้ละอองถึงด้านในลำคอได้โดยไม่ติดที่ปาก ลิ้น และฟัน

เมื่อศึกษาความคงตัวของสูตรตำรับแล้วจึงนำมาทดสอบทางคลินิกเพื่อดูประสิทธิภาพในผู้ป่วยจริง ในปริมาณการใช้สารสกัดลำไยที่เข้มข้นสำหรับป้องกันการติดเชื้อไวรัสนั้นใช้ปริมาณเล็กน้อยเท่านั้นสามารถใช้สารสกัดนี้พ่นได้ทั้งลำคอและช่องจมูก วันละ 2 ครั้งเช้าเย็น  ซึ่งสามารถออกฤทธิ์ได้ทันทีทั้งการออกฤทธิ์ทางกายภาพคือป้องกันการยึดเกาะของเชื้อไวรัสต่อเยื่อบุผิว และการออกฤทธิ์ทางชีวภาพเพื่อป้องกันการเกิดสารก่อการอักเสบในกรณีที่ผู้ใช้ต้องเดินทางไปในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ที่ๆมีคนแออัดก็สามารถใช้พ่นจมูกหรือลำคอก่อนเข้าสู่บริเวณดังกล่าวแล้วจึงสวมหน้ากากอนามัย


“งานวิจัยเรื่องนี้ได้ทำมาประมาณ 1 ปีครึ่งแล้วตั้งแต่ยังไม่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยทดสอบกับเชื้อไวรัสอื่นเมื่อมีการระบาดของเชื้อโรคนี้ จึงเริ่มนำมาทดสอบกับเชื้อโควิดขณะนี้อยู่ในระหว่างการทดสอบทางคลินิกในอาสาสมัครจำนวน 62 รายโดยมีความร่วมมือทางวิชาการกับโรงพยาบาลวิภาราม ชัยปราการคาดว่าอีก 3 เดือนผลิตภัณฑ์น่าจะออกสู่ท้องตลาดได้” ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"